ประกาศิต Drakon King ตอนที่ 18
"กระผมหลินเทียนหู่ ผู้นำแห่งสำนักจวี้อี้ น้อมคำนับท่านประมุข!"
"น้อมคำนับท่านประมุข"
คนของสำนักจวี้อี้หลายร้อยนายเปล่งเสียงออกมาโดยพร้อมเพรียงกัน
เฉินผิงสะดุ้งโหยง ประหลาดใจที่จู่ ๆ มีคนมาบอกว่าตนเองเป็นประมุข ซึ่งตัวเขาเองยังไม่รู้เลยว่าตัวเขาเป็นประมุขอะไรกัน
"คุณ.....พวกคุณจำคนผิดแล้วแหละผมไม่ใช่ประมุขอะไรทั้งนั้น!"
เฉินผิงรีบส่ายหัว
"ผู้ที่สวมประกาศิตมังกรฟ้า คือประมุขแห่งตำหนักมังกรฟ้า ไม่มีทางผิดแน่ครับ!"
หลินเทียนหู่อธิบาย
ตึง.....
คำพูดของหลินเทียนหู่ทำให้เฉินผิง นึกถึงบางอย่างขึ้นได้
ตอนที่เขายังอยู่ในเรือนจำตาเฒ่ามังกรมักพูดพล่ามว่าตัวเองเป็น ประมุขแห่งตำหนักมังกรฟ้าอยู่เรื่อย ต่อมาก็เอาแหวนวงนี้ให้เขาดู เหมือนว่าเป็นเพราะแหวนวงนี้ จึงทำให้หลินเทียนหู่คิดว่าตนเองเป็นประมุขแห่งตำหนักมังกรฟ้า
"คุณจะบอกว่าเพราะผมสวมแหวนวงนี้อย่างนั้นหรือ"
เฉินผิงถอดแหวนออกมา แล้วถามหลินเทียนหู่
"ใช่ครับ... สิ่งนี้คือ ประกาศิตมังกรฟ้า แห่งตำหนักมังกรฟ้าแน่นอน คำสอนของบรรพชนมันมังกรฟ้ากล่าวไว้ว่า... ผู้ที่สวมสิ่งนี้ก็คือประมุขแห่งตำหนักมังกรฟ้า!"
หลินเทียนหู่เงยหน้าขึ้นมองแหวนในมือของเฉินผิงแล้วเอ่ยตอบ
"พวกคุณลุกขึ้นก่อนเถอะ"
เฉินผิงทำตัวไม่ถูก เมื่อเห็นหลินเทียนหู่และพรรคพวกคุกเข่าจึงโบกมือให้ลุกขึ้น
"ขอบคุณท่านประมุข"
หลินเทียนหู่และคนของสำนักจวี้อี้ทุกคนลุกยืนขึ้น
"ผมขอบอกคุณไว้เลยนะ ผมไม่ใช่ประมุขอะไรนั่นหรอก แหวนวงนี้มีคนให้ผมมา พวกคุณจำคนผิดแล้ว"
เฉินผิงอธิบาย
"พวกเรารู้จักเพียงประกาศิตมังกรฟ้า ไม่สนตัวบุคคลครับ ในเมื่อประกาศิตมังกรฟ้าอยู่กับคุณ คุณก็คือประมุขของพวกเรา!"
หลินเทียนหู่พูดด้วยความนอบน้อม
เฉินผิงหมดคำจะพูดและได้แต่คิดในใจ
ดูเหมือนว่าตาเฒ่ามังกรจงใจส่งต่อตำแหน่งประมุขนี้ให้เขาแน่นอน
"พวกคุณก็เป็นคนของตำหนักมังกรฟ้าด้วยหรือ"
เฉินผิงเอ่ยถาม
"ใช่ครับตำหนักมังกรฟ้า มีเครือข่ายอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น 13 สำนัก สำนักจวี้อี้ของเราเป็นหนึ่งในนั้น แต่ว่ากระผมและพี่น้องจากสำนักอื่น ๆ นั้นไม่ค่อยคุ้นเคยกันเท่าไหร่ น้อยครั้งที่จะได้ติดต่อพบเจอกัน เว้นแต่จะมีการเรียกรวมพลจากท่านประมุข หากไม่เช่นนั้นแล้วพวกเราจะไม่เปิดเผยตัวตนง่าย ๆ ครับ"
หลินเทียนหู่อธิบาย
หลังจากได้รับฟังเฉินผิงถึงกับพูดไม่ออก ลำพังหากสำนักจวี้อี้กระทืบเท้า ก็สะเทือนไปทั้งหงเฉิงแล้วหากมีแบบนี้ถึง 13 สำนักเช่นนั้นแล้วแสนยานุภาพของตำหนักมังกรฟ้านี้ก็คงจะน่าสะพรึงมากจริง ๆ
"ท่านประมุขนอกจากพวกเรา 13 สำนัก ในต๊าซย่าแล้ว ยังมีสาขาอื่น ๆ อยู่ทั่วโลกด้วยครับ แต่สำหรับรายละเอียดที่เป็นรูปธรรมนั้น เนื่องจากตำแหน่งของกระผมต่ำต้อยจึงไม่รู้ข้อมูลแน่ชัดครับ"
เมื่อหลินเทียนหู่พูดจบ เฉินผิงยิ่งรู้สึกถึงความน่าทึ่งว่ายังมีสาขาอื่น ๆ อยู่อีกทั่วโลก มันสุดยอดเกินไปแล้ว!
เขาคิดไม่ตกจริง ๆ ตาเฒ่ามังกรที่ดูท่าทางมอมแมมคนนั้น จะเป็นบุคคลที่น่าทึ่งขนาดนี้ เฉินผิงในยามนี้กำลังตั้งหน้าตั้งตารอให้วันที่ 15 เดือน 7 มาถึง ถึงเวลานั้นเขาอาจจะได้รู้อะไรเกี่ยวกับตำหนักมังกรฟ้ามากขึ้น
เขานิ่งอึ้งอยู่ชั่วขณะหนึ่งแล้วจึงโบกมือ
"พวกคุณกลับไปก่อนเถอะ ถ้าหากมีเรื่องอะไรผมจะไปหาคุณเอง"
"น้อมรับคำสั่ง" หลินเทียนหู่แสดงความเคารพ
หลินเทียนหู่ได้นำพ่ายพลกลับไปแล้ว แต่เฉินผิงยังคงนั่งนิ่งอยู่กับที่ ในใจของเขายังไม่อาจสงบลงได้สถานะที่เพิ่มขึ้นมาอย่างกะทันหันนี้ทำให้เขาไม่สามารถตั้งรับได้ทัน
-----------
เวลานี้ที่ห้องทำงานชั้นบนสุดของโรงแรมฟู่เหา ซูเหวินจงและซูอวี่ฉีไม่ได้จากไปไหนแต่กลับ กลับเข้ามาที่ห้องทำงานชั้นบนสุด โรงแรมฟู่เหาแห่งนี้เป็นทรัพย์สินของตระกูลซู ดังนั้นพวกเขาอยากจะไปไหนก็ได้
"อวี่ฉี ที่ลูกพูดกับคุณเฉินเมื่อครู่ลูกจริงจังหรือเปล่า"
ซูเหวินจงถามพลางจ้องมองซูอวี่ฉี
"เรื่องอะไรหรือคะพ่อ"
ซูอวี่ฉีแสร้งโง่ทำเป็นไม่รู้เรื่อง
"อย่าแกล้งโง่เลย... พ่อย่อมรู้จักลูกสาวของตัวเองดีกว่าใคร ในใจลูกคิดอะไร คิดหรือว่าพ่อไม่รู้!"
ซูเหวินจงยิ้มน้อย ๆ
"พ่อคะ... เมื่อครู่นี้หนูแค่ช่วยแก้ปัญหาให้คุณเฉินเท่านั้นเองค่ะ คนเพิ่งจะรู้จักกันหนูจะไปชอบเขาได้ยังไงกันคะ!"
ซูอวี่ฉีค้อนควับ ซูเหวินจงเข้าให้ แต่ทว่าใบหน้ากลับแดงระเรื่อ
"คุณเฉินคนนี้นิสัยใจคอนับว่าใช้ได้ หน้าตาก็ไม่เลว แถมยังมีความรู้ทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม แต่ไม่รู้ว่าด้านอื่น ๆ จะเป็นยังไงบ้าง...."
ซูเหวินจงมีความประทับใจในตัวเฉินผิงอยู่ไม่น้อย แต่หากคิดจะให้มาเป็นเขยของตระกูลซูแล้ว ลำพังความสามารถทางด้านการแพทย์คงไม่เพียงพอ อย่างไรเสียซูเหวินจงก็มีซูอวี่ฉีเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวกิจการขนาดใหญ่ของตระกูลซู ก็จะต้องยกให้ซูอวี่ฉีทั้งหมด ถึงเวลานั้นคนที่สามารถช่วยซูอวี่ฉีจัดการได้ดี จึงจะเหมาะสม!
ที่มา: Joy Read








