ถึงจะเป็นคนยุคเก่าที่ยังไม่ค่อยกล้าจะย้ายไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า100% สักเท่าไหร่แต่ใจก็อยากลองนะ หลังจากงานโชว์รถครั้งล่าสุดที่ผ่านมาเห็นกระแสรถยนต์EV มาแรงมากกกจนต้องหันมองแล้วมองอีก จนช่วงหยุดยาวตรุษจีนเลยพาที่บ้านไปขับรถเล่นซักหน่อย อยากเทสไดรฟ์ตัว BMW i5 ที่มาด้วยระบบไฟฟ้า 100% มานานแล้วที่โชว์รูมอมรฯ รัชดามีรถวันที่เราว่างพอดี มาพร้อมน้อง BMW Genius สุดหล่อซะด้วย อิอิ
ความประทับใจแรกที่สำหรับรูปลักษณ์ BMWi5 เนี่ยออกแบบมาทันสมัย ดูแล้วล้ำๆ กระจังหน้าทึบ เพราะไม่ต้องเปิดรับการระบายอากาศ ทีเด็ดของกระจังหน้า หนีไม่พ้น BMW Iconic Glow ที่ยกระดับให้ หรูหราเกินคำบรรยาย ดีไซด์เหมาะสมกับตัวรถ หรูหรา สมความเป็นBMW และที่สะดุดตาคือความยาวและกว้างของรถนั้นกว้างขึ้นว่าซีรีย์5 ตัวเก่า ขนาดยังไม่ได้เปิดเข้าไปในตัวห้องโดยสารก็รู้ได้เลยว่าต้องนั่งสบายอย่างแน่นอน
ที่ชอบมากคือจอการแสดงผลใหญ่สะใจ ระบบปฎิบัติการ OS 8.5 และที่สะดุดตาที่สุด คือแถบไฟแสดงผล ที่ปรับไปตามโหมดของการขับขี่ ที่เจ้า BMWi5 มีมา 3 โหมด นั่นก็คือ Comfort ,Sport,และ Eco เช่นโหมดสปอต์ไฟรอบคันตรงเนี่ยก็จะเปลี่ยนเป็นสีแดง บอกเลยว่าขับสนุกนึกว่าขับยานอวกาศ แน่นอนว่าถ้าแฟนพันธ์แท้BMW จะรู้ว่า ฟังก์ชั่นเนี่ย มีในซีรีย์ 7เท่านั้น แต่BMW i5 นำฟังก์ชั่นนี้มาให้เราได้เล่นกัน (รูปไฟนี่ยืมมาจากเนตน้า..เพราะถ่ายมาไม่สวยเลยแดดสะท้อน 555)
หลังจากที่ได้ทดลองขับรู้สึกเลยว่าอัตราเร่งดีมาก ลืมรถยนต์ระบบน้ำมันแบบเดิมๆไปเลย ถึงจะขับโหมด Sport ก็ตาม จะรู้สึกเหมือนขับ Comfort ไม่มีเสียงจากเครื่องยนต์รบกวน ไม่มีการสั่นจากเครื่องยนต์ ล้อหลังมีระบบช่วยเลี้ยวทำให้ขับขี่ในเมืองได้สบายขึ้นไม่น่าแปลกใจที่รถที่ทั้งใหญ่และยาวขนาดนี้ทำไมขับได้คล่องซะเหลือเกิน อ๋อ..และถ้าเราเลือกโหมดSportนะ ตัวเบาะคนขับจะมีการปรับให้อุ้มตรงเอวกับผู้ขับให้รู้สึกปลอดภัยมากขึ้นด้วย เท่สุด ใส่ใจสุด
อีกอย่างที่สุดจะประทับใจไม่แพ้กัน BMWi5 เนี่ยมีระบบจอดเข้าซอง หรือจอดแบบด้านข้างเพียงแค่กดปุ่ม เจ้าBMWi5 นั้น จะถอยจอดให้เราได้โดยที่ล้อของเราจะไม่ไปเฉี่ยวฟุตบาทอีกต่อไป สามีของเราจะได้ไม่บ่นอีกต่อไป ปรบมือรัวๆ ห้องโดยสาร เป็นอย่างที่คิด กว้างขวางมากนั่งสบาย เบาะหนังสีน้ำตาลครีม และมีระบบเครื่องอากาศแยกเป็นสัดส่วน เครื่องเสียง HARMAN เจ้าประจำ อันนี้ไม่ต้องบรรยายความกระหึ่มของระบบเครื่องเสียง เทสเสียงกันจนไม่อยากจะลงจากรถ 555
มาต่อกันที่ระบบชาร์จ หัวชาร์จแบบ Combined Charging Unit (CCU) รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC และการชาร์จแบบไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุดที่ 205 กิโลวัตต์ มีระบบฟาสชาร์จด้วยนะแป๊บเดียวเต็ม ที่ Amorn Prestige เค้ายังมีบริการสำหรับลูกค้าสามารถเข้ามาชาร์จฟรีที่โชว์รูมได้ตลอด ระหว่างรออย่าลืมไปนั่งจิบกาแฟกินขนมรอในศูนย์บริการด้วยล่ะ การชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งวิ่งได้ระยะทาง 580 กม. แต่อันนี้คือตามมาตรฐานนะเพราะมันขึ้นอยู่กับการขับขี่ของแต่ละคนด้วย ข้อดีอีกอย่างของเจ้า AI ของ bmw นี่จะบันทึกไลฟ์ไตล์การขับขี่ของเราเอาไว้หมด ใครใช้รถคนเดียวจะยิ่งรู้สึกเลยว่ารถช่างรู้ใจเราดีแท้ ส่วนอัตราการเร่ง 0-100 อยู่ที่3.8 วินาทีบอกแล้วว่ายานอวกาศแท้ๆ แต่ว่า....ขับในประเทศไทยเรานั้น ไม่ได้เหยียบกันขนาดนั้นหรอกเอามารีวิวเป็นความรู้แล้วกัน
ก่อนจบรีวิวก็ต้องมากันที่ราคา มี2 รุ่นนะ ที่เข้าไทย BMW i5 eDrive40 M Sport ราคา 4,999,000 บาท และ BMW i5 M60 xDrive ราคา 5,599,000 บาทชอบรุ่นไหนก็จัดมา และต้องขอของคุณ เซล์ลน้องเต้ และ BMW Geniusน้องต๊อบจาก Amorn Prestige สาขารัชดา ที่ดูแลเป็นอย่างดี๊..ดี ทั้งเรื่องการทดลองขับและอาหารเครื่องดื่ม บอกเลยจุกกว่าโปรก็การบริการที่ Amorn Prestigeนี่แหละ และที่สำคัญ เรื่องโปรลดแลกแจกแถมประกันต่างๆนาๆไปคุยกันเอง แต่ที่จะบอกก็คือ มาทดลองขับBMW ที่ Amorn Prestige ทุกสาขาไม่ว่าจะรังสิต รัชดาอย่าลืม รับฟรี! คุกกี้นำโชคต้อนรับตรุษจีน ส่วนส้มที่เราได้มานั้นเค้า ให้เฉพาะช่วงเทศกาลตรุษจีน นี่ก็ดองรีวิวไปครึ่งเดือน555 คนอ่านไม่ได้ส้มอย่างแน่นอน เอาน่าแต่อย่าลืมไปใช้บริการแล้วกันนะ
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ขอการันตีไว้ตรงนี้เลยว่า BMW i5 จะพลิกวงการรถยนต์EVได้อย่างแน่นอน ไม่เชื่อให้ไปลองขับดู!!! ไม่เล็กไม่ใหญ่ คล่องตัวสปอตแบบซีรีย์3 แต่หรูหราแบบซีรีย์7 เฉียบทุกสัมผัส!!!!!