อุทยานแห่งชาติกุนุงมูลู
อุทยานแห่งชาติกุนุงมูลู” มรดกโลกบนเกาะบอร์เนียวอุทยานแห่งชาติกุนุงมูลู (GunungMulu National Park) มีพื้นที่ประมาณ 528.64 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่บนเกาะบอร์เนียว รัฐซาราวัค ประเทศมาเลเซียห่างจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ประมาณ 1,460 กิโลเมตร
พื้นที่ของอุทยานครอบคลุมภูเขามูลู ซึ่งเป็นเขาหินทรายที่สูงเป็นอันดับ 2 ในรัฐซาราวัค มีความสูงประมาณ 2,376 เมตร และมีชายแดนติดกับประเทศบรูไน ลักษณะของพื้นที่อุทยานประกอบไปด้วยหินปูนสูงๆต่ำๆ และหน้าผาชัน หรือที่เรียกว่าคาสต์ (Karst Topography) ซึ่งในบริเวณนี้จะพบถ้ำที่ถูกปกคลุมด้วยหินงอกหินย้อยอยู่หลายจุด โดยถ้ำขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงของอุทยานแห่งนี้ คือ ถ้ำซาราวัค แชมเบอร์ (Sarawak Chamber) ถ้ำใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีความยาวประมาณ 700 เมตร กว้าง 396เมตร และสูงกว่า 70 เมตร โดยเมื่อลองคำนวณพื้นที่ความใหญ่โตของถ้ำแห่งนี้ คาดว่าน่าจะสามารถจอดเครื่องบินโบอิ้ง 747 ได้ถึง 40 ลำ โดยที่ปีกไม่ซ้อนกัน และจุดเด่นของอุทยานที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจคงไม่พ้นหน้าผาสูงชัน ที่มียอดแหลมสูงต่ำสลับกันกระจายเป็นบริเวณกว้าง จากการถูกกัดกร่อนตามธรรมชาติจนมีความแหลมคมราวกับใบมีดโกน จึงมีชื่อเรียกว่า เดอะพินนาเคิล (The Pinnacle)
นอกเหนือจากถ้ำซาราวัค แชมเบอร์แล้ว ถ้ำที่น่าสนใจของอุทยานแห่งนี้คือ เดียร์เคฟ (Deer Cave) ถ้ำขนาดใหญ่ที่มีขนาดเทียบเท่ากับโบสถ์เซนต์ปอลแห่งกรุงลอนดอนจำนวนถึง 5 หลัง และถ้ำน้ำใส (Clear water Cave) ถ้ำที่มีความยาวมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นที่อยู่ของค้างคาวจำนวนหลายล้านตัว ที่จะพากันบินออกมานอกถ้ำเพื่อหากินเป็นประจำทุก ๆ เย็น รวมถึงจุดที่น่าสนใจอื่น อาทิ น้ำตกปากู (Paku Waterfall) เป็นต้น
กิจกรรมเมื่อมาถึงอุทยานแห่งนี้สามารถเลือกได้หลากหลายแบบตามความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการล่องเรือไปตามลำธาร การเดินเที่ยวในถ้ำทั่วทั้งอุทยาน การเดินศึกษาธรรมชาติ หรือ เทรล (Trail) การตั้งแคมป์ รวมถึงการขึ้นไปชมวิวบนหอคอย เป็นต้น โดยมีค่าธรรมเนียมสำหรับการทำกิจกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่ราคา 40 ริงกิตมาเลเซีย (MYR) ไปจนถึง 504 ริงกิต สำหรับกิจกรรมยอดฮิต คือ การเดินบนทางเดินลอยฟ้า หรือ Canopy Walkway ที่ถือเป็นทางเดินไม้ที่ยาวที่สุดในโลก โดยความยาวของทางเดินอยู่ที่ 480 เมตร สูงประมาณ 20 เมตรเหนือผืนป่า สำหรับผู้ที่สนใจเข้าชมและสัมผัสธรรมชาติจะต้องเสียค่าธรรมเนียม 43 ริงกิตต่อคน การเดินป่าในอุทยานแห่งนี้ จะเต็มไปด้วยเส้นทางที่ค่อนข้างท้าทาย และหากต้องการเดินศึกษาธรรมชาติให้ครบทั้งอุทยานคงต้องใช้เวลาหลายวัน แต่นักท่องเที่ยวหลายคนก็พร้อมที่จะลอง ด้วยทัศนียภาพที่สวยงามคุ้มค่ากับความเหนื่อย นอกจากนี้ ทางอุทยานฯ ยังได้จัดให้นักท่องเที่ยวสามารถขอรับบริการมัคคุเทศก์นำทางและลูกหาบช่วยยกกระเป๋าได้เช่นกัน โดยสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานของอุทยาน หรือรีสอร์ทที่เข้าพัก












