เจ้าอาวาสวัดบางคลาน มอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ แก้ปัญหาเด็ดขาด หลังยังเข้าวัดไม่ได้
ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. พระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือ วัดบางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รักษาราชการแทน ผบก.ทล. พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รักษาราชการแทน ผบก.ปปป. ตัวแทนเจ้าหน้าที่จาก ป.ป.ท. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ร่วมประชุมหารือแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทกรณีวัดบางคลาน พระครูพิสุทธิวรากร บอกว่า ที่ผ่านมาได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ไม่สามารถเข้าวัดได้ จึงจำเป็นต้องมาร้องขอความเป็นธรรมกับ บก.ปปป. ให้ช่วยแก้ไขปัญหา ซึ่งหลังจากนี้ได้มีการมอบอำนาจให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เข้าไปดูแลวัด เพื่อแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่วัด ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ตำรวจท้องที่ เข้าไปจัดการแต่ก็ยังไม่สามารถเข้าวัดได้ เมื่อจะเข้าไปที่วัดแต่ละครั้ง เพราะกลุ่มมวลชนที่ยึดวัดก็เหมือนจะรู้ตัวก่อน รีบมาปิดประตู จนเกิดการปะทะ ยิงหนังสะติ๊ก ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ จนไม่สามารถเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ได้ สร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก
ส่วนกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ให้หลังไม่นานวัดก็ถูกกลุ่มมวลชนบุกรุกเข้าไปยึดครองเช่นเดิม ดังนั้นการให้ตำรวจ บก.ปปป. เข้ามาช่วยแก้ปัญหาจึงคาดหวังว่าจะสามารถจัดการได้ เพราะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่รัฐไม่จัดการอย่างจริงจัง ทำงานแบบลูบหน้าปะจมูก ไม่เต็มที่ ทั้งที่เป็นความผิดซึ่งหน้าก็ไม่มีการจับกุมอะไร สำหรับผู้อยู่เบื้องหลังก็ได้ให้ข้อมูลกับทางตำรวจ บก.ปปป. ไปหมดแล้ว ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า วันนี้ได้ร่วมพูดคุยกับหลายๆ ส่วนเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น ลากมายาวนานกว่า 7-8 ปี ทางหลวงพ่อเองท่านก็อยากจะจัดการปัญหาให้จบสิ้น ประกอบกับเห็นว่าทางตำรวจ บก.ปปป. เคยเข้าไปแก้ไขปัญหาที่วัดห้วยด้วน จ.นครสวรรค์ แล้วสามารถแก้ได้สำเร็จ จึงอยากให้ใช้โมเดลเดียวกัน โดยตั้งตำรวจ บก.ปปป. ตำรวจท้องที่ นายอำเภอ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เข้ามาบริหารจัดการวัด แต่จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ของวัด
ส่วนมาตรการเริ่มจากเบาไปหาหนัก โดยจะเปิดให้คู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่ายเจรจาหาข้อสรุปกันก่อน ส่วนตัวอยากให้ทุกอย่างจบบนโต๊ะ แต่หากไม่สำเร็จก็คงต้องนำเอากฎหมายมาบังคับใช้ โดยจะให้หลวงพ่อถอยไป แล้วปล่อยให้ตำรวจดำเนินการทางกฎหมายกับผู้บุกรุก เส่วนตัวไม่หนักใจ เพราะหากแก้ไขปัญหาไม่สำเร็จ แสดงถึงความอ่อนแอของข้าราชการ หรือ เจ้าหน้าที่รัฐ ที่ผ่านมามีหมายแต่ไม่สามารถทำอะไรเท่าที่ควรได้ ปัญหาจึงเรื้อรัง วันนี้เมื่อได้รับสิทธิ์มาแล้ว จึงจะต้องทำให้เกิดเป็นรูปธรรม แก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง จริงจัง หากมวลชนรายใดไม่เห็นด้วยหรือต่อต้านก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควร ต้องบังคับใช้กฏหมายอย่างเข้มงวด แต่ยืนยันว่าทางที่ดีที่สุดคือการเจรจา ดีกว่าการใช้กำลังไม่เกิดประโยชน์และดูไม่ดีต่อพระพุทธศาสนา พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกวว่า กรณี สว.กิตติศักดิ์ มองว่าเป็นบุคคลคนหนึ่งตามรัฐธรรมนูญ อยู่ภายใต้กฎหมายต้องรับฟังเรา ถ้าไม่ให้เกียรติกันก็ต้องบังคับใช้กฎหมาย ทุกคนอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ถึงแม้จะเป็น สว. แต่ถ้าขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย












