วัยหนุ่ม 2544
วัยหนุ่ม 2544 ฉายแล้ว 28 พฤศจิกายน 2567 หนัง :Action Drama เรทผู้ขม 18 ความยาว 180 นาที
เรื่องย่อ
วัยหนุ่ม 2544 เป็นเรื่องราวของ เผือก เด็กสลัมที่ตัดสินใจผิดพลาดเพียงแค่ชั่ววินาทีเพื่อรักษาศักดิ์ศรีของแม่ที่เลี้ยงดูเขามาเพียงลำพัง แม้ว่าแม่จะขายยาส่งเสียก็ตาม ทำให้เขาถูกส่งตัวไปยังคุกวัยหนุ่ม ที่เขาได้ค้นพบว่าสังคมด้านหลังกำแพงนั้นไม่ต่างกับขยะสังคมที่ถูกมาเททิ้งไว้รวมกัน มันช่างมืดมนและโหดร้ายยิ่งกว่าโลกความเป็นจริงที่เขาจากมา พร้อมกับยังต้องมองหาหนทางเอาตัวรอดภายใต้วัฏจักรสุดอุบาทว์ที่เรียกว่า...สถานควบคุมความประพฤติ
"พุฒิพงษ์ นาคทอง" พ่อผู้ที่ให้กำเนิดหนังชุด 4Kings ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ยังคงกลับมารับหน้าที่ดูแลงานสร้างและเป็นหัวเรือใหญ่ในการขับเคลื่อนคอนเทนท์ลูกผู้ชายสุดจัดจ้านครั้งนี้อีกเช่นเคย ร่วมด้วยทีมงานผู้สร้างชุดเดิมส่วนใหญ่ที่กลับมาทำหน้าที่กันอีกครั้ง ทั้งในส่วนของบทหนังและงานโปรดักชันต่าง ๆ นั่นจึงทำให้ วัยหนุ่ม 2544 เป็นงานที่แทบจะลุยสร้างต่อได้เลยแบบไร้รอยต่อ
วัยหนุ่ม 2544
เริ่มต้นในส่วนของบทหนัง วัยหนุ่ม 2544 ก็ดูเหมือนว่าจะเจริญรอยตามในทิศทางคล้าย ๆ กับ 4Kings มากันเลย แต่ทว่าเรื่องนี้จะสามารถเจาะลึกและกัดกินในเฉพาะส่วนที่ต้องการโฟกัสเป็นหลักได้ดียิ่งขึ้น แม้ว่าจะต้องยอมรับว่าพล็อตเรื่องจะค่อนข้างง่าย ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากนัก ยังค่อนข้างขาดความคมคายและมิติในบทหนังไปอยู่บ้าง แต่ในพาร์ทความดรามาของหนังเรื่องก็ถือว่าทำออกมาได้ถึงแก่น
โดยเฉพาะการเล่าเรื่องที่น่าจะเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ตราตรีงคนดูเอาไว้ได้อยู่หมัด เพราะหนังใช้ลีลาการสร้างสถานการณ์และร้อยเรียงเรื่องราวได้ค่อนข้างสิ้นหวัง ผนวกเข้ากับห้วงอารมณ์แห่งความอึดอัดใจได้อย่างถึงอารมณ์เป็นอย่างดี กลายเป็นว่าชั่วโมงแรกผ่านไปอย่างน่าประทับใจ แม้ว่าจะเต็มไปด้วยซีนที่รู้สึกบีบคั่นมากมาย นำไปสู่ชั่วโมงหลังที่เต็มไปด้วยความหวังอันเต็มไปด้วยความสิ้นหวังโดยแท้
วัยหนุ่ม 2544
ในแง่งานสร้างและโปรดักชันก็ถือว่า วัยหนุ่ม 2544 ยังคงทำออกมาได้ดีตามมาตรฐานและบาร์ระดับที่จักรวาลหนังแห่งนี้เคยสร้างเอาไว้ก่อนหน้านี้ งานถ่ายภาพและออกแบบมุมกล้องยังน่าประทับใจอีกเหมือนเคย มีส่วนงานสร้างที่ช่วยขยี้อารมณ์คนดูได้อย่างคาดไม่ถึง เช่นเดียวกับ งานจัดแสงและเกรดสีภาพในหนังเรื่องนี้ ค่อนข้างสะท้อนโทนหลักของหนังได้เป็นอย่างดี เต็มไปด้วยความดิบเถื่อนแบบผู้ชาย ที่สร้างห้วงบรรยากาศออกมาได้ดุเดือดพร้อม ๆ กับอินเนอร์ของตัวละคร
ถึงจะมีจุดตกหล่นขาดหายในส่วนของการเก็บรายละเอียดในช่วงยุคสมัยไปบ้าง เพราะตามท้องเรื่องและชื่อเรื่องก็ระบุไว้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2544 แม้การสร้างแวดล้อมโลเคชันต่าง ๆ หนังจะทำออกมาได้ใช้ได้ดี แต่ยังมีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ขัดกับยุคสมัยไปหน่อย ทั้งไดอะล็อกบทพูดบางคำที่ฟังดูจะทันสมัยกว่ายุคในเรื่องไป พวกพร็อพต่าง ๆ ประกอบในฉาก เช่น ธนบัตร, สิ่งปลูกสร้าง หรือ ยานพาหนะ ในส่วนนี้ยังเก็บความละเอียดได้ไม่เนี๊ยบนัก แต่ก็เป็นจุดที่พอมองข้ามได้
วัยหนุ่ม 2544
และมาถึงไฮไลต์สุดจัดของวัยหนุ่ม 2544 นั่นก็พาร์ททางการแสดง ที่เแค่เห็นไลน์อัปรายชื่อนักแสดงที่ขนเอาทัพนักแสดงชายยอดฝีมือประจำยุคนี้มากองรวมกันเอาไว้ได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ แล้วผลลัพธ์ที่ออกมาในหนังเรื่องนี้ก็ได้กลายเป็นเหมือนการปล่อยระเบิดปรมาณูทางการแสดงครั้งใหญ่ของหนังไทยอีกครั้ง นี่คือทีมแคสติ้งนักแสดงที่จัดได้ว่าดีจัดจ้าน และน่าจะดีเลิศที่สุดในรอบปีนี้เลยก็ว่าได้ และนักแสดงทุกท่านทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีแบบการ์ดไม่ตกกันเลยสักคนเดียว
"ณัฏฐ์ กิจจริต" ที่แน่นอนว่าฝีมือการแสดงของเขาเป็นที่ยอมรับของวงการในยุคปัจจุบัน ความหลากหลายในการรับงานแสดงทุกรูปแบบของเขากลายเป็นที่ประจักษ์ เมื่อกลับมาโชว์ศักยภาพในโหมดดรามาจัด ๆ อีกครั้ง เขาก็สามารถรับมือและตอบสนองมันได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยบทที่โดดเด่น บทที่ส่งให้ และเขาขยี้มันออกมาได้ถึงใจ กลายเป็นตัวละครนำที่รับหน้าที่หลักในการแบกหนังเรื่องนี้เอาไว้ได้อย่างมั่นคง
วัยหนุ่ม 2544
ก่อนจะมาเสริมด้วย "เป้ อารักษ์" กับ "จ๋าย อิชณน์กร" ที่คู่นี้เหมือนมวยถูกคู่อะไรทำนองนั้น พวกเขามอบการแสดงที่น่าจดจำได้อีกครั้ง ถึงแม้ว่าในส่วนของมิติตัวละครของพวกเขาทั้งคู่ในหนังเรื่องนี้จะยังไม่ค่อยข้างชัดเจนมากนัก ด้วยพื้นที่ในหนังที่ไม่มีแอร์ไทม์ให้ได้สำรวจเท่าไหร่ แต่การรับมือในบทบาทของพวกเขาก็ทำออกมาได้จัดจ้าน เรียกได้ว่าเป็นองค์ประกอบปีกเสริมทั้ง 2 ข้างที่สร้างความแข็งแรงในการแสดงให้กับหนังเรื่องนี้
พร้อมกับต่อเดิมด้วยความจัดจ้านที่คิดว่าจะไม่ได้มีอะไรมาก แต่ดันมองข้ามไม่ได้เลยในการแสดงของ "เบนจามิน วาร์นี" และ "ท็อป ทศพล" ถึงจะเป็นบทลิ่วล้อตามหัวหน้าแก๊ง แต่กลายเป็นว่าพลังทางการแสดงของพวกเขาได้ช่วยบียอนด์และเติมมิติให้กับคาแรกเตอร์ที่พวกเขาถือครองอยู่ได้อย่างมั่นคงและมีตัวตนที่ชัดเจนมากกว่าที่คิดเอาไว้ กลายเป็นบทบาทที่ไม่จม ไม่หาย ไม่ถูกกลืนไปกับหนังเรื่องนี้เลยจริง ๆ
วัยหนุ่ม 2544
และอีกคนที่ไม่พูดถึงเลยคงจะไม่ได้ ก็คือ "เอม ภูมิภัทร" ที่เขาได้ทำการปล่อยระเบิดทางการแสดงอันทรงพลังอีกครั้งในผลงานชิ้นนี้ ต้องยอมรับว่าบทบาทของเขาแทบไม่ค่อยโดดเด่นนักในแง่การโปรโมตของหนังเรื่องนี้ แต่เมื่อมาอยู่บนหน้าจอหนังเรื่องนี้ เขาเป็นมากกว่าคำว่าบียอนด์จากบทบาทที่ตัวเองได้รับไปอีกระดับหนึ่ง ที่มอบแอคติ้งที่ดีจัดจ้าน ชนิดที่แทบจะยื่นตุ๊กตารางวัลต่าง ๆ ให้ไปแบบง่าย ๆ ได้เลย
วัยหนุ่ม 2544 น่าจะกลายเป็นผลงานหนังไทยที่สร้างความลำบากใจให้กับคณะกรรมการผู้จัดสรรผู้เข้าชิงรางวัลต่าง ๆ ในช่วงต้นปีหน้าอย่างแน่นอน โดยเฉพาะสาขานักแสดงนำชายและนักแสดงสมทบชาย เราเชื่อว่าพื้นที่โควต้าของสาขารางวัลนี้ น่าจะถูกจับจองเอาไว้จากผลงานหนังเรื่องนี้ นี่ยังไม่รวมการแสดงของ "สหัสชัย ชุมรุม", "เอ็ม สุรศักดิ์", "ก้อย อรัชพร" และการคัมแบ็กในรอบทศวรรษของ "จี๊ด แสงทอง" เรียกได้ว่าดีงามทั้งแคสติ้งเลย
วัยหนุ่ม 2544
อาจจะบอกได้ว่า วัยหนุ่ม 2544 คงจะเป็นหนึ่งในผลงานหนังไทยที่มอบผลลัพธ์ที่ค่อนข้างดีงามและประทับใจเรื่องหนึ่งในรอบปีนี้เลยก็ว่า ถึงแม้ว่าองค์ประกอบงานสร้างจะยังไม่ได้สมบูรณ์แบบถึงขั้นสุด แต่ก็ยังได้ความแข็งแรงในการเล่าเรื่องที่จัดจ้านได้อย่างถึงใจ ผนึกกำลังด้วยพลังการแสดงที่งดงามของทีมนักแสดงแบบยกชุด กลายเป็นส่วนผสมที่ดูจะขาด ๆ เกิน ๆ แต่กลับลงตัวกลมกล่อมได้อย่างไม่น่าเชื่อ นี่จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งชัยชนะของคอนเทนท์ดิบเถื่อนแห่งจักรวาลหนังลูกผู้ชายอีกครั้ง
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง: วัยหนุ่ม 2544
ประเภท: ดรามา / อาชญากรรม
ผู้กำกับ: พุฒิพงษ์ นาคทอง
นำแสดงโดย: ณัฏฐ์ กิจจริต, อารักษ์ อมรศุภศิริ, อิชณน์กร พึ่งเกียรติรัศมี, ภูมิภัทร ถาวรศิริ
ความยาว: 134 นาที
กำหนดฉายในไทย: 28 พฤศจิกายน 2024