เจ้าของร้านทองยิง 4 โจรปล้นทอง ผิดกฎหมายอย่างไรหรือไม่?

บอร์ด MISCELLANEOUS-จิปาถะ โพสท์โดย THE EAGLE

 ก่อนอื่นมาศึกษาทำความเข้าใจกับคำว่า ป้องกันตัวสมควรแก่เหตุ และ ป้องกันเกินกว่าเหตุ ตามประมวลกฎหมายอาญาก่อน การป้องกันตัวสมควรแก่เหตุมีบัญญัตไว้ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 68 “ผู้ใดจำต้องกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือของ ผู้อื่นให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำพอสมควรแก่เหตุ การกระทำนั้นเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นไม่มีความผิด

การที่กลุ่มคนร้ายมีอาวุธปืน ใช้ปืนยิงประตูร้านกระจกจนแตกแล้วบุกเข้ามาภายในร้านทอง ซึ่งภายในร้านทองมีเจ้าของร้านและบุคคลอื่นอยู่ด้วย และภายในร้านมีทองอยู่จำนวนมาก ถือได้ว่ามีการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงแล้ว ส่วนการป้องกันเกินกว่าเหตุมีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 69 “ถ้าผู้กระทำได้กระทำไปเกินสมควรแก่เหตุ หรือเกินกว่ากรณีแห่งความจำเป็นหรือเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น เพียงใดก็ได้แต่ถ้าการกระทำนั้นเกิดขึ้นจากความตื่นเต้น ความ ตกใจหรือความกลัว ศาลจะไม่ลงโทษผู้กระทำก็ได้” จากบทบัญญัติมาตรา 69 จะเห็นว่าหลักเกณฑ์การป้องกันเกินสมควรแก่เหตุจะมีองค์ประกอบดังนี้

1. ผู้กระทำได้กระทำไปเพื่อป้องกันภยันตรายตามมาตรา 68

2. การป้องกันได้กระทำไปเกินสมควรแก่เหตุ เกินกว่าความจำเป็น หรือเกินกว่าการจะต้องกระทำเพื่อป้องกัน

3. จากเดิมที่การป้องกัน ตามมาตรา 68 ผู้ป้องกันไม่มีความผิดตามกฎหมายเลย

 แต่หากเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ ผู้ป้องกันดังกล่าวยังมีความรับผิดทางอาญาอยู่ เพียงแต่เป็นดุลพินิจของศาลในการกำหนดโทษ ซึ่งเป็นดุลพินิจที่ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น เพียงใดก็ได้

สำหรับข้อต่อสู้ในชั้นศาลในคดีนี้ เจ้าของร้านทองจะกล่าวอ้างว่าที่กระทำการยิงปืนลูกซองออกไปนอกร้านใส่กลุ่มคนร้ายที่หนีออกไปนั้นเกิดขึ้นจากความตื่นเต้น ความตกใจหรือความกลัวก็ย่อมได้ เนื่องจากข้อเท็จจริงกลุ่มคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงกระจกร้านแตก กลุ่มคนร้ายมีปืนพร้อมที่จะสังหารเจ้าของร้านและบริวารในร้านได้ ซึ่งสร้างความหวาดกลัวและทำให้เจ้าของร้านตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การที่เจ้าของร้านใช้อาวุธปืนยิงต่อเนื่องเกิดจากอาการตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น หากนำสืบให้ข้อเท็จจริงปรากฏได้ดังนี้แล้ว ศาลจะไม่ลงโทษเจ้าของร้านทองเลยก็ได้ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลซึ่งทนายมิอาจไปก้าวล่วง

สำหรับอีกข้อต่อสู้หนึ่งก็คือการกล่าวอ้างว่าเป็นการป้องกันที่สมควรแก่เหตุ เจ้าของร้านทองใช้ปืนลูกซองยิงผู้ร้ายที่บุกเข้ามาปล้นในร้านทองคือการป้องกันตัว ถึงแม้ว่าผู้ร้ายจะพากันหนีออกไปนอกร้านแล้ว แต่เนื่องจากผู้ร้ายมีปืน และอยู่ในรัศมีที่สามารถยิงใส่เจ้าของร้านทองได้ ซึ่งหากคนร้ายยิงตอบโต้เจ้าของร้านทองก็ย่อมสามารถทำได้เพียงยกปืนขึ้นยิงเท่านั้น ซึ่งเป็นการใช้เวลาไม่มาก และหากเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นก็ยากที่เจ้าของร้านทองจะป้องกันตัวได้ ทั้งกลุ่มคนร้ายก็ไม่ได้สละอาวุธ ยังคงถืออาวุธปืนอยู่ อาจยิงตอบโต้กลับได้ทุกเมื่อ

ดังนั้นถือว่าภยันตรายยังไม่ผ่านพ้นไป การยิงใส่คนร้ายที่หนีออกไปนอกร้านในคดีนี้ จึงยังสามารถอ้างป้องกันสมควรแก่เหตุตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 68 ได้ครับ

.

จากเหตุกลุ่มโจรปล้นร้านทองช่วง 11:00 น ที่ร้านทองหน้าโรงเรียนตากพิทยาคมวันนี้ 8 ธันวาคม จ.ตาก นักกฎหมายหลายท่านอาจจะมองว่า การกระทำของเจ้าของร้านทองถือว่าป้องกันเกินกว่าเหตุ ตอนที่ทนายดูคลิปครั้งแรกก็คิดแบบนี้เหมือนกัน แต่ทนายมานั่งวิเคราะห์ดู ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นดังนี้ครับ เผื่อเจ้าของร้านทองหน้าร.ร.ตากพิทยาคม หรือเจ้าของร้านทองอีกหลายแห่งจะได้เรียนรู้ไว้เพื่อเป็นประโยชน์ ก่อนอื่นมาศึกษาทำความเข้าใจกับคำว่า "ป้องกันตัวสมควรแก่เหตุ" และ "ป้องกันเกินกว่าเหตุ" ตามประมวลกฎหมายอาญาก่อน การป้องกันตัวสมควรแก่เหตุมีบัญญัตไว้ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 68 “ผู้ใดจำต้องกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือของ ผู้อื่นให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำพอสมควรแก่เหตุ การกระทำนั้นเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นไม่มีความผิด" การที่กลุ่มคนร้ายมีอาวุธปืน ใช้ปืนยิงประตูร้านกระจกจนแตกแล้วบุกเข้ามาภายในร้านทอง ซึ่งภายในร้านทองมีเจ้าของร้านและบุคคลอื่นอยู่ด้วย และภายในร้านมีทองอยู่จำนวนมาก ถือได้ว่ามีการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงแล้ว ส่วนการป้องกันเกินกว่าเหตุมีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 69 “ถ้าผู้กระทำได้กระทำไปเกินสมควรแก่เหตุ หรือเกินกว่ากรณีแห่งความจำเป็นหรือเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น เพียงใดก็ได้แต่ถ้าการกระทำนั้นเกิดขึ้นจากความตื่นเต้น ความ ตกใจหรือความกลัว ศาลจะไม่ลงโทษผู้กระทำก็ได้” จากบทบัญญัติมาตรา 69 จะเห็นว่าหลักเกณฑ์การป้องกันเกินสมควรแก่เหตุจะมีองค์ประกอบดังนี้ 1. ผู้กระทำได้กระทำไปเพื่อป้องกันภยันตรายตามมาตรา 68 2. การป้องกันได้กระทำไปเกินสมควรแก่เหตุ เกินกว่าความจำเป็น หรือเกินกว่าการจะต้องกระทำเพื่อป้องกัน 3. จากเดิมที่การป้องกัน ตามมาตรา 68 ผู้ป้องกันไม่มีความผิดตามกฎหมายเลย แต่หากเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ ผู้ป้องกันดังกล่าวยังมีความรับผิดทางอาญาอยู่ เพียงแต่เป็นดุลพินิจของศาลในการกำหนดโทษ ซึ่งเป็นดุลพินิจที่ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น เพียงใดก็ได้ สำหรับข้อต่อสู้ในชั้นศาลในคดีนี้ เจ้าของร้านทองจะกล่าวอ้างว่าที่กระทำการยิงปืนลูกซองออกไปนอกร้านใส่กลุ่มคนร้ายที่หนีออกไปนั้นเกิดขึ้นจากความตื่นเต้น ความตกใจหรือความกลัวก็ย่อมได้ เนื่องจากข้อเท็จจริงกลุ่มคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงกระจกร้านแตก กลุ่มคนร้ายมีปืนพร้อมที่จะสังหารเจ้าของร้านและบริวารในร้านได้ ซึ่งสร้างความหวาดกลัวและทำให้เจ้าของร้านตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การที่เจ้าของร้านใช้อาวุธปืนยิงต่อเนื่องเกิดจากอาการตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น หากนำสืบให้ข้อเท็จจริงปรากฏได้ดังนี้แล้ว ศาลจะไม่ลงโทษเจ้าของร้านทองเลยก็ได้ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลซึ่งทนายมิอาจไปก้าวล่วง สำหรับอีกข้อต่อสู้หนึ่งก็คือการกล่าวอ้างว่าเป็นการป้องกันที่สมควรแก่เหตุ เจ้าของร้านทองใช้ปืนลูกซองยิงผู้ร้ายที่บุกเข้ามาปล้นในร้านทองคือการป้องกันตัว ถึงแม้ว่าผู้ร้ายจะพากันหนีออกไปนอกร้านแล้ว แต่เนื่องจากผู้ร้ายมีปืน และอยู่ในรัศมีที่สามารถยิงใส่เจ้าของร้านทองได้ ซึ่งหากคนร้ายยิงตอบโต้เจ้าของร้านทองก็ย่อมสามารถทำได้เพียงยกปืนขึ้นยิงเท่านั้น ซึ่งเป็นการใช้เวลาไม่มาก และหากเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นก็ยากที่เจ้าของร้านทองจะป้องกันตัวได้ ทั้งกลุ่มคนร้ายก็ไม่ได้สละอาวุธ ยังคงถืออาวุธปืนอยู่ อาจยิงตอบโต้กลับได้ทุกเมื่อ ดังนั้นถือว่าภยันตรายยังไม่ผ่านพ้นไป การยิงใส่คนร้ายที่หนีออกไปนอกร้านในคดีนี้ จึงยังสามารถอ้างป้องกันสมควรแก่เหตุตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 68ได้ครับ
Posted by Sappisansook Yodmongkhon on Thursday, December 8, 2022

ขอบคุณเนื้อหา และสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่: https://www.facebook.com/100014983808934/posts/pfbid02ThfKn8eVS3Cd4P9rYoEdXEj2Y91C4E8u29Yi5sfDjartiFWMwiwdgdhCnS8hscpil/?app=fbl

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม