การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ทางเลือกที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้การตั้งครรภ์
การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ทางเลือกที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้การตั้งครรภ์
การทำเด็กหลอดแก้ว เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยเพิ่มโอกาสมีบุตร สำหรับผู้มีบุตรยาก และเป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากการทำเด็กหลอดแก้วค่อนข้างตอบโจทย์ แม้จะไม่ใช่การเพิ่มโอกาสมีบุตรถึง 100% แต่โอกาสที่ผู้มีบุตรยากจะมีบุตรได้จากการทำเด็กหลอดแก้วก็มีค่อนข้างมาก ครั้งนี้ทางบทความจึงถือโอกาสนำเอาข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการทำเด็กหลอดแก้วมาฝาก ดังนี้
การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) คืออะไร?
การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) มาจากคำว่า In-vitro Fertilization คือการคัดเลือกเอาอสุจิที่แข็งแรงมาผสมกับเซลล์ไข่ในหลอดทดลอง เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิเป็นตัวอ่อน เป็นการปฏิสนธิภายนอกร่างกาย และย้ายกลับไปฝังตัวในมดลูกหลังจากเกิดเป็นตัวอ่อนแล้ว
ขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF)
- กระตุ้นไข่ - แพทย์จะทำการฉีดกระตุ้นไข่ด้วยฮอร์โมนในวันที่ 2 หรือ 3 ของรอบเดือน
- เก็บไข่ - หลังกระตุ้นไข่แล้ว เมื่อไข่เจริญเติบโตจนได้ขนาดตามต้องการ แพทย์จะทำการเก็บไข่
- เก็บอสุจิ - คนไข้ฝ่ายชายจะต้องเก็บอสุจิใส่ภาชนะที่แพทย์เตรียมให้ด้วยตัวเอง ซึ่งทางคลินิกจะเตรียมพื้นที่มิดชิดไว้ให้
- คัดแยกอสุจิ - แพทย์จะคัดแยกอสุจิที่แข็งแรงสมบูรณ์ออกมา เพื่อนำมาผสมกับไข่ในห้องทดลอง
- ผสมเซลล์ในจานทดลอง - แพทย์ทำการนำอสุจิที่คัดแยกไว้มาผสมกับไข่ที่เก็บไว้
- เพาะเลี้ยงตัวอ่อน - หลังจากการผสมของเซลล์ แพทย์จะติดตามผลและเพาะเลี้ยงตัวอ่อนต่อไป
- ย้ายตัวอ่อนเข้าไปฝังตัวในโพรงมดลูก - หลังจากเพาะเลี้ยงตัวอ่อน กระทั่งตัวอ่อนเจริญเติบโตจนถึงช่วงที่เหมาะสมแล้ว แพทย์จะทำการย้ายตัวอ่อนเข้าไปฝังตัวในโพรงมดลูก เพื่อให้เจริญเติบโตในครรภ์มารดาต่อไป
ที่กล่าวมาเป็นขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ซึ่งหลังจากนั้นแพทย์จะนัดคนไข้มาติดตามผลการตั้งครรภ์ต่อไป เพื่อตรวจสอบการฝังตัวของตัวอ่อนที่มดลูกว่ามีปัญหาหรือไม่
การเตรียมตัวก่อนทำเด็กหลอดแก้ว (IVF)
ก่อนทำเด็กหลอดแก้ว คนไข้จะต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อให้เซลล์ไข่และเซลล์อสุจิมีความแข็งแรงสมบูรณ์ เพราะถึงแม้ว่าการทำเด็กหลอดแก้ว จะช่วยเพิ่มโอกาสการมีบุตรได้ก็จริง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังต้องอาศัยเซลล์ไข่และเซลล์อสุจิที่สมบูรณ์ หากไม่แข็งแรงหรือสมบูรณ์หรือมีจำนวนน้อยเกินไป การทำเด็กหลอดแก้วก็ไม่เกิดผล โดยในการเตรียมตัวแบ่งออกเป็นการเตรียมตัวของฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย
การเตรียมตัวก่อนทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ของฝ่ายหญิง
- งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 3 เดือน ก่อนการทำเด็กหลอดแก้ว (รวมถึงหลีกเลี่ยงควันบุหรี่)
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 3 เดือน ก่อนการทำเด็กหลอดแก้ว
- งดมีเพศสัมพันธ์ก่อนการเก็บไข่ประมาณ 3 วัน
- ควบคุมปริมาณการดื่มเครื่องดื่มคาเฟอีนไม่ให้เกิน 2 แก้วต่อวัน
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- รับประทานโปรตีนอย่างน้อยวันละ 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เพื่อบำรุงไข่
- หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปและอาหารที่มีน้ำตาลสูง
- ดื่มน้ำอย่างน้อย 1.5-2 ลิตร/วัน
- หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดความเครียด
การเตรียมตัวก่อนทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ของฝ่ายชาย
- งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 3 เดือน ก่อนการทำเด็กหลอดแก้ว (รวมถึงหลีกเลี่ยงควันบุหรี่)
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 3 เดือน ก่อนการทำเด็กหลอดแก้ว
- รับประทานอาหารที่มีไลโคปีนและเบตาแคโรทีน รวมถึงกลุ่มโปรตีน เพื่อบำรุงอสุจิ
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เพราะอาจทำให้จำนวนและคุณภาพของอสุจิลดลง
- ควบคุมปริมาณการดื่มเครื่องดื่มคาเฟอีนไม่ให้เกิน 2 แก้วต่อวัน
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- งดการมีเพศสัมพันธ์ก่อนการเก็บอสุจิ 3-4 วัน
- หลีกเลี่ยงการแช่น้ำอุ่นและทำซาวน่า เพราะความร้อนทำลายอสุจิ
- ไม่สวมกางเกงชั้นในที่รัดแน่นเกินไป
- หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดความเครียด
ผลลัพธ์ของการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF)
การทำเด็กหลอดแก้ว มีโอกาสสำเร็จอยู่ที่ประมาณ 46% ในคนที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปี หากอายุมากขึ้นโอกาสสำเร็จก็จะลดลง โดยในการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) อาจไม่สำเร็จในรอบแรก สามารถทำ IVF ใหม่ได้ แต่ไม่ควรทำเกิน 3 ครั้ง เพราะถ้าหากทำ IVF ครบ 3 ครั้งแล้วยังไม่สำเร็จ ควรเปลี่ยนไปทำการรักษาด้วยวิธีอื่นดีกว่า ส่วนมากแพทย์จะแนะนำให้ทำเด็กหลอดแก้วประเภท ICSI ต่อหลังจากทำ IVF
โดยการทำ ICSI แม้จะเป็นการทำเด็กหลอดแก้วเหมือนกัน แต่จะแตกต่างกับ IVF ในเรื่องของการคัดเลือกอสุจิ ซึ่งการทำ IVF จะคัดเลือกอสุจิที่แข็งแรงหลายตัวมาผสมกับไข่ แต่การทำ ICSI จะคัดเลือกอสุจิที่แข็งแรงที่สุดเพียงตัวเดียวมาผสมกับไข่ ซึ่งจะเฉพาะเจาะจงกว่า IVF และ ICSI จะเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ได้สูงกว่า IVF ด้วย จึงมักเป็นวิธีรักษาถัดมาหลังจากทำ IVF ไม่สำเร็จ
การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) มีค่าใช้จ่ายเท่าไร?
ค่าใช้จ่ายของการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) จะอยู่ที่ประมาณ 100,000-150,000 บาท/ครั้ง
สรุปคือการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยเพิ่มโอกาสมีบุตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นที่นิยม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการจะสำเร็จได้ ต้องอาศัยปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องของอายุผู้เข้ารับการรักษา ช่วงอายุที่ได้ผลดีที่สุดคืออายุต่ำกว่า 35 ปี หากอายุมากขึ้นโอกาสทำเด็กหลอดแก้วที่สำเร็จก็จะลดลงตามลำดับ ทั้งนี้ก่อนเข้ารับการรักษา คนไข้เองก็จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมด้วย เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการทำเด็กหลอดแก้วที่สำเร็จ