ชีวิตพังเพราะเทรด ฟอเร็กส์
ขอเกริ่นก่อนนะครับว่าเมื่อก่อนไม่มีหนี้ ไม่มีบัตรเครดิต ชีวิตใช้เงินเดือนที่ได้มาเงินเหลือใช้เหลือเก็บ พอสมควร
จนมาวันนึงช่วงที่บิตคอยและฟอเร็กเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น เห็นคนลงทุนประสบความสำเร็จมากขึ้น ผมจึงตัดสินใจที่จะลงทุน
โดยทำการเปิดบัญชีเทรด ฟอ้ร็กส์ กับโบรคต่างชาติโบรคนึง หวังว่าจะเทรด พวกบิตคอย ทอง และ ค่าเงิน เพร่ะใช้เงินลงทุนน้อยกว่าตลาด tfex บ้านเรา
หลังจากเปิดบัญชีเสร็จก็ได้ทำการฝากเงินเข้าไปเทรด 5,000 บาท ช่วงแรกๆ ก็ได้เพราะทิศทางช่วงแรกๆ จะง่ายและเราพอมีเงินเลยไม่โลภ คุมสติได้อยู่ พอเราได้ และ มีกำไรเรื่อยๆ ก็เลยตัดสินใจ เอาเงินฝากเพิ่มไปอีก 10,000 บาท เพื่อลงทุนเพิ่มเยอะขึ้น ให้ได้มากขึ้น พอลงทุนไปก็มีได้มีเสีย แต่ส่วนมากก็คือได้ แต่ก็มีช่วงที่ลงทุน และจำเป็นต้องใช้เงิน เลยถอนออกมาบ้างเลยทำให้โดนล้างพอร์ตไป
แล้วก็โอนเข้าไปใหม่อีก 50,000 บาท ทีนี้เล่นไปเล่นมาก็รู้สึกช่วงที่ตลาดเล่นยาก ช่วงที่บิตคอยลงแรงๆ จาก 60,000 ลงมาเหลือ 19,000 ผลปรากฏว่าโดนล้างพอร์ต ในพอร์ตทั้งกำไรและเงินฝากมีประมาณเกือบ 1 แสนบาท โดนล้างหมดเลย เพราะบิตคอยลงไม่หยุด
เครียดมากเสียหายหนักมาก เลยเหลือเงินเก็บก้อนนึง เลยเอาลงเทรดอีกครั้งประมาณ 40,000 และได้ไปทำเรื่องกู้เงินมาอีกจำนวนนึง ประมาณ 1.5 ล้านเพราะกู้หลายธนาคาร และช่วงก่อนโควิด รายได้ยังมีเยอะ เพราะรายได้จากการกินค่าคอมมิชชั่น และไม่เสียเครดิต เพราะไม่เคยกู้ ใช้เงินสดอย่างเดียว
ครั้งนั้นตัดสินใจกู้เงินหลายธนาคาร มาได้ 1.5 ล้าน รวมถึงบัตรเครดิต เอามารูดเอาเงินสด มาลงทุน ในบิตคอย และทองหวังว่าจะได้ทุนคืน
แต่แล้วทุกสิ่งก็ไม่เป็นดังหวัง หลังโควิดสถานการณเลวร้ายลงเรื่อยๆ บิตคอยลงมาจนถึง 12,000 กว่า และทองก็ลงมาเรื่อยๆ จนโดนล้างพอรตไปหลายครั้ง เครียดมากเหลือเงิน 500,000 บาท ซึ่งก็ทั้งจ่ายหนี้แต่ละเดือนและดอกเบี้ย ที่กู้มา ในระยะเวลา ครึ่งปี 500,000 ก็ใกล้หมด เหลือไม่กี่หมื่น ลงทุนไป ก็ไม่ดีขึ้น
ช่วงนั้นลูกคลอดพอดีก็ต้องใช้เงินอีก จำเป็นต้องขายรถทิ้งไปอีก และไปกู้บริษัทเอาเงินมาจุนเจือครอบครัว แต่ก็ยังมีเจียดเงินไปลงทุน บ้าง แต่ก็โดนล้างพอร์ตตลอดเวลา เพราะผิดจังหวะตลอด
ช่วงต้นปี 67 เป็นช่วงที่เลวร้ายที่สุด เพราะหนี้บัตร หนี้สินเชื่อขาดจ่ายเกินมา 2-3 เดือน เงินหมุนไม่ทัน บ้านผ่อนไม่ไหว ตัดสินใจด้วยน้ำตาคุยกับลูกเมีย จะส่งลูกเมียไปอยู่ต่างจังหวัด ทั้งที่จำเป็นไม่อยากห่างกัน เพราะตั้งแต่คลอดจนอายุ 2 ขวบ ไม่เคยห่างกันเลยทั้งพ่อแม่ลูก สุขทุกข์ด้วยกัน
สุดท้ายส่งลูกเมียไปอยู่ต่างจังหวัด ผมก็ทำงานอยู่ กทม คนเดียว และก็ยังเข้าไปเล่นฟอเร็กส์บ่อยๆ เพราะคาดหวังว่าจะพอหาเงินพิเศษจากทางนี้ได้บ้าง แต่ก็ไม่เป็นอย่างที่คิด เงินเดือนได้มา มาจมกับฟอเร็กส์หมดเลย ใช้หนี้ไม่ทัน จำเป็นต้องให้ทางบ้านช่วยเหลือ พ่อกับแม่พอทราบข่าว ตัดสินใจขายที่นา 6 ไร่ ได้เงิน 500,000 บาท มาจ่ายหนี้ ซึ่งมี 9 ธนาคารที่เป็นหนี้
แต่ปิดหนี้ได้แค่ธนาคารเดียว ยังเป็นหนี้อีก 8 ธนาคารซึ่งก็ไม่ไหว ก็ปล่อยให้ทวง บางธนาคารก็ฟ้องขึ้นโรงขึ้นศาล 2-3 ธนาคารแล้ว ถึงประนอมหนี้ปรับโครงสร้างก็ไม่ไหว ไม่มีเงินจ่าย ใหนจะกู้จากเพื่อน นอกระบบอีก เพื่อมาโป๊ะหนี้ จนพอกหางหมู จนตอนนี้เงินเดือนได้มาไม่เหลือเลย วันๆ กินข้าวไม่ถึง 100 บาท เรื่องกินไม่มีปัญหาเพราะไม่ค่อยกินข้าว แต่โดนทวงหนี้ทุกวัน จนท้อ
คิดจะฆ่าตัวตายก็ทำไม่ได้ เห็นหน้าลูกคิดถึงลูกทำไม่ได้แน่นอน จะไม่ยอมทิ้งลูกและเมียอยู่ลำพังแน่นอน เลยต้องทนอยู่ไปวันๆ โดยไม่มีอนาคต เพื่อนที่สนิทก็พอมีช่วยเหลือบ้าง แต่เพื่อนๆที่ห่างๆ และญาติ คนรู้จักตีตัวห่าง ไม่กล้าที่จะโทรหา เพราะกลัวเรายืมเงิน ดีที่มีอพื่อนที่รักกันมาก 2-3 คนคอยช่วยเหลือบ้าง
สรุปทุกวันนี้ชีวิตพังพินาศมาก แค่อยากจะมาเล่าให้ฟังว่า ลงทุนฟอเร็กส์ เลวร้ายกว่าที่คิด มีรายละเอียดยิบย่อยมากกว่านี้แต่ไม่ได้ลงดีเทล ผมทำงานสายลงทุน แต่สุดท้ายก็พลาดท่ากับฟอเร็กส์ ที่โดนล้างพอร์ตตลอด
ระวัง ฟอเร็กส์ทุกโบรค สามารถโกงเราได้ทั้งเรื่องกราฟ และการฝากเงิน ถอนเงินที่ช้า กรณีที่เราต้องการฝาก ถอน ตอนนั้นๆ เพราะมันคือความเส่่ยง เช่นเมื่อเราใกล้โดนล้างพอร์ต ระบบฝากเงินจะช้ามาก และ ถ้าเรานอนอยู่อาจโดนล้างพอรตโดยไม่รู้ตัว โบรคสามารถทำกราฟให้สูงหรือต่ำกว่าราคาเป็นจริงได้เพื่อให้เราโดนล้าง
ใครสงสัยตรงใหน อินบ๊อกมาปรึกษาได้ ผมลงทุนในฟอเร็กส์ มา 5-6 ปีละ ส่วนมากคือเสีย และเสียเยอะมากด้วย
พอดีผมมาพิมพ์เล่าตอนทำงาน อาจจะมีข้อความตกหล่น และพิมพ์ผิดถูกและพิมพ์ไม่หมด ยังอยากจะเล่าให้ฟังอีกเยอะนี่แค่ส่วนนึงในชีวิตผมที่เข้ามายุ่งกับฟอเร็กส์ ผมนอนไม่หลับ หลับไม่สนิท มา 2 ปีแล้ว บางคืน คิดจนฟุ้งซ่าน นอนร้องไห้คนเดียว
สุดท้ายนี้ชีวิตผมต่อไปไม่รู้จะเดินไปยังไง แต่ที่แน่ๆ ผมตายไม่ได้ เพราะลูกสาวที่น่ารัก ยังต้องหวังพึ่งผมอยู่ ผมก็ได้แต่หวังว่า ชีวิตผมจะผ่านไปได้ ถ้าไม่มีกำลังใจจากครอบครัวโดยเฉพาะลูกสาว ผมคงไม่ได้มานั่งพิมพ์ ตรงนี้
สุดท้ายแล้วถ้าใครอยากช่วยเหลือครอบครัวผม เข้ามาอ่านมาทักทาย มาคุยกันได้ครับ หรือให้ผมทำงายพิเศษอะไรก็ได้ครับ ผมชอบทำงานบ้าน บ้างห้องน้ำ ชอบทำอาหารครับ