เกาะที่เต็มไปด้วยคนตาบอดสี
ที่เกาะพิงกะแลป (Pingelap) เกาะหินปะการังของสหพันธรัฐไมโครนีเซีย ในมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นเกาะที่ได้ชื่อว่าเกาะตาบอดสี เนื่องจากประชากรบนเกาะราว 10% มีภาวะตาบอดสีอย่างแท้จริง คือมองเห็นเพียงสีขาวกับสีดำเท่านั้น
ทุกวันนี้มีคนตาบอดสีแท้ ๆ ที่มองเห็นแต่สีขาวกับสีดำอยู่ไม่มาก เพราะแม้หลายคนจะบอกว่าตัวเองตาบอดสี แต่ที่จริงแล้วอาจเป็นเพียงผู้มีความบกพร่องในการแยกแยะเฉดสีมากกว่า เนื่องจากผู้ที่ตาบอดสีขั้นรุนแรงนั้น ก็ยังสามารถแยกแยะเฉดสีต่างๆออกไปได้ถึง 20 เฉดสี เมื่อเทียบกับคนปกติที่สามารถแยกแยะได้ 100 เฉดสี
ตามปกติในจอประสาทตาของเรา มีเซลล์ 2 ชนิด ที่ทำให้เรามองเห็นวัตถุต่าง ๆ ได้ คือเซลล์รูปแท่งและเซลล์รูปกรวย ซึ่งพัฒนาตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา และพอตัวอ่อนมีอายุได้ 28 สัปดาห์ ก็เริ่มที่จะมองเห็นแล้วแม้แต่ในครรภ์มารดาที่มืดมิด ในตอนแรกจะเห็นเพียงสีขาวกับสีดำเท่านั้น แต่เซลล์รูปกรวยจะพัฒนาต่อไปให้เรามองเห็นสีต่าง ๆ ได้ โดยในช่วงการพัฒนา โปรตีนรับแสงที่มีความไวต่อระดับคลื่นแสงสีต่าง ๆ คือ โปรตีนรับแสงสีแดง สีเขียวและสีน้ำเงิน จะส่งสัญญาณไปยังสมองให้แปลสัญญาณสีที่เราเห็น ให้ออกมาเป็นสีต่าง ๆ แต่ถ้าโปรตีนดังกล่าวนี้ทำงานผิดปกติ คนเราก็จะเห็นเพียงสีขาวกับสีดำเท่านั้น
ศ. อิสราเอล อับรามอฟ แห่งภาควิชาจิตวิทยา ของวิทยาลัยบรูคลินในสหรัฐฯ ชี้ว่า โดยเฉลี่ยผู้ชายมีโอกาสเสี่ยงสูงกว่าผู้หญิงที่จะมีภาวะบกพร่องด้านการแยกแยะเฉดสีน้ำเงิน เขียวและเหลือง ทั้งนี้น่าจะมาจากกระบวนการวิวัฒนาการของมนุษย์ ..