หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ การเงิน Pic Post แชร์ลิ้ง
 
Page หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype
 
อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่
 
เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ
 
คำนวณ การเงิน ราคา BitCoin/Crypto
 
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
 
Login เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
 
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

คำด่าที่เจ็บแสบตั้งแต่โบราณ และคำด่าที่เป็นอมตะมาจนถึงวันนี้

คำด่าที่เจ็บแสบตั้งแต่โบราณ และคำด่าที่เป็นอมตะมาจนถึงวันนี้

คนผิดใจกัน ไม่พอใจกันก็มีการกระทบกระทั่ง หนักข้อหน่อยก็ถึงขั้น “ด่า” คำที่ด่ากันก็มีทั้งด่าตรงๆ เจ็บไม่ต้องแปล, ด่าอ้อมๆ ให้กลับได้แค้นที่บ้าน ฯลฯ

แต่วันนี้เราจะมาดูว่า คนสมัยก่อนเค้าด่ากันอย่างไร

เริ่มจากสมัยอยุธยาหลักฐานคำด่าที่เราพบในเอกสารสมัยอยุธยาคือ พระไอยลักษณวิวาทด่าตีกัน” มาตรา 36 เช่น ไอ้ (อี) ขี้ตรุ ขี้เมา ขี้ฉ้อ ขี้ขโมย ขี้ข้า ขี้ครอก ฯลฯ ไปจนถึง ...ทอง

คำด่าพวกนี้น่าจะเป็นเพียงตัวอย่างที่ท่านนำมาอ้างในกฎหมายเท่านั้น ในชีวิตจริงคงมีการประดิษฐ์ถ้อยคำสำนวนกันตามใจชอบเท่าที่จะสะใจคนด่า

ใน “ขุนช้างขุนแผน” นางวันทองด่านางลาวทอง ซึ่งเป็นคนเชียงใหม่ ในทำนองเหยียดหยามชาติกำเนิดว่า “ทุด...ชาวดอนค่อนเจรจา อีกินกิ้งก่ากินกบจะตบมัน”

พจนานุกรม อักขราภิธานศรับท์ ของหมอบรัดเลย์ ซึ่งพิมพ์เมื่อปี พ.ศ. 2416 สมัยต้นรัชกาลที่ 5 มีบรรจุคำด่าสมัยนั้นไว้ไม่น้อย ในหมวด “ไอ้” “อ้าย” และ “อี”

คำจิกหัวเรียกว่า “อี” นั้น มีคำอธิบายว่า “เปนคำหยาบสำหรับเรียกชื่อหญิงคนยาก, ที่เปนหญิงทาษีนั้น”

ส่วน “ไอ้” หรือ “อ้าย” อธิบายว่า “…เดี๋ยวนี้เขาเรียกชื่อผู้ชายเปนทาษเปนต้น” ความหมายที่หนังสือเล่มนี้ไม่ได้ไว้ก็คือ ที่จริงแล้วคำว่า “ไอ้” (หรือ “อ้าย”) หรือ “อี” นั้นในสมัยก่อนยังใช้เป็นคำเรียกคนที่ต้องโทษด้วย

ตัวอย่างคำด่าในอักขราภิธานศรับท์ ที่ซ้ำหรือใกล้เคียงกับในพระไอยลักษณวิวาทด่าตีกัน เช่น “...ทอง” “ไอ้บ้า” “ไอ้ชาติข้า” “อีขี้ข้า” “อีร้อยซ้อน” ส่วนมากนอกนั้นล้วนเป็นคำใหม่ๆ ที่คนเรียบเรียงพจนานุกรมฉบับนี้ไปรวบรวมมาจำนวนหนึ่งจากภาษาชาวบ้านร้านถิ่น

บางคำถ้าเอามาใช้ในยุคนี้น่าจะไม่เข้าใจกันแล้ว เช่น “อีแดกแห้ง” “อีร้อยซ้อน” “อีทิ้มขึ้น” เป็นต้น แต่ก็มีอีกหลายคำที่ยังคงเป็นที่เข้าใจหรือยังใช้กัน เช่น “อีผีทะเล” “อีชาติชั่ว” “อีเปรต” “ไอ้ถ่อย” “ไอ้ระยำ” “ไอ้จังไร”

แต่ที่เป็นอมตะมาตลอดก็คือ “...ทอง” ส่วน “อีห่าฟัด” (หรือ “ไอ้ห่าฟัด” รวมไปถึงคำตระกูล “ห่า” ทั้งหลาย ที่ไม่ได้ถูกรวมไว้ในอักขราภิธานศรับท์ เช่น “ห่าจิก” “ห่าราก” “ห่ากิน”) คนชนบทรุ่นเก่าๆ ยังใช้กันอยู่

ขอบคุณเนื้อหา และสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่: อักขราภิธานศรับท์. โดย หมอปรัดเล. คัดแปลโดย อาจารย์ริย์ทัด
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 


โพสท์โดย: THE EAGLE
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ทำไมงูกะปะถึงอันตรายและน่ากลัวกว่างูจงอางเงินเดือนผู้ประกาศข่าวผัวคลั่งใช้มีด ตัดหัวเมียและลูกสาว 3 คนน้องเนยลูกสาวแม่กวาง-พ่อน๊อต จบ High School แล้ว เเถมได้ทุนเรียนต่อที่ ISE จุฬาฯ สาขา Robot and AIทหารชั้นนายพลของไทยได้เงินเดือนมากแค่ไหนนี่คือสาเหตุที่ผู้หญิงชอบใช้แตงกวารายได้ของทีวีดิจิตอล มาดูกันว่าช่องไหนจะมีรายได้สูงที่สุดเงินเดือนอาชีพคนขับรถไฟ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด MISCELLANEOUS-จิปาถะ
วิมล ไทรนิ่มนวล เขียน "สงครามสีส้ม"รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ "ดิฉันคือไดโนเสาร์ตัวสุดท้าย"ปธน.โจ ไบเดนสะดุดล้มลงหลังจากกล่าวปราศรัยกับนักเรียนนายร้อยที่สำเร็จการศึกษาการกระทำสัตย์ปฏิญาณสาบานตน ก่อนเข้ารับตำแหน่งที่สำคัญในการบริหารประเทศชาติ
ตั้งกระทู้ใหม่