พาชม 10 มือถือสุดแปลก ที่คุณจะต้องร้อง ห๊ะ!!

ในปัจจุบัน มือถือถือเป็นสิ่งที่ทุกคนจำเป็นจะต้องมีและใช้ แม้ว่าแต่ละรุ่นจะมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะมีหน้าตาและฟังก์ชั่นที่เหมือนๆ กันไปหมดเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของคนส่วนใหญ่ หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่ามีมือถือแปลกๆ ที่เกิดมาเพื่อตอบโจทย์คนกลุ่มน้อยด้วย โดยมาในดีไซน์และฟังก์ชั่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งในโอกาสนี้เราได้คัดมาให้ชมกัน 7 รุ่นด้วยกัน จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

1.BlackBerry Storm ปี 2008

 

สิ่งที่ทำให้มันแตกต่างคือการที่มันมีหน้าจอแบบ Resistive โดยจะตรวจจับแรงกด (หน้าจอจะยุบตัวลงเล็กน้อยเมื่อกด) แต่มือถือส่วนใหญ่จะใช้หน้าจอ Capacitive ที่อาศัยการตรวจจับประจุไฟฟ้าจากปลายนิ้วมือของเรา ซึ่งทำให้ BlackBerry Storm ให้ความรู้สึกเวลากดบนหน้าจอที่แตกต่างออกไปอย่างชัดเจน โดยเฉาะเวลาพิมพ์ข้อความที่จะให้ความรู้สึกเหมือนกดคีบอร์ดจริงๆมากกว่า

 

2.Samsung Matrix ปี 2003

 

ทาง Samsung ได้เปิดตัวโทรศัพท์รุ่นนี้ในปี 2003 เพื่อหนังเรื่อง The Matrix Reloaded โดยเฉพาะ ซึ่งความพิเศษของมันก็คือการร่วมมือการออกแบบระหว่างทีมสร้างหนัง The Matrix และ Samsung และนอกจากเราจะได้เห็นมันบนภาพยนต์แล้ว ทาง Samsung เองก็ๆด้ผลิตมันขึ้นมาขายจริงเช่นกัน แต่มีจำนวนจำกัดเพียง 10,000 เครื่อง และมีราคาขายแบบติดสัญญาอยู่ที่ประมาณ 15,500 บาท และในปัจจุบันมันก็ได้กลายเป็นของหายากที่นักสระสมอยากได้ ทำให้มันเคยถูกขายไปในราคา 30,000 บาท

 

3.Siemens Xelibri 6 ปี 2003

 

เป็นโทรศัพท์มือถือแนวแฟร์ชั่นที่ทาง Siemens ตั้งใจทำมาเจาะกลุ่มลูกค้าผู้หญิง โดยมีการออกแบบตัวเครื่องให้คล้ายกับตลับแป้งพัฟ อีกทั้งฝาพับด้านในยังทำมาจากวัสดุเงา ทำให้สามารถใช้เป็นกระจกได้ด้วย นอกจากนนั้นมันก็มีฟังก์ชันที่คล้ายๆกันกับโทรศัพท์มือถือในยุคนั้น

 

4.Telson TWC 1150 ปี 2005

 

โทรศัพท์มือถือที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนอุปกรณ์แปลงร่างของเหล่ายอดมนุษย์นั้น ถูกผลิตและวางจำหน่ายจริงในปี 2005 โดยมีจุดขายคือเป็นโทรศัพท์มือถือที่มีเอาไว้สวมใส่บนข้อมือ ซึ่งในสมันนั้นมันถือว่าเป็นไอเดียที่แปลกใหม่มาก แต่คงเป็นเรื่องตลกหากใครจะใช้มือถือแบบนี้ในปัจจุบัน เพราะตอนนี้เราต่างก็มีสมาร์โฟนและสมาร์ทวอทช์กันอยู่แล้ว

 

5.Nokia 7280 ปี 2004

 

สร้างความฮือฮาได้เป็นอย่างมากในตอนที่ Nokia เปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ในปี 2004 ด้วยรูปร่างที่ดูคล้ายลิปสติกเพื่อเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบแฟร์ชั่นโดยเฉพาะ และมันก็ได้รับผลตอบรับที่ดีมาก จนในปีถัดมา Nokia ก็ได้เปิดตัวรุ่นต่อยอด ซึ่งมันก็คือ Nokia 7380 นั่นเอง

 

6.Energizer Power Max P19k Pop ปี 2019

 

โทรศัพท์รุ่นนี้มีความหนาถึง 26 มิลลิเมตร ซึ่งเหตุผลที่มันต้องหนาขนาดนี้ก็เป็นเพราะว่าทาง Energizer ได้ใส่แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่มีความจุถึง 18,000 mAh เข้าไป หรือเรียกได้ว่ามันคือสมาร์ทโฟนที่ได้รวมร่างเข้ากับพาวเวอร์แบงค์กันเลยทีเดียว ซึ่งตัวต้นแบบของมันนั้นถูกเอามาจัดแสดงในงาน Mobile World Congress ปี 2019 แต่สำหรับแผนการผลิตมาวางจำหน่ายจริงนั้นกลับถูกยกเลิกไป เพราะทาง Energizer ไม่สามารถระดมทุนกับโปรเจกต์นี้ได้มากพอนั้นเอง

 

7.Samsung Serene ปี 2005

 

โทรศัพท์มือถือรุ่นนี้เกิดขึ้นมาจากความร่วมมือของ Samsung และ Bang & Olufsen (B&O) โดยพวกเขาต้องการสร้างโทรศัพท์มือถือที่ดูเรียบหรูและมีดีไซน์ที่แตกต่างจากมือถือตามท้องตลาดทั่วไป จนสุดท้ายไก้ออกมาเป็น Samsung Serene ซึ่งเป็นมือถือจอพับ ดูแปลกตาด้วยคีบอร์ดแบบวงกลม และมันก็มีราคาขายสูงถึง 1,275 USD หรือประมาณ 4 หมื่นบาทเลยทีเดียว

 

8.Light L16 ปี 2017

 

อย่างที่เราเห็นกันในปัจจุบัน นับวันจำนวนกล้องบนมือถือของเราก็ยิ่งจะเพิ่มมากขึ้นทุกที จากที่แต่ก่อนโทรศัพท์มือถือมักมีกล้องหลังเพียง 1 ตัว แต่ในปัจจุบันมีกัน 3-4 ตัวเป็นเรื่องปรกติแล้ว แต่นั้นก้ยังเทียบกันไม่ได้กับโทรศัพท์มือถือที่มีชื่อว่า Light L16 ที่จัดเจ้มด้วยกล้องถึง 16 ตัว กระจายตัวอยู่ด้านหลังของตัวเครื่อง โดยคอนเซปของพวกเขาคือการนำกล้อง DSLR ที่สามารถถอดเปลี่ยนเลนส์ได้มาไว้บนโทรศัพท์มือถือ พวกเขาจึงได้ยัดเลนส์ทั้งหมดเท่าที่พวกเขาจะทำได้ลงมาในมือถือเครื่องนี้ และด้วยความพิเศษของมันก็ทำให้มันมีราคาสูงถึง 1,699 USD หรือประมาณ 57,000 บาทเลยทีเดียว

 

9.The Golden Buddha Phone ปี 2009

 

มีการวางจำหน่ายที่ประเทศจีนในปี 2009 มีลักษณะเป็นมือถือทรงตลับแป้งพัฟ ตัวเครื่องถูกเครื่องด้วยทองคำ 24K ด้านหลังมีการฝังหยกแท้ลงไปเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล สนนราคาอยู่ที่ 1,750 USD หรือเกือบ 60,000 บาทเท่านั้น

 

10.Monohm Runcible ปี 2015

 

Monohm Runcible เป็นโทรศัพท์มือถือที่เรียกได้ว่าอยู่ขั่วตรงข้ามกับมือถือทั่วไป เพราะมันถูกแบบภายใต้แนวคิดที่ว่า มือถือนั้นทำให้ชีวิตคนวุ่นวาย เพราะต้องคอยดูแจ้งเตือน หรือเลื่อนไถฟีดทำนู่นทำนี่อยู่ตลอดเวลา ดังนั้น Monohm Runcible จึงถูกออกแบบให้เรียบง่ายที่สุด โดยได้รับแรงบันดาลใจมากจากนาฬิกาพกสมัยโบราณ อีกทั้งมันยังไม่สามารถแจ้งเตือนใดๆเลย นอกจากผู้ใช้จะจงใจหยิบมันขึ้นมาดูเท่านั้น