เจ้าของร้านทองเล่านาทีฮึดสู้โจร เหตุแน่ใจว่าเป็น “ปืนปลอม” แต่ไม่แนะให้เลียนแบบ 🏅

เหตุการณ์โจรบุกปล้นร้านทองสิ้นท่ากลางร้าน เหิมเกริมควงปืนปลอม เจอเจ้าของร้านฮึดสู้ ก่อนเจอจุดจบ ตำรวจมาถึงค้นประวัติจนแน่ชัดว่าไม่ใช่อดีตตำรวจชายแดนใต้ตามที่อ้าง

เมื่อเกิดเหตุระทึกที่โจรบุกเดี่ยวปล้นร้านทองใน จ.พัทลุง ตำรวจ สภ.เมืองพัทลุงได้รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดี และรีบรุดไปยังร้านทองที่เกิดเหตุ ซึ่งตั้งอยู่หน้าตลาดสด เขตเทศบาลเมืองพัทลุง เมื่อไปถึงพบว่าเจ้าของร้านทองและพนักงานในร้านได้ช่วยกันจับคนร้ายไว้แล้ว

ทราบต่อมาว่าผู้ก่อเหตุชื่อ นายวรวิทย์ อายุ 28 ปี ข้อมูลล่าสุดยืนยันแล้วว่าไม่ใช่อดีตตำรวจพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้แต่อย่างใด โดยอาศัยอยู่ที่ ต.แพรกหา อ.ควนขนุน จ.พัทลุง

จากการตรวจสอบหลักฐานจากกล้องวงจรปิด พบว่านาทีที่คนร้ายลงมือก่อเหตุชิงทรัพย์ แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากเจ้าของร้านทองเกิดฮึดสู้ หลังสังเกตเห็นว่าปืนที่คนร้ายใช้ขู่นั้นเป็น “ปืนปลอม” ตอนนั้นมีลูกค้าอยู่ในร้าน 4 ราย ต่างพากันวิ่งหนีด้วยความตกใจ

จังหวะที่คนร้ายเผลอเก็บอาวุธปืนใส่กระเป๋า เจ้าของร้านทองสบโอกาส รีบวิ่งเข้าไปหาคนร้ายทันที ก่อนจะกระโดดเข้าจู่โจมบริเวณหน้าเคาเตอร์ร้าน และหลังจากออกแรงล็อกคอพร้อมกับจับคนร้ายทุ่มลงกับพื้น พนักงานอีก 2 คนก็รีบเข้ามาช่วยตะครุบตัวคนร้ายจนสิ้นท่าในที่สุด

จากการค้นตัวคนร้าย พบอาวุธปืน, ค้อน, ขวาน, มีดพับ, ดิ้วเหล็กกระบองตำรวจ และขวดพลาสติกในกระเป๋าสะพาย

สมพงษ์ เก้าเอี่ยน เจ้าของร้านทอง เล่าว่านาทีที่ตัดสินใจฮึดสู้กับโจรเพราะไม่อยากเสียทรัพย์สิน พอสังเกตเห็นปืนที่คนร้ายเอาออกมาขู่ก่อนจะเก็บใส่กระเป๋าว่าเป็นปืนปลอม จึงตัดสินใจเข้าไปตะครุบตัว

อย่างไรก็ดี เจ้าของร้านไม่แนะนำให้ใครเลียนแบบ เพราะหากปืนไม่ใช่ปืนปลอมอาจเกิดความสูญเสียขึ้นได้ แต่ตอนนั้นเขามีสติจึงกล้าที่จะสู้และลงมือจับโจรปล้นร้านทองด้วยตัวเอง ส่วนคนร้ายหยิบทองไปได้เพียงเส้นเดียว เป็นทอง 1 บาท และเคยมาที่ร้านก่อนหน้านี้เมื่อนานมาแล้ว

ขณะที่คนร้ายสารภาพว่าก่อเหตุเพราะต้องการนำเงินไปใช้หนี้พนันออนไลน์ที่ต้องจ่ายเดือนละแสน และเตรียมการก่อเหตุมาประมาณครึ่งเดือน