8 โรคประหลาด
1. Hypertrichosis (โรคแวร์วูล์ฟ)
สาเหตุ
โรคนี้มีสาเหตุหลักมาจากความผิดปกติทางพันธุกรรม ทำให้มีการเจริญเติบโตของขนทั่วร่างกายมากเกินไป รวมถึงใบหน้าและหลัง แม้ว่าจะเป็นโรคที่หายากมาก แต่ก็มีรายงานว่ามีผู้ป่วยเพียงไม่กี่รายทั่วโลก นอกจากนี้ Hypertrichosis ยังสามารถเกิดขึ้นได้จากการใช้ยาบางชนิด เช่น Minoxidil ที่ใช้ในการรักษาผมร่วง
อาการ
อาการหลักคือการมีขนยาวหนาแน่นในส่วนต่างๆ ของร่างกายที่ปกติไม่มีขนขึ้น เช่น ใบหน้า และร่างกายส่วนบน
การรักษา
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคนี้ให้หายขาด แต่สามารถใช้วิธีการกำจัดขนด้วยเลเซอร์หรือการโกนขนเพื่อลดอาการ
2. Foreign Accent Syndrome (โรคอันเดอร์วอเตอร์คิสซิ่ง)
สาเหตุ
เกิดจากความเสียหายของสมองในส่วนที่ควบคุมการพูด ซึ่งอาจเกิดจากอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ โรคหลอดเลือดสมอง หรือการผ่าตัดสมอง
อาการ
ผู้ป่วยจะเริ่มพูดด้วยสำเนียงที่แตกต่างจากสำเนียงปกติของตัวเอง ซึ่งอาจไม่เคยพูดมาก่อน เช่น การพูดด้วยสำเนียงอังกฤษ ทั้งๆ ที่เป็นคนอเมริกัน เป็นต้น
การรักษา
การบำบัดด้วยการพูด (Speech Therapy) สามารถช่วยในการปรับปรุงการพูดได้ แม้ว่าอาการจะไม่หายขาด แต่ก็สามารถช่วยให้การพูดกลับมาใกล้เคียงปกติได้
3. Lichen Planus (โรคไลเคนพลานัส)
สาเหตุ
โรคนี้เกิดจากปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติซึ่งทำให้เกิดการอักเสบของผิวหนังและเยื่อเมือก สาเหตุที่แท้จริงยังไม่ชัดเจน แต่นักวิจัยเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันที่ทำงานผิดพลาดหรือการติดเชื้อไวรัส เช่น ไวรัสตับอักเสบซี
อาการ
ผู้ป่วยจะมีผื่นคันสีแดงหรือม่วงบนผิวหนังที่สามารถปรากฏได้ทั่วร่างกาย รวมถึงแผลเปื่อยในปากและบริเวณอวัยวะเพศ ผื่นมักเป็นแบบเรื้อรังและอาจทำให้รู้สึกไม่สบาย
การรักษา
การรักษาส่วนใหญ่เป็นการบรรเทาอาการ โดยใช้ยาแก้อักเสบหรือสเตียรอยด์เพื่อลดการอักเสบและคัน ในบางกรณีอาจต้องใช้ยาเพื่อลดปฏิกิริยาภูมิคุ้มกัน
4. Alice in Wonderland Syndrome (โรคฮัลลิซินอัจสจัรนิค)
สาเหตุ
เกิดจากความผิดปกติของการรับรู้ในสมอง มักพบในเด็กและวัยรุ่นที่มีภาวะไมเกรน บางครั้งอาจเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อไวรัส เช่น ไวรัส Epstein-Barr ที่ทำให้เกิดโมโนนิวคลีโอสิส (Mononucleosis)
อาการ
ผู้ป่วยจะมีการบิดเบือนการรับรู้ ทำให้เห็นวัตถุหรือส่วนต่างๆ ของร่างกายมีขนาดใหญ่หรือเล็กเกินจริง รวมถึงการรับรู้เวลาที่ผิดปกติ เช่น เวลาผ่านไปเร็วหรือช้ากว่าความเป็นจริง
การรักษา
ไม่มีการรักษาที่ชัดเจนสำหรับโรคนี้ เนื่องจากอาการมักจะหายไปเองตามธรรมชาติ แพทย์อาจให้การรักษาเพื่อบรรเทาอาการไมเกรนหรือควบคุมการติดเชื้อที่เกี่ยวข้อง
5. Trigeminal Neuralgia (โรคไตรแอนจูมินอล นิวรัลเจีย)
สาเหตุ
เกิดจากการถูกกดทับหรือระคายเคืองของเส้นประสาทไตรแอนจูมินอล (Trigeminal Nerve) ในสมอง ซึ่งอาจเกิดจากการที่หลอดเลือดแดงหรือหลอดเลือดดำที่อยู่ใกล้เส้นประสาทเกิดการขยายตัวผิดปกติ หรือเกิดจากเนื้องอกในสมอง
อาการ
ผู้ป่วยจะมีอาการปวดอย่างรุนแรงเหมือนไฟช็อตบริเวณใบหน้า อาจเกิดขึ้นเป็นระยะๆ หรือเป็นอย่างต่อเนื่อง อาการปวดมักจะกระตุ้นโดยการสัมผัสที่เบาหรือการเคลื่อนไหวของใบหน้า
การรักษา
การรักษามักใช้ยากันชักเพื่อควบคุมอาการปวด หรือในบางกรณีอาจต้องใช้การผ่าตัดเพื่อลดการกดทับของเส้นประสาท
6. Moebius Syndrome (โรคโมเอเบียสซินโดรม)
สาเหตุ
เป็นโรคทางพันธุกรรมที่เกิดจากความผิดปกติของเส้นประสาทสมองที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของใบหน้าและการกลอกตา เกิดจากการพัฒนาที่ผิดปกติของเส้นประสาทสมองในระหว่างการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
อาการ
ผู้ป่วยไม่สามารถแสดงออกทางสีหน้า เช่น ยิ้ม หรือขมวดคิ้ว นอกจากนี้ยังอาจมีปัญหาในการกลอกตาและการดูดนมในวัยเด็ก
การรักษา
ไม่มีการรักษาที่หายขาด แต่สามารถใช้การผ่าตัดเพื่อปรับปรุงการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้าได้ การบำบัดด้วยการพูดและการทำกายภาพบำบัดสามารถช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
7. Hutchinson-Gilford Progeria Syndrome (โรคฮัทชินสัน-กิลฟอร์ด โปรเจอเรีย)
สาเหตุ
เกิดจากการกลายพันธุ์ในยีน LMNA ที่ทำให้เกิดโปรตีนผิดปกติชื่อว่า "โปรเจอริน" (Progerin) ซึ่งทำให้เซลล์ในร่างกายเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว
อาการ
ผู้ป่วยจะมีลักษณะทางร่างกายที่คล้ายกับคนสูงอายุ เช่น ศีรษะล้าน ผิวหนังบาง และกระดูกเปราะ ภายในไม่กี่ปีหลังจากเกิด อาการมักปรากฏชัดเจนเมื่อเด็กอายุประมาณ 1-2 ปี
การรักษา
ยังไม่มีวิธีการรักษาที่หายขาด แต่การใช้ยาเพื่อควบคุมอาการและป้องกันภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด สามารถช่วยยืดอายุของผู้ป่วยได้
8. Foreign Object Ingestion Syndrome (โรคไมโครซูเมีย)
สาเหตุ
มักเกิดขึ้นในผู้ป่วยที่มีภาวะทางจิตเวช เช่น ออทิซึมหรือโรคจิตเภท ผู้ป่วยอาจมีความต้องการหรือพฤติกรรมที่ไม่สามารถควบคุมได้ในการกลืนสิ่งของที่ไม่ใช่อาหาร เช่น เหรียญ กระดุม หรือวัตถุมีคม
อาการ
การกลืนสิ่งของที่ไม่ใช่อาหารอาจทำให้เกิดการอุดตันของทางเดินอาหาร การทะลุของลำไส้ หรือการติดเชื้อ
การรักษา
การรักษาขึ้นอยู่กับประเภทและขนาดของวัตถุที่ถูกกลืนเข้าไป อาจต้องใช้การส่องกล้องเพื่อนำวัตถุออกหรือในบางกรณีอาจต้องผ่าตัด