Passive Income หมายถึงรายได้ที่ได้มาโดยไม่ต้องทำงานหรือลงเวลาทำงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจมาจากการลงทุนในทรัพย์สิน เช่น เช่าอสังหาริมทรัพย์ หรือการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อรับผลตอบแทนจากดอกเบี้ยหรือเงินปันผล หรือการสร้างธุรกิจที่สามารถทำงานได้เองโดยไม่ต้องมีการมาทำงานทุกวัน ในทางกลับกัน รายได้ที่ได้มาจากการทำงานในรูปแบบของรายได้ในแบบ Active Income คือรายได้ที่ได้มาจากการทำงานตลอดเวลาและต้องใช้เวลาทำงานในแต่ละวันเพื่อสร้างรายได้ ซึ่งการมี Passive Income จะช่วยให้คนสามารถมีรายได้เพิ่มเติมโดยไม่ต้องใช้เวลาทำงานเป็นอย่างมาก และมีเวลามากขึ้นสำหรับกิจกรรมที่ตนเองต้องการทำในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น บทความนี้เรามีแนวทางในการสร้างรายได้แบบ Passive income ที่น่าสนใจในปี 2023 มาแนะนำ
(ขอบคุณภาพจาก scholaroo.com)
1. ลงทุนหุ้นหรือกองทุนปันผล
การลงทุนในหุ้นหรือกองทุนปันผลสามารถสร้าง Passive Income ได้ เพราะเป็นการลงทุนที่สามารถรับผลตอบแทนจากเงินปันผลและเพิ่มมูลค่าของการลงทุนตามราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นได้ อย่างไรก็ตามการลงทุนในหุ้นหรือกองทุนปันผลก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกับการลงทุนในทรัพย์สินอื่น ๆ ดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน
สำหรับการลงทุนในหุ้น เลือกทำการลงทุนในบริษัทที่มีศักยภาพแข็งแรงและดำเนินธุรกิจอย่างดีอาจจะช่วยลดความเสี่ยงได้ แต่การลงทุนในหุ้นอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นในกรณีที่ลงทุนในบริษัทที่ไม่มีศักยภาพหรือดำเนินธุรกิจไม่ดีเท่าไหร่ การวิเคราะห์และจัดการพอร์ตโดยตรงอาจช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุนในหุ้นได้ โดยการซื้อหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำและมีผลตอบแทนที่ดี หรือการลงทุนในกองทุนปันผลที่มีผลตอบแทนและความเสี่ยงที่สูงสุดที่กำหนดไว้ในเอกสารของกองทุน จะช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุนแบบนี้ได้ ดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลต่าง ๆ อย่างละเอียด
(ขอบคุณภาพจาก prachachat.net)
2. ให้เช่าอสังหาฯ
การให้เช่าอสังหาริมทรัพย์สามารถเป็นที่มาของ Passive Income ได้ เนื่องจากผู้ที่เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์สามารถรับรายได้จากการเช่าอสังหาริมทรัพย์ให้ผู้อื่น โดยไม่จำเป็นต้องทำงานและลงเวลาในการทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์นั้นๆ อย่างไรก็ตาม การให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกับการลงทุนในทรัพย์สินอื่น ๆ เช่นกัน อสังหาริมทรัพย์อาจมีค่าเช่าลดลงหรือว่างเปล่าเป็นระยะเวลานานได้ ซึ่งจะส่งผลต่อการได้รับ Passive Income ของเจ้าของอสังหาริมทรัพย์
นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการบำรุงรักษาอสังหาริมทรัพย์ เช่น ค่าซ่อมบำรุง ค่าส่วนกลาง ค่าภาษีอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะต้องถูกคำนวณเอาไว้ในการวางแผน Passive Income และการจัดการอสังหาริมทรัพย์ด้วย
(ขอบคุณภาพจาก ddproperty.com)
3. สร้างคอร์สเรียนออนไลน์
การสร้างคอร์สเรียนออนไลน์เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถสร้าง Passive Income ได้ โดยคุณสามารถใช้เว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ต่างๆ เช่น Udemy, Skillshare, Teachable เป็นต้น เพื่อสร้างและขายคอร์สเรียนของคุณ
การสร้างคอร์สเรียนออนไลน์จะต้องมีขั้นตอนและการวางแผนเพื่อให้เนื้อหาที่คุณสร้างมีคุณภาพและเหมาะสมกับตลาดเป้าหมายของคุณ
(ขอบคุณภาพจาก techoffside.com)
4. ขายภาพถ่ายออนไลน์
การขายภาพถ่ายออนไลน์เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถสร้าง Passive Income ได้ โดยมีหลายแพลตฟอร์มที่สามารถใช้ขายภาพถ่ายได้ เช่น Shutterstock, iStock, Adobe Stock ก่อนที่จะเริ่มขายภาพถ่ายออนไลน์ คุณควรตรวจสอบข้อกำหนดและเงื่อนไขของแพลตฟอร์มที่คุณสนใจ ในการขายภาพถ่าย เช่น อัตราค่าบริการ การแบ่งปันรายได้ และการรับประกันการขายภาพถ่าย
คุณควรใช้เทคนิคการถ่ายภาพที่สร้างความน่าสนใจและโดดเด่น เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า การปรับแต่งภาพถ่ายเพื่อให้มีคุณภาพสูงและเหมาะสมกับการขาย เช่น ปรับแสง, ปรับสี และตัดต่อภาพถ่าย
(ขอบคุณภาพจาก pkru.ac.th)
5. Affiliate Marketing
Affiliate Marketing คือ การตลาดสินค้าหรือบริการของผู้ขายโดยการส่งเสริมการขายผ่านคนอื่น ๆ ที่เรียกว่า affiliate หรือพันธมิตรธุรกิจ ซึ่งจะได้รับค่าคอมมิชชั่นหรือรางวัลตามจำนวนการขายหรือการกระทำที่ผู้ใช้งานเข้าไปทำผ่านลิงก์ที่ affiliate สร้างขึ้น ซึ่งบริษัทหลายแห่งมีโปรแกรม Affiliate Marketing เช่น Amazon, Lazada, Shopee, และ บริษัทอื่น ๆ
(ขอบคุณภาพจาก startups.co.uk)
6. นายหน้า tiktok
นายหน้า TikTok เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถสร้าง Passive Income ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยการเป็นตัวกลางในการนำเสนอสินค้าแทนแบรนด์ เพื่อสื่อไปยังผู้ที่สนใจสินค้าหรือบริการ โดยจะทำการตลาดผ่านแพลตฟอร์ม TikTok นายหน้า TikTok จะต้องสร้างเนื้อหาและแคมเปญการตลาดที่น่าสนใจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มยอดขายสินค้าหรือบริการของแบรนด์นั้น ๆ โดยผลตอบแทนที่นายหน้าจะได้รับขึ้นอยู่กับเรทที่แต่ละแบรนด์จะกำหนดไว้ให้กับตัวสินค้านั้น ๆ
(ขอบคุณภาพจาก techsauce.co)
7. ธุรกิจ ตู้ล้างรถหยอดเหรียญ
ธุรกิจ ตู้ล้างรถหยอดเหรียญ เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่กำลังได้รับความนิยม โดยมีโมเดลธุรกิจคล้ายตู้กดน้ำหยอดเหรียญ และ ร้านซักผ้าหยอดเหรียญ โดยตัวเครื่องสามารถทำงานได้ตลอดเวลา สร้างรายได้ 24 ชม. ซึ่งระบบล้างรถหยอดเหรียญมักจะมีความสะดวกสบายและรวดเร็ว และเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการล้างรถแต่ไม่มีเวลาเดินทางไปยังศูนย์บริการล้างรถที่มีค่าบริการสูงกว่า
นอกจากนี้ ธุรกิจล้างรถหยอดเหรียญยังเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจด้วยทุนเริ่มต้นน้อย ๆ และไม่ต้องการพื้นที่ใหญ่ ๆ เพราะสามารถติดตั้งระบบล้างรถหยอดเหรียญได้ในพื้นที่จำกัด
(ขอบคุณภาพจาก catcarwash.com)