5 กรรมหนัก ทำชีวิตติดขัด โดย อ.เอ จักรพรรดิ

5 กรรมหนัก ทำชีวิตติดขัด โดย อ.เอ จักรพรรดิ

        “กรรมลิขิต” เป็นคำนิยามตั้งแต่ในอดดีต จนถึงปัจจุบัน ทุกวันนี้ก็ยังคงใช้กันอยู่ คล้ายกับการที่เรายอมจำนนกับอะไรบางอย่าง ที่กำลังเกิดขึ้นกับตนเอง โดยที่เราไม่สามารถแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงอะไรได้แล้ว อาจจะใช้คำพูดว่า “ปล่อยให้เป็นไปตามกรรม” เคยสังเกตความรู้สึกในตอนที่พูดคำพวกนี้ออกมาหรือไม่ ว่ากำลังรู้สึกอย่างไร? และในใจกำลังคิดอะไรอยู่? เรื่องเวรกรรม เป็นสิ่งที่เกิดมาพร้อมกับศาสนาพุทธ และในอีกหลายๆ ศาสนาก็มีความเชื่อเรื่องนี้เช่นกัน 

        “กรรม” สามารถแบ่งได้ 2 อย่าง คือ กุศลกรรม (ความดี) อกุศลกรรม (ความชั่ว) ทั้งหมดนี้เกิดจากการกระทำของเรา ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน อดีตในที่นี้ หมายถึง ช่วงเวลาที่ผ่านมาแล้ว สิ่งต่างๆ ที่เราได้เคยทำตั้งแต่เด็กจนโตนั่นเอง ตามคำสอนเรื่องกรรม ของพระพุทธศาสนาเถรวาท เชื่อว่า มนุษย์ล้วนเป็นไปตาม “กรรมลิขิต” ไม่ใช่ “พรหมลิขิต” และจุดมุ่งหมายสูงสุดของมนุษย์ทุกคน คือ “ความสงบสุขของชีวิต” แต่ในชีวิตคนเรามักจะมีกรรมอยู่ 5 ประเภท ที่บางครั้งเราอาจจะเผลอลืม กระทำโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ 1 ใน 5 กรรมนั้นที่หลายคนอาจคิดไม่ถึงคือ “การไม่รักตัวเอง”  ซึ่งอาจารย์เอ จักรพรรดิ ยังได้พูดถึง กรรมหนัก 5 ข้อ ที่ส่งผลกับชีวิตของเราโดยที่เราไม่รู้ตัว ดังนี้

      กรรมหนักที่ 1 คือ ประมาทพระรัตรตรัย การประมาทจากกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม : ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ 

กายกรรม : การประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสม 

มโนกรรม : การกระทำทางใจ ความคิดไม่เหมาะสม

        กรรมหนักข้อ 2 คือ “การประมาทลบหลู่ดูหมิ่นบิดามารดา” หากเมื่อไหร่ก็ตามที่เราประมาทพลาดพลั้ง ทำให้บิดามารดาเสียใจ ทั้งวาจาก็ดี วจีกรรมก็ดี ทั้งหมดนั้นล้วนจะส่งผลต่อชะตากรรมกับดวงอย่างคาดไม่ถึง

        กรรมหนักข้อ 3 คือ “กรรมจากการทำแท้ง” เพราะ ดวงจิตดวงหนึ่งที่เวียนว่ายตายเกิดสะสมบุญมากเรื่อย ๆ เพื่อให้ได้เกิดมาสะสมบารมี แต่กลับไม่ได้เกิด แต่เราไปฆ่าเขา ยังเป็นการลดโอกาสในการเกิดสิ่งดีๆ บนโลกใบนี้ด้วย จึงเป็นกรรมที่หนักมาก และอาฆาตสูงเช่นกัน ทำให้สังเกตได้ว่า ทำอะไรไม่ค่อยงอกงาม ทำบุญไม่ขึ้น

        กรรมหนักข้อ 4 คือ “กรรมจากการไม่รักตัวเอง” เนื่องจากในทุกภพชาติ ที่เราเวียนไหว้ตายเกิด เราจะมีพ่อ-แม่ ครูบาอาจารย์ ทุกครั้งที่เราไม่รักตัวเอง ส่งผลให้เทวดาประจำตัวของเราโดนลบหลู่ดูหมิ่น ซึ่งเทวดาประจำตัวของเรา คือ พ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่ติดตามเรามาทุกภพชาตินั้นเอง การที่เราไม่รักตัวเอง ทำให้เราจะไม่เคารพ ศรัทธา บุญบารมี เทวดาประจำตัวเรา จะยิ่งทำให้เทวดาประจำตัวของเราเสื่อมลงเรื่อย ๆ นั่นเอง ไม่ว่าตอนนี้ชีวิตจะเจออะไรก็ตาม หรือปัญหาใหญ่แค่ไหนก็ตาม ให้ทุกคนลุกขึ้นมารักและให้เกียรติ ศรัทธา ตัวเอง เพราะเสมอเป็นการศรัทธาในเทวดาประจำตัวของเราด้วย 

         กรรมหนักข้อ 5 คือ “ประมาทดูหมิ่นครูบาอาจารย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์” ครูบาอาจารย์ทุกท่านล้วนอยากให้ศิษย์ได้ดี

        สุดท้ายนี้ กรรม คือ การกระทำจากตัวเรา ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ล้วนมาจากการกระทำของเรา ทั้งอดีตและปัจจุบัน ฉะนั้น หากเราต้องการให้สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นมีแต่สิ่งดีๆ เราก็ต้องกำหนดการกระทำของเราให้ทำแต่สิ่งดีๆ ซึ่งอาจารย์เอ จักรพรรดิมักจะย้ำเสมอ ว่าให้รักตัวเองให้มากๆ ใส่ใจตัวเอง ทั้งร่ายกายและจิตใจ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตเราไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ แต่เราสามารถแก้ไขและเริ่มใหม่ได้ตอนนี้ เดี๋ยวนี้เท่านั้น

พิกัดสายมู (ติดต่อ) : (5) เอ จักรพรรดิ | Facebook

cr.หยดน้ำ