#มนุษย์กรุงเทพฯxMcBrownEnglish

“หลังจากเรียนจบจากคณะเศรษฐศาสตร์ แล้วทำงานในโมเดลลิ่งเอเจนซี่ได้ครึ่งปี ทางครอบครัวอยากให้ทำอาชีพที่มั่นคง ผมเลยเปลี่ยนไปทำงานธนาคารตามคำแนะนำพ่อ ทำอยู่สามปีจนมั่นใจแล้วว่าไม่ใช่ตัวเอง เลยคุยกับพ่อว่า ‘ขอออกมาทำสิ่งที่เป็นตัวเอง’ การกระโดดออกมาจากความมั่นคงมันยากนะ ช่วง ม.6 เคยอ่านหนังสือแกรมม่าหนาเป็นพันหน้าจนเข้าใจ เลยไปสอบ TOEIC เก็บไว้ก่อน ผมทำได้ 950 คะแนน เลยถามตัวเองว่าคะแนนนั้นจะทำอะไรได้บ้าง งานที่สถานทูตเปิดรับก็เป็นสายวิทยาศาสตร์ คิดไปคิดมาแล้วนึกถึงการสอนภาษาอังกฤษ จุดเริ่มต้นมาจากความถนัดมากกว่าความชอบนะ แต่ถ้าจะสอนจริงๆ จังๆ ผมต้องรื้อฟื้นภาษาอังกฤษของตัวเองขึ้นมา เลยนึกถึงประสบการณ์ทำงานในโมเดลลิ่งเอเจนซี่ ที่นั่นถือเป็นโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษชั้นดี ผมเลยกลับไปสมัครงานที่บริษัทเดิม ทุกวันต้องคุยกับชาวต่างชาติ ทั้งลูกค้าและนายแบบ-นางแบบ ชีวิตในกรุงเทพฯ เหมือนอยู่ต่างประเทศเลย ความเครียดมาบีบทฤษฎีในหัวให้เกิดเป็นการปฏิบัติจริง

“ช่วงนั้นผมทำงานในโมเดลลิ่งเอเจนซี่ แล้วแบ่งเวลามาสอนภาษาอังกฤษเด็ก ม.ปลาย เพื่อนช่วยแนะนำนักเรียนมาอีกที เรานั่งกันใต้ร่มไม้ใน ม.เกษตร (หัวเราะ) เริ่มจากเอาข้อสอบมาให้ทำ แล้วเฉลยให้ฟัง หลังจากนั้นเปลี่ยนมาสอนที่ร้านกาแฟ สอนอยู่หลายคนจนเริ่มสังเกตว่า เด็กมักไม่เข้าใจจุดที่คล้ายกัน นั่นคือพวกเขาแปลไม่ออก เวลาผ่านไปสักระยะ ผมลองไปสมัครเป็นครูในสถาบันแห่งหนึ่ง เขารับ แต่พอดูตำรา ผมคิดในใจว่า ถ้าสอนแบบนี้เด็กคงเรียนไม่รู้เรื่องอยู่ดี วิธีการสอนมันไกลตัว เอาจริงๆ ผมก็เคยสอนแบบนั้น แต่พอถามแล้วเด็กเงียบ ถามกี่รอบก็ตอบว่า ‘ไม่รู้’ ‘ไม่รู้’ ‘ไม่รู้’ เลยต้องปรับวิธีการ พอเป็นแบบนั้นก็อยากเปิดโรงเรียนของตัวเอง หลังจากทำงานโมเดลลิ่งเอเจนซี่รอบสองได้สามปี ผมตัดสินใจลาออกมายึดอาชีพสอนภาษาอังกฤษเต็มตัว

"McBrown English ออกแบบวิธีการสอนและตำราผ่านการสังเกตความไม่เข้าใจของคนเรียน จุดไหนที่มักไม่เข้าใจเหมือนกัน เราสร้างแบบฝึกหัดให้สังเกตเห็นจุดนั้น เหมือนเป็นงานรีเสิร์ชที่ใช้เวลาหลายปีและเงินทุนหลายล้าน พอเจอจุดที่หลายคนไม่เข้าใจ ผมเพิ่มเนื้อหา ปรับวิธีการสอน หรือลองใช้สื่อแบบใหม่ๆ ปรับแก้เป็นหลายสิบรอบแล้ว ถ้าเปรียบเทียบกับบ้าน แกรมม่าคือโครงสร้าง คำศัพท์คือฝาผนัง หลังจากนั้นคือการฝึกฝน พอเข้าใจแกรมม่าและคำศัพท์ การเขียนต้องอาศัยจินตนาการด้วย บางคนยังเขียนภาษาไทยไม่ได้เลย ดังนั้นคุณต้องอ่านให้เยอะ ส่วนเรื่องการพูดต้องอาศัยประสบการณ์ เรามีโปรแกรมในสมาร์ทโฟนสำหรับฝึกพูด ฝึกให้ชินกับการออกเสียง หลายคนถามว่า ‘หนูโง่มากเลย เรียนได้เหรอ’ เราสอนภาษาอังกฤษพื้นฐานในมุมของผู้ใหญ่ ถ้าคุณรู้ว่า ‘I’m fine.’ แปลว่า ‘ฉันสบายดี’ แค่นี้ก็เรียนได้แล้ว

“ผมเริ่มสอนภาษาอังกฤษจากความถนัด แต่เวลาผ่านไปหลายปี อาชีพนี้ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า บางคนมาเรียนด้วยหน้าตาอมทุกข์ วิธีการสอนของผมมีบันไดที่มองไม่เห็นให้คนเรียนได้เดินขึ้นไป พอเวลาผ่านไปค่อยๆ เข้าใจมากขึ้น  ทุกครั้งที่เห็นคนเรียนมีพัฒนาการ เราดีใจและภูมิใจ (เงียบนึก) มันอิ่มอกอิ่มใจนะ อาชีพนี้กลายเป็นงานประจำที่นานที่สุด การเป็นครูเติมเต็มชีวิตจนไม่คิดจะเปลี่ยนงานแล้ว เพราะเป็นทั้งงานที่เกิดรายได้ ทำแล้วมีความสุข และสร้างประโยชน์ให้กับคนอื่น เรื่องความชอบกลายเป็นเรื่องเล็กไปเลย”

-

McBrown English เป็นโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่ออกแบบ ‘วิธีการสอน’ และ ‘ตำรา’ ผ่านการสังเกตความไม่เข้าใจของคนเรียน ภายใต้บรรยากาศของห้องเรียนที่ผ่อนคลาย ทุกคนเรียนได้แม้ไม่มีพื้นฐาน (เงื่อนไขเดียวคืออายุ 13 ปีขึ้นไป) ไม่มีกระดานหน้าชั้น ส่วนวิธีการเรียนนั้นเป็นแบบกึ่งตัวต่อตัว และยังเปิดโอกาสให้แต่ละคนสร้างตารางเรียนของตัวเองได้อีกด้วย ใครสนใจอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.brown-english.com/