ซาวน่าเกย์ที่ดีที่สุดในชีวิตของผม The obelisk

ในฐานะที่เป็นเกย์ไม่แสดงออก และเคยผ่านการเที่ยวซาวน่าเกย์มานับครั้งไม่ถ้วน เลยอยากจะแชร์ประสบการณ์บางอย่าง ผ่านกะทู้โพสจัง ซึ่งเป็นเวปไซท์เกย์เวปไซท์แรกที่ผมรู้จักเมื่อนานมาแล้ว 

ในช่วงที่ผมเรียนมหาลัย (อายุ 22 ปี) ผมมีรุ่นพี่คนหนึ่งชวนไปเที่ยวซาวน่าที่แรก เปิดโลกให้ผมมาก จากเกย์ที่ไม่รู้เรื่องอะไรกับชีวิตเกย์ นั่นคือ การเดินทางก้าวแรกในการหาชีวิตตัวเอง ซาวน่าที่แรกในชีวิตของผม คือ  The Obelisk

The obelisk เป็นซาวน่าในตำนานของเมืองไทย อยู่ในพื้นที่ทองหล่อ สุขุมวิท กทม น่าจะเปิดดำเนินกิจการมาก่อนหน้าที่ผมจะรู้จักที่นี่ หรือ ก่อนปี 2536 แน่นอน เพราะผมมาเที่ยวที่นี่ครั้งแรกในปี 2536 และหลังจากนั้น ผมก็มีแฟนเกย์คนแรกในช่วงอายุนี้ ผมมาเที่ยวที่นี่ ประมาณ 20-30 ครั้งได้ ก่อนที่ The obelisk จะปิดกิจการไปในช่วงหลังปี 2542 เห็นจะได้ เขาไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอก แค่เจ้าของเขารวยมากและไม่อยากทำต่อ ก็เท่านั้นเอง

The obelisk นับเป็นซาวน่าเกย์ในตำนานที่น้อยคนนักจะรู้จัก เกย์ที่เที่ยวที่นี่ ปัจจุบันน่าจะมีอายุ 50-60 แล้วทั้งนั้น เพราะนอกจากความหรูหราอลังการของสถานที่แล้ว เกย์ที่ไปเที่ยวที่นี่ยังมีระดับมาก เป้าหมายส่วนใหญ่ของเกย์ที่นี่ คือ ชั้นกลางถึงสูง ราคาค่าเข้าสถานที่ ในช่วงปี 2536 คือ 220 บาท เท่าที่จำได้ (แพงมาก เมื่อเทียบกับค่าข้าวแกงจานละ 25 บาทในสมัยนั้น)

กุญแจล็อคเกอร์ 1 ดอกที่ได้มา ให้ไปเปิดตู้ของตัวเอง ภายในตู้ล็อคเกอร์ จะมีผ้าขนหนูสีขาว 1 ผืน และผ้าเช็ดหน้าขนาดเล็กสีขาวอีก 1 ผืน ถุงยาง 1 ชิ้น (เท่าที่จำได้) วางเรียบร้อย สะอาดตา เป็นระเบียบ ในตู้ล็อคเกอร์ส่วนตัว ที่ตั้งอยู่บนชั้น 3 โดยขึ้นลิฟท์ไป เพราะที่นี่มีจำนวนชั้นมากถึง 11 ชั้น 

ชั้นที่คนเยอะมากๆ และประทับใจผมมาก คือ ชั้นที่ 6 มันมีอะไรบนชั้นนี้ คือว่า ชั้นนี้ บรรยากาศเหมือนกับสวรรค์เลย จากการตกแต่งด้วยรูปปั้นเทพเจ้ากรีก บรรยากาศที่อยู่ในธีมนั้น มีอ่างจากุซซี่ขนาด 10 คนลงไปเห็นจะได้ มีควันไอลอยพุ่งออกมาจากบริเวณนั้น ทั้งสองฝั่งของอ่างจากุซซี่ ทำเป็นห้องอาบน้ำ ซ้ายขวา ที่ทุกคนควรจะต้องอาบน้ำล้างตัวก่อนลงไปแช่ในอ่าง 

ผมได้เจอเพื่อน 2 คน ตอนที่เรียนมัธยมที่ช้้นนี้ หลังจากแยกจากกันไปเรียน ป. ตรี คนละสาขา คนละมหาลัย เพื่อนทั้งสองคน ไม่ได้แสดงออกเลย การที่มาเจอกันที่นี่ นั่นย่อมหมายความว่า ทุกคนได้ล่วงรู้ความลับสุดยอดของการเป็นเกย์ไม่แสดงออกของแต่ละคน เรียบร้อยแล้วนั่นเอง 

ผมชอบนั่งดูคนเดินไปมาที่บริเวณชั้น 6 นี้ เพราะมันโล่ง เปิดกว้าง ยังมีพื้นที่ขยายทะลุไปอีกฝั่งให้เดินเล่นด้วย ภาพเกย์นุ่งผ้าขนหนูสีขาวเดินไปมายังติดตาผมเลย สิ่งที่สังเกตได้คือ เกย์ที่นี่ มีการศึกษาสูง และการงานดีมาก จากการได้นั่งคุยกับคนที่มาเที่ยวที่นี่ เป็นผู้จัดการ หรือ เจ้าของธุรกิจหลายคนเลย 

อีกอย่างที่ผมสังเกตได้คือ คนที่นี่ หุ่นดีมาก ไม่ใช่หุ่นดีธรรมดา มีกล้ามอกแทบทุกคน แม้บรรยากาศจะสลัวๆบนหลายชั้นที่นี่ แต่คุณอาจได้เห็นภาพชัดเจนมาก ที่เป็นบรรยากาศกลางแจ้ง บนชั้น 11 ที่มีอ่างจากุซซี่ 1 อ่างตั้งอยู่กลางบนดาดฟ้าโล่งกลางแจ้ง ฝั่งซ้ายมือ มีห้องสตีม หรือ ห้องอบไอน้ำ ที่มีกลิ่นสมุนไพร ส่วนฝั่งขวามือ คือที่เดินเล่น นั่งเล่น ชั้นนี้จะเห็นกล้ามและหน้าตาเกย์ที่มาเที่ยวชัดเจนมาก หล่อมาก ทุกคนเลย เปิดโลกเกย์ของผมเลย

ชั้น 11 ยังมีมุมนั่งทานกาแฟ อ่านหนังสือ มีหนังสือเกย์ต่างประเทศจำนวนมากวางไว้ที่แผง พอเปิดดูในหนังสือ ภาพเปลือยหมดตัวเห็นชัดเจนอล่างฉ่างเห็นอวัยวะเพศ สิ่งเหล่านี้ได้เปิดโลกให้ผมมาก จนจดจำมาทุกวันนี้ 

ส่วนชั้นอื่นๆ ก็มี ชั้น 4 เป็นห้องคาราโอเกะ ชั้น 5 เป็นห้องยิมชั้นดี มีอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครัน ส่วนชั้น 9-10 เป็นห้องส่วนตัว จำนวนมากมายหลายห้อง คงไม่ต้องถามผมนะว่า มีไว้ทำไมกัน ถุงยางที่วางไว้ในล็อคเกอร์ มันบอกอยู่แล้วว่า มีไว้ทำไม 

นี่คือ ที่มาของ The Obelisk ที่คนที่เคยมาเที่ยวจะเรียกที่นี่สั้นๆว่า "ซาวน่า 11 ชั้น" หรูหราหมาเห่ามาก ตั้งแต่ทางเข้า มีสวนหย่อมมีรูปปั้นเทพเจ้าชาวกรีกเปลือยๆ มีโคมฟ้าระย้าแบบสมัยกรีกโรมันที่ชั้น 1  มีภาพตกแต่งแนวเทพเจ้า และเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นที่แสดงออกถึงบรรยากาศในสมัยกรีกโรมันชัดเจนมากทีเดียว 

ในช่วงนั้น รูปร่างผมยังผอมมาก (อายุ 23 ปี) เหมือนกับวัยรุ่นที่กำลังโต พอมาที่นี่เห็นเกย์ทุกคนหน้าตาดี มีกล้ามสวย ทำให้ผมเริ่มสนใจการออกกำลังกาย เล่นฟิตเนส เพราะอยากมีกล้ามสวยๆแบบคนที่นี่ 

หลังจากกะทู้นี้ ผมจะทะยอยรีวิวซาวน่าทั้งในและต่างประเทศให้ชาวเกย์และคนที่สนใจอ่านนะครับ เพราะมีความรู้เรื่องพวกนี้เยอะมากมาตั้งแต่วัยรุ่น ปัจจุบันผมมีคู่ชีวิตแล้ว