กรมราชทัณฑ์แจงเรื่องอธิบดีฯมีอำนาจชี้ขาดให้ติดคุกนอกเรือนจำ เป็นเพียงข่าวลือ-หากเป็นจริงคงวิ่งเต้นกันขาขวิดแน่ ๆ!!!
📌“กรมราชทัณฑ์ชี้แจงข่าวลือกรณีระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ถูกกักกัน พ.ศ.2566 ให้อำนาจอธิบดีชี้ขาดติดคุกนอกเรือนจำ”
เมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๖ นายสิทธิ สุธีวงศ์
รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์และโฆษกประจำกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงกรณี ที่มีกระแสข่าวเผยแพร่ว่าเว็บไซด์ราชกิจจานุเบกษา ออกระเบียบราชทัณฑ์ต่อผู้ถูกคุมขัง ๒๕๖๖ เปิดช่องให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ชี้ขาดย้ายผู้ถูกคุมขังนอกเรือนจำสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชนถึงอำนาจของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ โดยเนื้อหาของข่าวมีส่วนที่อาจทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับสาระสำคัญและผลบังคับใช้ของระเบียบดังกล่าว นั้น
นายสิทธิฯ กล่าวว่า ระเบียบกรมราชทัณฑ์
ว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ถูกกักกัน พ.ศ. ๒๕๖๖ ออกโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการกักกัน ตามประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๕๑๐ เพื่อกำหนดขั้นตอนและวิธีการดูแลสวัสดิภาพของ“ผู้ถูกกักกัน” ตามกฎหมาย โดยมาตรา ๔๐ มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๒ แห่งประมวลกฎหมายอาญา กำหนดให้ใช้วิธีการกักกันกับผู้ที่เคยถูกศาลพิพากษาให้จำคุกหรือกักกันมาแล้ว และศาลเห็นว่า ผู้นั้นเป็นผู้กระทำ
ความผิดติดนิสัย ซึ่งหากผู้นั้นยังมีโทษจำคุกหรือกักขังที่จะต้องรับอยู่ก็ให้จำคุกหรือกักขังเสียก่อน และให้นับวันถัดจากวันที่พ้นโทษจำคุกหรือพ้นจากการกักขังเป็นวันเริ่มกักกัน ดังนั้น “การกักกัน” จึงมิใช่การจำคุกนอกเรือนจำแต่อย่างใดแต่เป็นวิธีการเพื่อความปลอดภัยที่ศาลอาจมี คำพิพากษาเพิ่มเติมจากโทษทางอาญาที่ลงแก่จำเลย ส่วน “ผู้ต้องขัง” ซึ่งเป็นผู้ต้องโทษจำคุกตาม คำพิพากษาถึงที่สุดของศาล จะต้องถูกควบคุมตัวไว้ ในเรือนจำตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายกำหนดปัจจุบันกรมราชทัณฑ์มีผู้ถูกกักกันอยู่ในความดูแล จำนวน ๕๗ ราย (ชาย ๕๑ รายหญิง ๖ ราย ) และจากสถิติที่ผ่านมาส่วนใหญ่ ผู้ถูกกักกันเป็นบุคคลจรจัด ไร้บ้าน ทำความผิดซ้ำในคดีลักทรัพย์ (ลักเล็กขโมยน้อย) เป็นหลัก
นายสิทธิฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในปัจจุบันพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง
พ.ศ. ๒๕๖๕ กำหนดให้กรมราชทัณฑ์เป็นผู้รับผิดชอบในการบังคับตามคำสั่งคุมขังภายหลังพ้นโทษหรือคำสั่งคุมขังฉุกเฉินตามที่ศาลกำหนด โดยให้นำพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการกักกันตามประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๕๑๐ มาใช้บังคับโดยอนุโลม ด้วยเหตุนี้ กรมราชทัณฑ์จึงจำเป็นต้องประกาศใช้ระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ถูกกักกัน พ.ศ. ๒๕๖๖ เพื่อให้มีมาตรการในการดูแลสวัสดิภาพของผู้ถูกกักกันและบุคคลที่ถูกศาลสั่งให้ใช้มาตรการคุมขังภายหลังพ้นโทษหรือคำสั่งคุมขังฉุกเฉินให้เกิดความเหมาะสมและอยู่ในมาตรฐานเดียวกัน ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนอย่างหลงเชื่อข่าวลือที่เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง และขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องผ่านเพจประชาสัมพันธ์ของกรมราชทัณฑ์
https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/140D131S0000000000100.pdf










