หยุมหัว ตีกันใหญ่แล้วแม่เอ่ยยย .....

ใกล้เลือกตั้งกันเข้าไปทุกที แม้ยังไม่มีประกาศการยุบสภาอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลลุงตู่ก็ตาม แต่หลายๆ พรรคการเมือง ก็มุ่งเร่งหาความนิยมทำคะแนนเสียงกันอย่างต่อเนื่อง นอกจากจะเร่งทำคะแนนเสียงกันแล้ว ก็ยังมีอีกเร่งทำคะแนนเสียกันด้วย  โดยการออกมาแฉฟาดฟันกัน ทั้งในพรรคด้วยกันเอง และต่างพรรคก็ตาม หรือแม้จะเป็นคนนอกที่ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง ใดก็ยังออกมา ฟาดกันให้เละ แฉกันให้ยับ หยุมหัวกันให้นัวกันไปเลย

ที่จะกล่าวถึงไม่ได้เลยเพราะบุคคลนี้จองหน้าสื่อทุกสำนักมาตลอดตั้งเกือบจะทุกวันก็ว่าได้ เจ้าพ่อแห่งการแฉ เปิดโปง ขุดรากถอนโคลนกันให้สุดๆ ต้องยกให้เค้า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้ออกมาเปิดโปรง ขบวนการทุนจีนสีเทา ลากใส้คนใหญ่คนโต ทั้งตำรวจทหารออกมาอย่างมากมายขึ้นหน้าหนึ่งไปก็หลายวัน จนเรื่องเงียบซ่าหายไปบ้างแล้ว ซึ่งล่าสุดก็มามีประเด็นกับพรรคภูมิใจไทย ทั้งพรรคเลยก็ว่าได้ ไล่ตั้งแต่ นายอนุทิน ชาญวีรกูลหัวหน้าพรรค  นายเนวิน ชิดชอบ และล่าสุด นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ทั้งการเปิดโปรงความไม่โปร่งใส ทั้งเรื่อง นโยบายกัญชา ของพรรค ซึ่งเรียกว่ากัดไม่ปล่อยกันเลยทีเดียว

พรรคใหญ่สองพรรคที่เห็นจะไม่พูดถึงไม่ได้ ต่อหน้าดีกัน ลับหลังลูกพรรคใส่กันไฟแล่บ มีทั้งโยกย้ายและเลือกข้างกันไปเลย   คงต้องให้สองพี่น้องตระกูล ป.ประยุทธและประวิทย์ ซึ่งดูเหมือนทั้งคู่อาจจะเคยรักกันมาก่อน ในสมัยพรรคเดียวกัน แต่ตอนนี้ได้มีการแยกย้ายกันไปแล้ว ก็ไม่วายที่จะถูกจับตามองว่าเป็นการสร้างกระแส เรียกคอนเทนต์ในช่วงกระแสหัวเลี้ยวหัวต่อกัน เฉยๆ เพราะสุดท้ายแล้ว ทั้งคู่อาจจะกลับมาร่วมงานกันอีกก็ได้

ยังไม่จบแค่นี้ ลงมาทางภาคใต้บ้าง พรรคที่เก่าแก่ที่แม้จะบอกว่าความนิยมทางภาคใต้ยังคงเหนียวแน่นอย่างต่อเนื่องอย่างพรรคพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังมีแฉกันเองตีกันเองในพรรคมาแต่ไหนแต่ไรมาตลอด ตั้งแต่สมัยนายหัว ชวน หลีกภัย เป็นหัวหน้าพรรค จวบจนมาถึงปัจจุบัน พรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังมีข่าวเกาเหลากันอยู่บ้างในพรรคมิใช่น้อย

ไปใต้แล้วจะขอแวะไปทางพรรคใหญ่ทางภาคเหนือและทางภาคอีสาน กันดูบ้าง อย่างเช่น พรรคเพื่อไทย  และพรรคไทยสร้างไทย ซึ่งก็เป็นอีกพรรคที่แยกออกมาจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งในอดีตก็คนเคยรวมงานการกันมาก็ยังมีการแซะกันระหว่างพรรคกันอยู่บ้าง นี้ยังไม่รวมถึงอีก2แนวร่วมประชาธิปไตย ที่แตกคอและแยกทางกันเดินมานานแล้ว ตู่และเต้น ก็ออกมาเหน็บแนมถึงขั้นฝากด่าถึงกันและกันบ้างทั้งหนักและเบาก็ว่ากันไปให้เป็นสีสันทางการเมือง

แต่ที่น่าตลกคงเป็นพรรคที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตยเต็มตัว อย่างพรรคสีส้ม ที่สมาชิกพรรคโพสด่ากันเองตอนกลางคืน อย่างสาดเสียเทเสีย แต่ยังไม่ทันข้ามวันดี ก็ออกมาบอกเป็นการเข้าใจผิดกัน เคลียกันเรียบร้อยไม่มีความขัดแย้งใดๆ ทั้งในพรรคและนอกพรรคทั้งสิ้น  เรื่องนี้สร้างความงุนงง ให้ฝ่ายกองเชียร์ของทั้งสองเป็นอย่างมาก ที่ออกมาทะเลาะเป็นปะเด็นกันเอง แล้วก็ดีกัน เหมือนเด็กเล่นขายของนั้นเอง ดังนั้นแบบนี้จะสร้างความเชื่อถืออะไรให้ใครได้อีกต่อไป ขนาดพรรคเดียวกัน ยังคุยกันไม่รู้เรื่องเลยด้วยซ้ำ หรือ เหตุการณ์นี้จะเป็นแค่สีสันทางการเมืองของพรรคนี้อีกเช่นกัน จากที่กล่าวมาจะห็นได้ว่าพรรคที่มีประเด็นกันเองในพรรค ส่วนมากจะเป็นพรรคที่ทำงานร่วมกันมาก่อนทั้งหัวหน้าพรรคและลูกพรรค และอาจจะแยกตัวออกไปในทิศทางของตัวเอง ความคิดความเห็นจึงไม่ตรงกันและอาจจะด้วยความชิงดีชิงเด่นส่วนตัวอีกด้วย

จากพรรคการเมืองที่มีประเด็นซัดกันเอง แฉกันเองในพรรคไปแล้ว ส่วนพรรคการเมืองบางพรรคที่ไม่เคยมีปัญหากับใคร และรักใคร่สามัคคีกันดีอยู่ ก็ยังมีให้เห็นบ้าง เช่นพรรค ชาติไทยพัฒนา ที่มีจุดยืนพร้อมทั้งอุดมการณ์ทางการเมืองที่ชัดเจนมาตลอด ไม่ว่าจะข่าวเสียหายที่ลดความน่าเชื่อถือของพรรคก็แทบไม่มีให้เห็น ถึงแม้จะมีบางพรรคจะมาแทะเล็มตีท้ายครัวในบ้านตน ก็ไม่ได้เกรงกลัวแม้แต่อย่างใด มาเหนือชั้นในบ้านของตน ทั้งประกาศลั่นพร้อมลุยทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนมีความสำคัญมากกว่า การมานั่งขัดแย้งทะเลาะกันเองอีกด้วยซ้ำ