ท้องถิ่นทำเงิน! เก็บหอยกะพงในทะเล แกะเนื้อส่งขาย รายได้เดือนละกว่า 70,000 บาทชายหาดหัวหิน ต.ละงู อ.ละงู จ.สตูล ถือเป็นอีกแหล่งหนึ่งที่ชาวบ้านทำประมงแบบอนุรักษ์ จึงมีทรัพยากรในพื้นที่ให้ใช้กันอย่างคุ้มค่า โดยเฉพาะหอยกะพง

ซึ่งเป็นหอยที่ขึ้นอยู่ตามพื้นท้องทะเลที่เป็นโคลน

 

เช่นที่ชายหาดหัวหินจะมีชาวบ้านขับเรือเข้ามาจอดเพื่อนำหอยกะพงที่เก็บได้นำมาต้มแกะขาย ถือเป็นชีวิตประจำวันของคนที่นี่

 

นางชบา ชาวบ้าน ต.ละงู อ.ละงู จ.สตูล เร่งนำกระสอบหอยกะพงขึ้นรถซาเล้งหรือสามล้อพ่วงข้าง เพื่อนำหอยมาต้มและแกะส่งลูกค้าตามออเดอร์ให้ทันเวลา นำหอยที่ผ่านการล้างน้ำในทะเลมาแล้ว นำไปต้มในปี๊บที่ใส่น้ำตั้งไฟเดือดอยู่แล้ว โดยใช้เวลาต้มไม่เกิน 5 นาที

 

ก่อนจะนำมาเทกองเพื่อให้ชาวบ้านในหมู่บ้านกว่า 20 คน ที่มารับจ้างแกะเนื้อได้ทำการแกะเนื้อดึงสะดือหอยที่เป็นทรายออก

 

นางชบา บอกว่าตนทำอาชีพหาหอยกะพงแกะเนื้อส่งขายมานานกว่า 20 ปี แล้ว โดยสามีจะเป็นคนลงไปเอาหอยในทะเลใกล้ๆกับเกาะลิดีห่างจากฝั่งประมาณ 5 กิโลเมตร ออกไปเอาช่วงน้ำทะเลลดต่ำสุด ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ในการหาและจะทำการล้างกับน้ำทะเลจนสะอาดก่อนนำใส่เรือกลับมาบ้านเมื่อนำมาถึงบ้านตนเองจะมีหน้าที่ต้มเพราะขั้นตอนที่ต้องพิถีพิถันหากต้มนานไปเนื้อหอยก็จะหดและเหี่ยวไม่สวย แต่หากต้มเร็วเกินไปก็จะไม่สามารถดึงสะดือหอยที่มีดินและทรายออกมาได้

 

เมื่อต้มเสร็จก็จะให้คนงานแกะจากนั้นนำเนื้อหอยไปล้างให้สะอาด 5-6 น้ำ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีทรายหรือสิ่งสกปรกตกค้างอยู่ที่ทำมายาวนานเพราะของตนสะอาด จึงจะนำมาใส่ตะกร้าให้สะเด็ดน้ำและเอามาบรรจุใส่ถุงส่งตามออร์เดอร์ที่ลูกค้าสั่งไว้ในราคาขายส่งกิโลกรัมละ 50 บาท ส่วนขายปลีกกิโลกรัมละ 60 บาท

 

โดยจะมีแม่ค้ามารับถึงบ้านหรือบางวันก็จะส่งต่างจังหวัดให้ลูกค้าที่สั่งทางออนไลน์มา โดยแต่ละวันจะขายเนื้อหอยประมาณ60-90กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับออเดอร์ของลูกค้าที่สั่งไว้ มีรายได้วันละ 2,000-2,500 บาทนางชบากล่าวว่าสำหรับหอยกะพงนั้น ที่ผ่านมาทุกปีมีไม่เกิน 6 เดือน ซึ่งเป็นช่วงลมตะวันออกหรือฤดูแล้งตั้งแต่เดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนเมษายน เพราะช่วงฤดูฝนเนื้อหอยจะไม่สวย แต่สำหรับปีนี้ไม่แน่ใจว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ตนเองสามารถหาหอยได้ทั้งปีและเนื้อหอยก็อ้วนสวยมากจึงทำให้ปีนี้ตนมีรายได้จากการขายเนื้อหอยกะพงทั้งปี

 

ชาวบ้านในพื้นที่ประมาณ 20 คน ที่มารับจ้างแกะเนื้อหอยก็มีรายได้ด้วย ตน ให้ ก.ก.ละ 10 บาท แต่ละคนมีรายได้วันละ 100-150 บาทมาจุนเจือครอบครัวดีกว่าอยู่เฉยๆ ได้นั่งคุยกันไม่เบื่อไม่เหงา