พาร์ทเนอร์ร้องเรียน “ร้านถูกดี มีมาตรฐาน” จัดการระบบร้านค้าที่ไม่เป็นธรรม
เกิดอะไรขึ้นกับ "ร้านถูกดีมีมาตรฐาน"
เมื่อเดือนที่ผ่านมา พาร์ทเนอร์ของร้านถูกดีมีมาตรฐานนับ 100 ราย ได้รวมตัวกันยื่นเอกสารร้องเรียนต่อ ผศ.ดร.วิษณุ วงศ์สินศิริกุล เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) จากการที่พาร์ทเนอร์ร้านค้าหลายราย ได้รับความเสียหายในการดำเนินธุรกิจกับบริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด ที่ใช้อำนาจต่อรองที่เหนือกว่าอย่างไม่เป็นธรรม จนเกิดปัญหาบริหารจัดการร้าน
สรุปปัญหาที่รวบรวมได้จากตัวแทนพาร์ทเนอร์ผู้เสียหายทั้งหมดคือ ปัญหาระบบสต็อกสินค้า ที่ไม่มีความคงที่ จึงอยากให้บริษัทออกมาชี้แจง ปัญหาความไม่เป็นธรรม ที่ควรมีการพูดคุยไกล่เกลี่ยกัน ก่อนที่จะแจ้งความดำเนินคดีอาญา
ปัญหารูปแบบสัญญาที่มองว่าไม่เป็นธรรมก็คือ
- หลายร้านไม่ได้ใช้สัญญาฉบับเดียวกัน แต่มีความแตกต่างกันถึง 4 แบบ
- ปัญหาระบบเครื่องคิดเงินอัตโนมัติ POS ที่มีความโปร่งใสมากน้อยแค่ไหน ส่งผลกระทบต่อยอดสินค้าหายมูลค่าหลักหมื่นถึงแสนบาทในแต่ละราย
- ปัญหาร้านค้าที่โดนยกเลิกแบบไม่เป็นธรรม ถูกบริษัทยกเลิกด้วยปัญหาที่ควรจะพูดคุยกันก่อนได้
ด้านตัวแทนผู้เสียหายรายหนึ่งบอกว่า ตนเองเป็นหนึ่งในผู้ร้องเรียนที่ได้รับผลกระทบจากการเป็นพาร์เนอร์ร้านค้าฯ โดยปัญหาที่พบนอกจากปัญหาระบบสต็อกสินค้ามียอดของหายนับแสนบาท ยังถูกบริษัทแจ้งความในข้อหายักยอกทรัพย์อีกด้วย
นอกจากนี้ ตัวแทนพาร์เนอร์ร้านค้าถูกดีมีมาตรฐานอีกหลายราย ให้ข้อมูลว่า พาร์ทเนอร์ร้านค้าที่รวมตัวกันร้องเรียนครั้งนี้มีความยากลำบากมาก หลายคนประสบปัญหาการเงินที่ไปกู้ยืมมาเปิดร้าน ปัญหาต้นทุนสินค้าไม่เท่ากัน ปัญหาบิลซ้อนกัน ปัญหาการถูกยึดเงินประกัน และปัญหาภาษีที่พาร์ทเนอร์ร้านค้าต้องจ่ายเอง
ผศ.ดร.วิษณุ วงศ์สินศิริกุล เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เปิดเผยหลังรับเรื่องร้องเรียนว่า ที่ผ่านมาได้รับเรื่องร้องเรียนเบื้องต้นจากทางตัวแทนพาร์ทเนอร์ร้านค้าถูกดีมีมาตรฐาน เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งทางสำนักงาน กขค. ก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อเก็บข้อมูลแสวงหาข้อเท็จจริงมาแล้ว
สำหรับครั้งนี้ที่พาร์ทเนอร์ร้านค้าถูกดีมีมาตรฐานเกือบ 100 ราย ได้รวมตัวกันมาร้องเรียนยื่นเอกสารเพิ่มเติม โดยทางสำนักงาน กขค. รับเรื่องร้องเรียนแล้ว และหลังจากนี้จะดำเนินการยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า จากนั้นจะมีการตั้งอนุกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป ซึ่งครั้งนี้ทางสำนักงาน กขค. จะดำเนินการให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเต็มที่
เบื้องต้นทางสำนักงาน กขค. ได้รับข้อมูลจากผู้ร้องเรียนประมาณ 30-40 % แล้ว ส่วนที่เหลือจะต้องขอความชัดเจนและขอข้อมูลจากบริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด ในฐานะผู้ถูกร้องเรียนเพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งการให้ความร่วมมือของทั้งผู้ร้องเรียนและผู้ถูกร้องเรียนอย่างครบถ้วนมากที่สุด จะทำให้กระบวนการทำงานในการพิจารณาคดีครั้งนี้จะเสร็จสิ้นได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม โดยหลักของพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า ตามกฎหมายผู้กระทำผิดจะได้รับโทษใน 2 รูปแบบ คือ โทษทางอาญาและโทษทางปกครอง
- โดยโทษทางปกครอง ผู้กระทำผิดจะถูกปรับไม่เกินร้อยละ 10 ของรายได้ในปีที่กระทำความผิด
- ส่วนโทษทางอาญา จะต้องโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี แต่ทั้งนี้โทษจำคุกในพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้าได้กำหนดไว้ว่าสามารถใช้เป็นการเปรียบเทียบปรับได้
ผลจะออกมาอย่างไรก็ต้องรอการสืบสวนสอบสวนของทางสำนักงานกขค. กันต่อไป