"เลขา กกต."ชี้ ต้องรับรอง "พิธา" เป็น ส.ส.ก่อนฟันปมหุ้นสื่อ เหตุไร้ช่องดำเนินการคดีอาญา ม.151
นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต. กล่าวถึงการพิจารณาคำร้อง กรณีการถือหุ้นสื่อของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์หัวหน้าพรรคก้าวไกลว่า เรื่องนี้มีปัญหาทางเทคนิคอยู่ คือผู้ร้องมาร้องก่อนวันเลือกตั้ง 2 วัน ซึ่งกรณีมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ ต้องร้องภายใน 7 วันก่อนวันเลือกตั้ง สำนักงานฯก็ต้องพิจารณาว่าสิ่งที่ร้องมีเหตุ มีมูลที่จะดำเนินการต่อไปหรือไม่ และเสนอให้กกต.พิจารณา ซึ่งทางกกต.มีความเห็นว่าให้ทำให้รอบคอบและเสนอขึ้นไปใหม่ ส่วนกกต. จะรับไว้พิจารณาหรือไม่เป็นอีกประเด็น และถ้ารับแล้วจะผิดหรือถูกก็เป็นอีกประเด็น ดังนั้นเรื่องนี้จึงยังอยู่ในขั้นตอนของสำนักงาน
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่า มีการดำเนินการข้อหารู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิลงสมัครเลือกตั้งส.ส. แต่ยังคงลงสมัคร นายแสวง กล่าวว่า เรื่องการมีลักษณะต้องห้ามของการลงสมัครหากเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งต้องส่งศาลฎีกาวินิจฉัย แต่หลังเลือกตั้งก่อนการประกาศผล ยังเป็นช่องโหว่อยู่ ซึ่งสำนักงานก็คิดว่าหากมีการยื่น จะทำอะไรได้บ้าง ซึ่งสามารถทำคดีอาญาตามมาตรา 151 ได้ ส่วนเมื่อประกาศรับรองผลไปแล้ว
การให้พ้นจากส.ส. ก็ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 คือ สมาชิกรัฐสภาหนึ่งใน 10 เข้าชื่อ ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงกกต.ก็สามารถยื่นได้แต่เราต้องมีพยานหลักฐานและข้อเท็จจริง
เมื่อถามย้ำว่าขณะนี้กกต.กำลังพิจารณาควบคู่ ระหว่างคดีอาญาตามมาตรา 151 และคดีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญใช่หรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่า คดีคุณสมบัติยังพิจารณาไม่ได้ เพราะยังไม่ได้เป็นส.ส. ตอนนี้พิจารณาได้เฉพาะคดีอาญา ตามมาตรา151"ตามคำร้องร้องว่าคุณไม่มีคุณสมบัติในการลงสมัครส.ส เพราะคุณมีลักษณะต้องห้าม ที่กฎหมายกำหนด เมื่อคุณไม่มีคุณสมบัติก็จะไปสู่ ข้อหารู้อยู่แล้วว่าไม่มีคุณสมบัติแต่ยังลงสมัคร ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 151 แต่เรื่องของการพ้นจากส.ส. เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ซึ่งตอนนี้ยังเป็นอนาคตที่มาไม่ถึง ยังไงก็ต้องประกาศผลให้เป็นส.ส.ไปก่อน เพราะพ้นระยะเวลาช่วงการยื่นของศาลฎีกามาแล้ว กกต.ไม่มีอำนาจไม่ประกาศ แต่สามารถพิจารณาคดีอาญาได้"