"มิ่งขวัญ" แถลงเปิดนโยบาย พปชร. แก๊สประชาชน 250 บาทต่อถัง ยัน ถ้า "บิ๊กป้อม" เป็นนายกฯ ทำได้แน่นอน
นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ที่ปรึกษาคณะทำงานโยบายพรรคพลังประชารัฐ แถลงนโยบายลดราคาแก๊สเพื่อประชาชน ระบุว่า เดือน เม.ย.- ก.ย. 2565 กองทุนน้ำมันมีหนี้ติดลบ 124,602 ล้านบาท รัฐบาลปรับขึ้นราคาแก๊สหุงต้มขึ้นกิโลกรัมละ 1 บาททุกๆ เดือน หรือ 15 บาทต่อถัง ส่งผลให้สินค้าอย่างอื่นราคาแพงขึ้นตามไปด้วย ขณะที่วันที่ 16 ส.ค. สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้เสนอแผนการกู้เงิน 150,000 ล้านบาท สนับสนุนกองทุนน้ำมัน และแก๊สที่เป็นหนี้อยู่ ทั้งนี้ในวันที่ 1 มี.ค. 2566 ราคาแก๊สหุงต้มขึ้นเป็น 423 บาทต่อถัง และวันที่ 9 มี.ค. 2566 ได้ประกาศตรึงราคาแก๊สไว้จนถึง 30 มิ.ย. 2566 ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเป็นเพราะใกล้ช่วงเลือกตั้งจึงตรึงราคาไว้ แต่ถ้ารัฐบาลปัจจุบันไม่ได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกภาระจะอยู่ที่รัฐบาลชุดหน้า ทั้งนี้หลังจากเลือกตั้งมีโอกาสที่ราคาแก๊สจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จนสิ้นปีนี้มีโอกาสที่จะได้เห็นราคาแก๊ส 513 บาทต่อถัง และจะเห็นสินค้าอื่นๆ ราคาเพิ่มสูงขึ้นอีก พรรคพลังประชารัฐจึงเสนอนโยบายแก๊สเพื่อประชาชน 1 ถังความจุ 15 กิโลกรัม เหลือราคา 250 บาท หรือลดราคาลง 173 บาท จากราคาปัจจุบัน 423 บาท โดยใช้งบประมาณอุดหนุนทั้งสิ้นโดยประมาณ 24,000 ล้านบาท ใช้งบประมาณอุดหนุนเป็นระยะเวลา 1 ปีหรือ 11.53 บาทต่อแก๊ส 1 กิโลกรัมซึ่งคำนวณแล้วว่าคนไทยใช้แก๊สหุงต้มปีละประมาณ 2,087 ล้านกิโลกรัม
นายมิ่งขวัญ บอกว่าเมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2566 กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เผยข้อมูลว่าแหล่งก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยหลังจากเปลี่ยนระบบสัญญาสัมปทานสู่ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิตจะทำให้ราคาแก๊สธรรมชาติที่ได้ปรับลดราคาลงจาก 279-324 บาทต่อล้านบีทียูเหลือ 172 บาทต่อล้านบีทียู จึงทำให้มีรายได้กลับคืนสู่ภาครัฐมากขึ้นกว่าเดิมประมาณ 24,000 ล้านบาทต่อปี จึงนำงบประมาณตรงนี้ไปอุดหนุนแทน ทั้งนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลด้านพลังงานทั้งหมดทั้งก๊าซและน้ำมัน รวมถึงไฟฟ้าคู่ขนานด้วย นายมิ่งขวัญบอกเพิ่มเติมว่า เมื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จะต้องไฟเขียวนโยบายดังกล่าวแน่นอน เพราะต้องการช่วยเหลือแก้ปัญหาปากท้องความเป็นอยู่ของประชาชน เพื่อให้คนไทยดำเนินชีวิตและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งจากนี้จะมีการเสนอต่อคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเพื่อผลักดันต่อไป นายมิ่งขวัญมั่นใจว่า พล.อ.ประวิตร สามารถใช้อำนาจในการสั่งการ ใช้งบกลางมาบริหารจัดการปัญหาราคาพลังงาน และหาก พล.อ.ประวิตร ได้เป็นนายกรัฐมนตรีจะนำประเด็นนี้หารือต่อที่ประชุม ครม. ในวาระต้นๆ อาจอยู่ในวาระที่ 1 หรือครั้งที่ 2 และราคาแก๊สจะกลายเป็นเรื่องเร่งด่วนสำหรับรัฐบาลแน่นอน












