"ประกาศิต Drakon King" ตอนที่1
"ในที่สุด ฉันก็ได้ออกมาแล้ว...."
หลังจากสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปเต็มปอด แล้ว เฉินผิง จึงได้ตะโกนออกมาสุดกำลัง!!
ที่ด้านหลังของเขาคือ "ทัณฑสถานหงเฉิง" เป็นสถานที่ที่เขาใช้เวลาอยู่ที่นี่ถึง 3 ปีเต็ม ๆ และในที่สุด วันนี้ก็ครบกำหนดปล่อยตัวเขาแล้ว!!!
"เฮ้อ... ไม่รู้ว่าพ่อกับแม่จะเป็นยังไงบ้างนะ"
เมื่อเฉินผิงนึกถึงพ่อกับแม่ ก็รีบสะพายเป้ผ้าแคนวาสขาด ๆ 1 ใบ เดินตรงดิ่งกลับบ้าน ตลอดเวลา 3 ปีมานี้ พ่อกับแม่ของเขาไม่เคยมาเยี่ยมเขาเลยสักครั้ง ในครั้งนี้เมื่อออกมาแล้ว เขาจึงอดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงทั้ง 2 ท่าน
ระหว่างทางที่เขากลับบ้าน เฉินผิงจ้องมองแหวนสีทองสัมฤทธิ์โบราณ ที่เขาสวมอยู่ตลอด
บนตัวแหวนสลักรูปมังกรที่ดูเหมือนมีชีวิตชีวา และบนหัวมังกรมีคำว่า "ประกาศิต" สลักอยู่
ตาเฒ่ามังกร ชายชราที่เป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของเขาในเรือนจำได้มอบแหวนวงนี้ให้กับเขาในวันที่เขาพ้นโทษ
เนื่องจากชายชราผู้นี้เป็นคนแปลกและดูเหมือนคนบ้า เนื่องจากวันทั้งวัน เอาแต่พร่ำเพ้อว่าตนเองนั้นเป็นประมุขแห่งตำหนักมังกรฟ้า เป็นผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน และมีความสามารถทางด้านการรักษาโรค ทั้งยังสามารถชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นคืนชีพได้อีกด้วย จึงไม่ค่อยมีใครสนใจและใส่ใจเขา มีเพียงแค่เฉินผิงที่คอยพูดเขากับเขาในยามว่าง และคอยแบ่งปันอาหารให้กับชายชรา
ในทุก ๆ วัน ตาเฒ่ามังกรจะเล่าเรื่องแปลกประหลาดต่าง ๆ ให้เฉินผิงฟัง อย่างเช่น ตำหนักมังกรฟ้า เกาะสะกดมังกร ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่เฉินผิงคิดว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อต่อมา ตาเฒ่ามังกรก็ชวนให้เฉินผิงนั่งสมาธิและฝึกยุทธ์เป็นเพื่อนกับตน เฉินผิงเองเห็นว่าตนเองก็ว่างอยู่และไม่มีอะไรให้เสียหาย จึงได้ทำการฝึกตามเขาไป แต่ใครจะไปรู้ได้ว่า 3 ปีผ่านไป เฉินผิงสามารถฝึกจนได้ทักษะยุทธ์และวิชาการแพทย์จากตาเฒ่ามังกรมาได้จริง ๆ
วันนี้เมื่อเฉินผิงครบกำหนดปลอ่ยตัว ตาเฒ่ามังกรจึงได้นำแหวนวงนี้มามอบให้แก่เขา พร้อมกับกำชับกับเฉินผิงว่า เมื่อถึงวันที่ 15 เดือน 7 ของปีนี้ เขาจะต้องเดินทางไปให้ถึงเกาะนิรนามทางทะเลตะวันออกให้ได้ เมื่อไปถึงที่เกาะแล้ว เพียงแสดงแหวนวงนี้ ก็จะมีคนมารับเขา และถึงเวลานั้น เฉินผิงก็จะได้รับโอกาสอันยิ่งใหญ่
เนื่องจากเขาได้เรียนรู้ทักษะมากมายมาจากตาเฒ่ามังกร คำพูดของตาเฒ่ามังกรที่ได้เอ่ยไว้ เฉินผิงจึงเชื่ออย่างสนิทใจ เขารับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่าจะไปถึงเกาะนิรนามนั้น ในวันที่ 15 เดือน 7 ซึ่งระยะเวลาก็เพียงแค่ไม่กี่เดือนข้างหน้า
ในขณะที่กำลังคิดเรื่องของตาเฒ่ามังกรอยู่นั้น ไม่ทันได้รู้ตัว เฉินผิงก็ได้เดินมาจนถึงหน้าบ้านของตัวเองแล้ว เมื่อเขามองบ้านตรงหน้า ที่ค่อนข้างทรุดโทรม อารมณ์ของเขาก็ซับซ้อนและแววตาก็เกิดความสงสัยขึ้นมาว่า 3 ปีมานี้ พ่อกับแม่เป็นอย่างไรบ้าง จะได้รับแรงกดดันหรือเรื่องหนักใจอะไรไหม เนื่องจากความหุนหันพลันแล่นที่ตนได้ก่อไว้เมื่อ 3 ปีก่อน
เมื่อนึกย้อนไป 3 ปีก่อน ดวงตาของเฉินผิงก็ส่อประกายแววโกรธแค้นออกมา!!!
3 ปีก่อน เฉินผิงกำลังคบกับ เกิ่งซานซาน แฟนสาวที่เรียนในรั้วมหาวิทยาลัยเดียวกัน ทั้งสองดูใจกันมาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว และมีแผนที่จะแต่งงานกันในเร็ว ๆ นี้
แต่ในคืนหนึ่งขณะที่เฉินผิงกำลังไปส่งแฟนสาวกลับบ้าน ทั้งสองได้พบกับ เซียวเหล่ย ที่ดื่มจนเมา!!
เขาคือทายาทของเศรษฐีดังแห่งเมืองหงเฉิง ที่วัน ๆ เอาแต่ทำเรื่องเลวทราม!! เมื่อเซียวเหล่ยที่มีอาการมึนเมา เห็นเกิ่งซานซาน ก็ถูกใจในความสวยของเธอ จึงได้ผุดความคิดชั่วร้ายขึ้น และเข้าไปลวนลามเธอ โดยที่ไม่สนใจเฉินผิง ที่เป็นแฟนหนุ่ม
เมื่อเฉินผิงเห็นดังแฟนสาวถูกคนอื่นล่วงเกิน ก็โมโห และเกิดอาการคลั่ง เขาคว้าก้อนอิฐข้างทางขึ้นมาและฟาดลงไปที่หัวของเซียวเหล่ยในทันที ด้วยความรุนแรง
เมื่อเซียวเหล่ยได้รับบาดเจ็บ ก็เกิดความโกรธแค้น เนื่องจากตระกูลมีทั้งอิทธิพลและอำนาจเงินทอง แน่นอนว่าเขาไม่มีทางยอมให้เรื่องจบลงง่าย ๆ เขาได้แจ้งตำรวจให้จับกุมเฉินผิง
เฉินผิงจึงได้รับโทษจำคุก เป็นระยะเวลา 3 ปี ด้วยข้อหาทำร้ายร่างกายโดยเจตนา!! จวบจนกระทั่งวันนี้ที่เขาครบกำหนดปล่อยตัวออกมา
หลังจากที่เขายืนครุ่นคริดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา สุดท้ายเฉินผิงได้สติจึงเคาะประตูบ้านเบา ๆ
"ใครน่ะ"
เมื่อประตูเปิดออกมา มีหญิงชราผมสีขาวโพลน เดินหลังค่อมออกมา โดยที่มีข้างหนึ่งคลำไปด้านหน้าอยู่ตลอดเวลา
"ใครน่ะ ใครมาเคาะประตู"
ภาพตรงหน้าเฉินผิงที่ได้เห็น หญิงชราตรงหน้าที่ดวงตาทั้งสองข้างปิดสนิท มองไม่เห็นอะไรเลย ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ และร่างกายก็สั่นเทาด้วยความเจ็บปวด
เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหญิงชราผมขาวที่อยู่ตรงหน้าตนเองนี้ก็คือมารดาของตนเอง ถังหงอิง
"เฉินผิง นั่นใช่ลูกจริง ๆ หรือ"
ถังหงอิงใช้มือทั้งสองคลำไปที่ใบหน้าของเฉิงผิง เมื่อสัมผัสไปที่ใบหน้าลูกชาย เธอจึงไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้อีก และร้องไห้ออกมาด้วยความห่วงหา
"แม่ ผมเอง ผมเองครับ"
เฉินผิง ดวงตาแดงกล่ำ เนื่องจากกลั้นน้ำตาของตนเองเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมาให้มารดารับรู้ถึงความโศกเศร้าของเขา
"แม่ครับ แม่เป็นอะไรไปครับ เกิดอะไรขึ้นกับดวงตาของแม่"
เฉินผิงไม่เข้าใจว่า เกิดเรื่องอะไรขึ้น เนื่องจากก่อนที่เขาจะจากไป ในตอนนั้นแม่ของเขายังร่างกายแข็งแรงดีอยู่ แต่ทำไม่ในช่วงระยะเวลาแค่เพียง 3 ปี ถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปได้
"เฮ้อ.. เรื่องมันยาวน่ะลูก รีบเข้าบ้านก่อน เดี๋ยวแม่จะเล่าให้ฟัง"
ถังหงอิงเดินจูงมือลูกชายเข้าไปในบ้าน
เมื่อเข้ามาภายในบ้าน เฉินผิงก็นิ่งอึ้งไปในทันที สภาพบ้านภายนอกที่ดูทรุดโทรมแล้ว เมื่อเข้ามาภายในกลับดูซอมซ่อและแทบจะไม่เหลือทรัพย์สินอะไรเลย จนแทบจะว่างเปล่า
ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาก่อนที่เขาจะเข้าคุก ครอบครัวของเขาก็ไม่ใช่คนร่ำรวยอะไร เพราะพ่อของเขาทำงานที่หน่วยงานรัฐ และมีหน้าที่การงานที่มั่นคง ถือว่ามีกินมีใช้ไม่ขัดสน แต่มาบัดนี้ ทำไมภายในบ้านถึงได้ดูว่างเปล่า และซ่อมซ่อถึงเพียงนี้ไปได้
"แม่ครับ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ครับ" เมื่อเห็นบ้านอยู่ในสภาพนี้ เฉินผิงจึงรีบเอ่ยถามมารดาด้วยความร้อนใจ..
"เฮ้อ" ถังหิงอินถอนหายใจ "หลังจากที่ลูกจากไป....."
ถังหงอิงเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้เฉินผิงฟังอย่างละเอียด ที่แท้ หลังจากที่เฉินผิงติดคุก เซียวเหล่ยยังไม่ยอมรามือจากครอบครัวของเขา และได้ทำการเรียกร้องเอาเงินชดเชยอีกหนึ่งล้านหยวน
สุดท้ายแล้ว ในเมื่อไม่มีทางเลือก พ่อกับแม่ของเขาจึงจำใจต้องขายเรือนหอของเฉินผิง และขายทรัพย์สินที่มีออกไปเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่สามารถรวบรวมได้ถึงหนึ่งล้าน สุดท้ายแล้วยังขาดอีกสามแสน พวกเขาจึงจำเป็นต้องผ่อนชำระให้ตระกูลเซียวเสมอมา!!
และสุดท้ายแล้วพ่อของเฉิงผิงก็ต้องตกงาน โดนเชิญให้ออกจากงาน ทำได้เพียงเป็นคนกวาดถนน เพื่อหาเงินเลี้ยงชีพ ส่วนแม่ของเขาก็ร้องไห้น้ำตาอาบแก้มตลอดเวลาจนกระทั่งตาบอดทั้งสองข้าง
พอได้ฟังสิ่งที่มารดาเล่า ทำให้เขานึกได้ว่า นี่คงเป็นเหตุผลที่พ่อกับแม่ไม่สามารถไปเยี่ยมเขาได้เลยตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่อยู่ในคุก
เมื่อได้ฟังเรื่องราวจากแม่ เฉินผิงค่อย ๆ กำหนัดแน่นขึ้น และ แรงอาฆาตก็ผุดขึ้นมาในส่วนลึกของแววตา!!!
เขาคาดไม่ถึงเลยว่าตระกูลเซียวจะโหดเหี้ยมขนาดนี้ นี่มันต้องการทำลายครอบครัวของเขาให้สิ้นซากชัด ๆ
"แม่ แล้วเกิ่งซานซานหล่ะ ไม่มาดูแลพ่อแม่บ้างเลยหรือ" เฉินผิงถามด้วยความสงสัย
เกิ่งซานซานกำลังจะแต่งงานมาเป็นภรรยาของเขาแล้ว และสาเหตุที่เขาต้องติดคุกก็เป็นเพราะต้องการช่วยเหลือเธอด้วย เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไม่สนใจใยดีต่อพ่อกับแม่ของเขา
"เฮ้อ... อย่าพูดเลย ไม่เพียงแต่ตระกูลเกิ่งจะไม่สนใจใยดีพ่อกับแม่เท่านั้น แม้แต่สินสอดทองหมั้นที่พวกเราให้ไป เขาก็ไม่คืนกลับมาให้เรา เขาบอกว่าสาเหตุที่งานแต่งงานต้องยกเลิกไม่ใช่ความผิดของพวกเขา แต่เป็นเพราะลูกติดคุกต่างหาก เพราะฉะนั้น พวกเขาจึงยึดสินสอดไปทั้งหมด!!!
"และพ่อของลูกเอง ก็ยังเคยไปเจราจากับพวกเขา แต่กลับถูกพวกเขาทำร้ายกลับมาอีกด้วยซ้ำ!"
ยิ่งพูด ถังหงอิงก็ยิ่งรู้สึกขมขื่น จนน้ำตาไหลลงมาอีกครั้ง
ที่มา: Joyread








