หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ การเงิน Pic Post
 
Page หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype
 
อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่
 
เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ
 
คำนวณ การเงิน ราคา BitCoin/Crypto
 
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
 
Login เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
 
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

หลักความเชื่อ 10 ประการ (กาลามสูตร)

การสรุปหลักกาลามสูตรว่า "อย่าเพิ่งเชื่อ ให้พิจารณาก่อนจึงค่อยเชื่อ" นั้นไม่ถูกต้องเพราะหลักกาลามสูตรก็บอกอยู่แล้วว่า

๑. อย่าเชื่อว่าเป็นความจริงเพียงเพราะเหตุว่า ได้ยินได้ฟังมา
๒. อย่าเชื่อว่าเป็นความจริงเพียงเพราะเหตุว่า เป็นเรื่องเล่าสืบต่อกันมาตั้งแต่โบราณ
๓. อย่าเชื่อว่าเป็นความจริงเพียงเพราะเหตุว่า กำลังล่ำลือกันอยู่อย่างกระฉ่อน
๔. อย่าเชื่อว่าเป็นความจริงเพียงเพราะเหตุว่า มีการบันทึกไว้ในตำรา
๕. อย่าเชื่อว่าเป็นความจริงเพียงเพราะเหตุว่า คาดเดาตามสามัญสำนึก
๖. อย่าเชื่อว่าเป็นความจริงเพียงเพราะเหตุว่า มีการคาดคะเนตามเหตุแวดล้อม (นัยยะ)
๗. อย่าเชื่อว่าเป็นความจริงเพียงเพราะเหตุว่า มีการตรึกตรองตามหลักเหตุผล (ตรรกะ)
๘. อย่าเชื่อว่าเป็นความจริงเพียงเพราะเหตุว่า ชอบใจที่ตรงกับความเห็นที่เรามีอยู่ก่อนแล้ว
๙. อย่าเชื่อว่าเป็นความจริงเพียงเพราะเหตุว่า ผู้พูดนั้นดูภายนอกมีความน่าเชื่อถือ
๑๐. อย่าเชื่อว่าเป็นความจริงเพียงเพราะเหตุว่า ผู้พูดนี้คือครูอาจารย์ที่เรานับถือ

การพิจารณานั้นคืออไร?  การพิจารณาก็คือการไตร่ตรองโดยอาจใช้เหตุผล หรือใช้การดูจากสิ่งที่อ้างอิง เช่นตำรา หรือตัวบุคคล หรือดูจากคำล่ำลือ หรือดูจากการที่มันตรงกับความเห็นที่เรามีอยู่ก่อนแล้ว เป็นต้น มาตัดสินใจ ซึ่งสิ่งที่ใช้พิจารณานั้นก็อยู่ในหลักที่พระพุทธเจ้าสอนว่าอย่าเชื่อทั้ง ๑๐ นี้ทั้งสิ้น ดังนั้นการที่บอกว่า "ให้พิจารณาก่อนจึงค่อยเชื่อ" นั้นจึงไม่ถูกต้อง

สิ่งที่ถูกต้องก็คือ เมื่อเราได้เรียนรู้หลักคำสอนใดมา ก่อนอื่นก็ให้นำมาพิจารณาดูก่อนว่ามีโทษหรือมีประโยชน์ ถ้าเห็นว่ามีโทษก็ให้ละทิ้งเสีย (ซึ่งนี่ยังเป็นแค่การพิจารณา) แต่ถ้าเห็นว่ามีประโยชน์ ไม่มีโทษ ก็ให้นำมาทดลองปฏิบัติดูก่อน ถ้าลองปฏิบัติเต็มมาตรฐานแล้ว ความทุกข์ไม่ดับลงหรือลดลง ก็ให้ละทิ้งเสีย แต่ถ้าทดลองปฏิบัติดูแล้วบังเกิดผลเป็นความดับลงหรือลดลงของความทุกข์จริง จึงค่อยปลงใจเชื่อ และปฏิบัติให้ยิ่งๆขึ้นต่อไป

สรุปได้ว่า หลักกาลามสูตรจะสอนว่า "อย่าเชื่อใคร แม้แต่ตัวเอง แต่ให้เชื่อความจริงที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติจนเห็นผลอย่างแน่ชัดแล้วเท่านั้น" ซึ่งการไตร่ตรองยังไม่สามารถทำให้เรารู้ว่าคำสอนใดเป็นคำสอนที่ถูกต้องได้  เพราะยังไม่ได้มีการลงมือปฏิบัติจริงๆ จะต้องมีการปฏิบัติจนเห็นผลจริงก่อน เราจึงจะรู้ได้ว่าคำสอนใดเป็นคำสอนที่ถูกต้อง (คือดับทุกข์ได้) และคำสอนใดเป็นคำสอนที่ไม่ถูกต้อง (คือดับทุกข์ไม่ได้) ตามหลักกาลามสูตร

ขอบคุณเนื้อหา และสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่: เตชปัญโญ ภิกขุ
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 


โพสท์โดย: tanarag
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
10 VOTES (5/5 จาก 2 คน)
VOTED: nominextxyz, tanarag
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
10 โทรศัพท์ ที่คนนิยมซื้อมาที่สุดในปี 2023ตำบลที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากที่สุดในประเทศไทย5 อาหารยิ่งกินยิ่งแก่เร็วจากปากนักเดินทางรอบโลกไทยติด1ใน310 อันดับมหาลัยดีที่สุดในไทยติดอันดับโลกเผยเบื้องหลังขนมเบื้องงานวัด..เห็นแล้วแทบไม่อยากกินเลยข้าราชการเฮ! ครม.เคาะขึ้นเงินเดือน 2567 ปรับขึ้น 2% แบ่งจ่าย 2 รอบการระเบิดที่ตุงกุสคา (Tunguska ) ต้นแบบการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ของสิ่งมีชีวิตเหตุผล 5 อย่างที่ต่างชาติแห่มาเที่ยวประเทศไทย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
อินเดีย ช่วยคนงานที่ติดในอุโมงค์หิมาลัยได้สำเร็จแล้ว!!สภาพอากาศแปรปรวน 25-29 พ.ย. รับมือทั้งลมหนาว ฝนตกหนักRed bull หลบไป!! เมื่อเจอเครื่องดื่มชูกำลังของอินเดียอย่าง Red action งั่นเเหนะ! เเปลตรงตัวซะด้วย😆หนังคนละม้วน!! ความจริงปรากฏหลังดูวงจรปิด..เด็กแสบโกหก จงใจปล่อยหมา
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
กระดูกหักจะผ่าตัดหรือใส่เฝือกดีฟุตบอลลีกอาชีพ เตรียมทดลองใช้กฎลงโทษแจก "ใบส้ม"ไอเดียแปลกเป็นเหตุ! ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหาปราสาทขอมโบราณนั้นจริงๆมีหลายแห่งมากๆ กระจายไปทั่วทั้งภาคอีสานเลยเด้อครับเด้อ
ตั้งกระทู้ใหม่