เขมรเคลมใช้คำว่า "สงกรานต์" ตามไทย แทนคำเดิม?
มหกรรมการเคลมจากเพื่อนบ้าน
เขมรใช้คำว่า "สงกรานต์" ตามไทย แทนคำเดิม คือ "โจล-ชนัม-ทเม็ย"
นอกจากจะมีดราม่าเรื่องชื่อศิลปะการต่อสู้อย่าง "มวยไทย" ที่ถูกกัมพูชา เปลี่ยนชื่อเป็น "กุน ขแมร์" ในซีเกมส์ปีนี้ ที่ประเทศกัมพูชา โดยไม่ยอมใช้ชื่อ "มวย" แต่ว่าลอกกติกา "มวยไทย" มาทั้งดุ้นแล้ว ยังมีเรื่องที่น่าสนใจอีกเรื่อง คือ "ประเพณีสงกรานต์" ที่ในปีนี้ กัมพูชาโปรโมตใช้ชื่อประเพณีว่า "สงกรานต์" | សង្ក្រាន្ត | Sankranta" ตามไทย ทั้งที่ย้อยกลับไปเมื่อ 2-3 ปีก่อน กัมพูชาจะใช้ชื่อประเพณีว่า "โจล-ชนัม-ทเม็ย | ជូល-ចាន់-ធីម | Chaul Chnam Thmey"
"เทศกาลน้ำ" ในภูมิภาคนี้ก็จะมีอยู่หลายประเทศ และจะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไป เช่น ประเทศเมียนมาร์ (พม่า) เรียกว่า ตะจาน | သင်္ကြန်ပွဲတော် | Thingyan ประเทศลาว เรียกว่า "ปีใหม่ลาว" | ປີໃໝ່ລາວ | Lao New Year ประเทศกัมพูชา (เขมร) เรียกว่า "โจล ชนัม ทเม็ย" សង្ក្រាន្ត | Chaul Chnam Thmey
ส่วนในประเทศไทย เรียกว่า "สงกรานต์" | Songkran ซึ่งคำนี้มาจากภาษาสันสกฤต "सोङ्क्रान्" | Samkranti (สงกรานติ) มีความหมายว่า ผ่านไป, ข้ามไป, ไปด้วยกัน, เชื่อมหรือร่วมกัน, เปลี่ยนไป, ส่งต่อไป, อพยพไป, เคลื่อนจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง ไทยเราเอามาเขียนเป็น "สงกรานต์" (ต การันต์ ไม่ใช่ ติ) ความหมายทางวิชาการคือ เวลาที่ดวงอาทิตย์ย้ายจากราศีมีนเข้าสู่ราศีเมษ ความหมายที่เข้าใจกันคือ "เทศกาลปีใหม่ไทย"
แต่ที่น่าสนใจ คือ ปีนี้ 2566 ประเทศกัมพูชา โปรโมตและเรียก "เทศกาลน้ำ" ของประเทศตัวเองว่า "สงกรานต์ | សង្ក្រាន្ត | Sankranta" ตามประเทศไทย
(ลิ้งค์โปรโมตเทศกาล : https://bit.ly/3H4QET) ซึ่งก่อนหน้าที่ชาวเน็ตกัมพูชาบางส่วนก็พยายามเคลมคำนี้ Sankranta (សង្ក្រាន្ត) ว่า ปรากฎบนกำแพงหินที่เขมรนะ เห็นไหมว่าคำ คำนี้ กัมพูชา ไม่ได้ลอกไทยนะ แต่เดี๋ยวก่อน ต่อให้บนกำแพงหินปรากฎคำว่า "Sankranta (សង្ក្រាន្ត)" แต่คำนี้กัมพูชา (เขมร) ไม่เคยใช้เรียก "เทศกาลน้ำ" หรือ "เทศกาลปีใหม่" มาก่อน จนกระทั่ง ประเทศไทยทำให้ทั่วโลกรู้จักเทศกาลน้ำในนามว่า "สงการนต์ (Songkran)" แน่นอนพอนึกถึงคำนี้ ต่างชาติก็จะนึกถึง "ประเทศไทย" มิใช่ "กัมพูชา"
ซึ่งเทศกาล "สงกรานต์ (Songkran)" ในประเทศไทยนั้นประสบความสำเร็จระดับโลก ได้สร้างชื่อและได้รับเม็ดเงินมหาศาลจากชาวต่างชาติ จากการประสบความสำเร็จของ "สงกรานต์ไทย" นี้เอง อาจทำให้กัมพูชาเล็งเห็นว่า การจะใช้ชื่อเทศกาลน้ำว่า "โจล ชนัม ทเม็ย | ជូល-ចាន់-ធីម | Chaul Chnam Thmey" แบบเดิม คงจะไม่ประสบความสำเร็จเหมือนประเทศไทยและสร้างรายได้มหาศาลก็คงยาก เลยเปลี่ยนชื่อเทศกาลน้ำของตนเสียเลยเป็น "สงกรานต์ | សង្ក្រាន្ត | Sankranta" การทำแบบนี้เกิดภายใต้กรอบความคิดที่ว่า "วัฒนธรรมอะไรที่ประเทศไทย (สยาม)" ทำนั้น คือ สิ่งที่ขโมยมาจากเขมรทั้งสิ้น" จะเสียเวลาไปสรรค์สร้างใหม่ทำไม เคลมว่าเป็นของเราคงจะง่ายเสียกว่า
สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ การสูญหายไปของ "วัฒนธรรมเขมร" แบบดั้งเดิม ที่ผ่านมากัมพูชาถือ"วัฒนธรรมอินเดีย" เป็นวัฒนธรรมครูเหมือน "ไทย" และ "ลาว" แต่กัมพูชาก็ไม่ยอมรับวัฒนธรรมความเชื่อแบบเวียดนามที่มาจากจีน ดังนั้น กัมพูชาจะคุ้นเคยทางวัฒนธรรม "ไทย" และ "ลาว" มากกว่า เพราะภูมิศาสตร์ของประเทศกัมพูชาล้อมไปด้วย "เผ่าไท" (กลุ่มตระกูล ไท-กะได) กัมพูชาตอนนี้จึงอาจจะอยู่ในสภาวะ "การหลอมรวมหรือกลืนกลายทางวัฒนธรรม"
ซึ่งปรากฎการณ์นี้ก็กำลังเกิดขึ้นเรื่อย ๆ เช่น คนกัมพูชาเริ่มรู้ภาษาไทยมากขึ้น ภาษาเขมรเริ่มมีเสียววรรณยุกต์ ศัพท์ไทยบางคำก็เริ่มจะแทรกซึมเข้าไปในภาษาเขมรมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงการแต่งกายเริ่มคล้ายไทย รสนิยมการกินการใช้ อาหาร ฯลฯ เริ่มเหมือนไทย
ทาง "ประเทศไทย" นั้น รู้จักว่าอะไรเป็น "วัฒนธรรมของไทย" อะไรเป็น "วัฒนธรรมของเขมร" แต่ในเมื่อกัมพูชาไม่รู้ จึงแยกแยะไม่ได้ จึงรับ "วัฒนธรรมไทย (สยาม)" เข้าไปเต็ม ๆ แบบไม่รู้ตัว
บรรณานุกรม :
(๑) สงกรานต์ [1] (บาลีวันละคำ 336) https://dhamtara.com/?p=1973. 24 มกราคม 2566
(๒) สงกรานต์ 3 วัน 13-15 เม.ย. เริ่มมีเมื่อใด ปีใหม่ไทยในอดีตเปลี่ยนไปมา ชาวบ้านตามตรวจดูวันเอง. https://www.silpa-mag.com/history/art.... (24 มกราคม 2566)
เรื่องเล่าเพื่อนบ้าน













