"ส.ว.สมชาย" จี้ กกต. ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ กรณี "พิธา" ถือหุ้น ITV พร้อมตรวจสอบคำวินิจฉัยทั้งหมด
นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. ได้โพสต์ในเฟซบุ๊ก โดยมีรายละเอียดดังนี้
#ปริศนาธรรมการเมืองเรื่องหุ้นitv
ข้อที่6 กกตควรเร่งสรุปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยเป็นที่สุดและตรวจสอบคำวินิจฉัยชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการที่ทำให้itvฟื้นคืนชีพ?
ด้วยเหตุผลและข้อมูลประกอบการพิจารณาดังนี้
1)รัฐธรรมนูญ2560 มาตรา82วรรคท้ายระบุว่า “ในกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง เห็นว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาคนใดคนหนึ่งมีเหตุสิ้นสุดลงตามวรรคหนึ่ง ให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย”
ดังนั้นเมื่อกกต.รับรองสมาชิกภาพของสส.แล้ว มีเหตุผู้ร้องเรียนและกกต ตั้งคณะกรรมการไต่สวน จึงควรเร่งพิจารณาดำเนินการส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่า นายพิธามีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา98(3) ห้ามถือหุ้นสื่อมวลชนใดๆอันเป็นการขาดสมาชิกภาพสส ตามมาตรา101(6) มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98หรือไม่ โดยยึดหลักเดียวกันกับการยื่นคดีนายธนาธรคือ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยและสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ระหว่างรอคำวินิจฉัยด้วย
ส่วนเรื่องแคนดิเดทผู้สมัครนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 88 89 ที่ต้องมีคุณสมบัติตามมาตรา160 และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา98 หรือไม่นั้น กกต ควรจะร้องไปศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยในคราวเดียวกันก็น่าจะเป็นประโยชน์ในการยื่นฟ้องเสียในคราวเดียวกัน
2) กกต ควรตรวจสอบคำวินิจฉัยชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการเรื่องที่บริษัทitv จำกัด(มหาชน)ฟ้องร้องกับสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีที่มีคำวินิจฉัยชี้ขาดเมื่อวันที่14มค2559 ในข้อพิพาทที่46/2550 เป็นข้อพิพาทหมายเลขแดงที่1/2559 ระหว่างบริษัทกับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ที่บริษัทขอเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหายและขอให้บริษัทกลับเข้าดำเนินการสถานีโทรทัศน์ ระบบ ยูเอช เอฟ โดยใช้คลื่นความถี่และทรัพย์สินอุปกรณ์เครือข่ายเดิมต่อไปจนครบกำหนดระยะเวลาในสัญญาอนุญาตที่อนุญาโตตุลาการมีคำวินิจฉัยชี้ขาดว่า การบอกสัญญาอนุญาตของสำนักงานปลัดฯ นั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย
คำวินิจฉัยชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการเรื่องนี้ และคำพิพากษาศาลปกครอง จึงมีความสำคัญที่ต้องพิจารณาประกอบว่า itv ชนะคดีจากสำนักปลัดฯแล้ว และการขอให้เข้าดำเนินการในสถานีโทรทัศน์ ยูเอชเอฟเดิมนั้น เป็นการที่ทำให้บริษัทไอทีวีที่ยังมีการประกอบธุรกิจสื่อ มีวัตถุประสงค์สื่อชัดเจนและยังไม่ได้จดทะเบียนเลิกกิจการได้รับชัยชนะในคำวินิจฉัยชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการให้itv กลับเข้าดำเนินการในสถานีโทรทัศน์ยูเอชเอฟ เดิมได้
ดังนั้นจึงมีประเด็น1ในข้อพิจารณาว่า บริษัทitv น่าจะยังเป็นผู้การประกอบกิจการหรือเตรียมประกอบกิจการสื่อมวลชนที่ยังไม่ได้ยกเลิกใช่หรือไม่
https://web.facebook.com/permalink.php?story_fbid=822324389248811&id=100044137734301












