แถวตรงแสบอีหลี ทุบสถิติตามรอยเดอะสเน็ค ฉาย 4 วันได้ 4 หมื่น ลดรอบถอดโรงอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบปี
แถวตรงแสบอีหลี ผลงานสร้างของ 888 ร่ำรวย ปล่อยตัวอย่างภาพยนตร์ในช่องยูทุบ เดอะ สเน็ค ซึ่งเป็นผลงานของค่าย วัน วัน ดี การใช้ช่องเดียวกันจึงอนุมานได้ว่าเป็นผลงานของทีมงานชุดเดียวกัน แม้ว่าจะเป็นคนละผู้กำกับ และดารานำก็ยังคงเป็นแซ็ค ชุมแพ คนเดียวกัน
เรื่องนี้เป็นผลงานเรื่องแรกของผู้กำกับหญิงชื่อมินทร์ธิรา ร่วมแสดงโดยตูมตาม ยุทธนา และดาราเด็กมากมายนำโดยน้องอินเตอร์ และน้องแพทริค
เรื่องย่อคัดจากเว็บของเมเจอร์ซินิเพล็กซ์
ณ โรงเรียนชนบทแห่งหนึ่ง โรงเรียนนี้จะมีทั้งเด็กเล็กเด็กโตเรียนร่วมกัน แต่ก็จะไม่ค่อยเป็นระเบียบสักเท่าไหร่ ครูที่มาสอนก็มีไม่กี่คน เด็กโตก็ชอบข่มรุ่นน้อง เลยมีแต่ปัญหาไม่ยอมกัน วันหนึ่งได้มีครูฝึกสอนเข้ามาสอนรู้ว่าเด็กที่นี่ไม่มีความสามัคคีกันเลย ครูฝึกสอนเลยอาสาจัดเข้าค่าย ทั้งเด็กเล็กเด็กโตทุกชั้นรวมกัน
เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันจึงเกิดขึ้น พวกโจรที่เดินผ่านมาเห็นมีการตั้งค่ายจึงคิดจะฆ่าให้หมด แต่โจรมาเจอทหารลาดตระเวณ จึงเกิดการยิงต่อสู้ ทําให้เด็กหวาดกลัวและวิ่งหนีกันกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง ได้มีเด็กกลุ่มหนึ่งหนีหลงเข้าป่าซึ่งเด็กไม่ค่อยจะถูกกันสักเท่าไหร่แต่ด้วยการผจญภัยและอยู่ร่วมกัน พอเด็กกลุ่มนี้รอดออกมาได้ทําให้เกิดความสามัคคีกัน รักกัน ก็เลยทําให้หมู่บ้านนี้รู้สึกสดชื่นขึ้น และมีความสุข
โรงเรียนก็ดีใจที่เด็กมีความสามัคคีและเข้าใจกัน ภัยอันตรายที่เกิดขึ้นทําให้เด็กทุกคนรู้จักเอาตัวรอดและทําให้เกิดความสามัคคีกัน
ต่อไปเป็นบทบรรยายความรู้สึกหลังชมครับ หนังเรื่องนี้ดูรู้เรื่อง ไม่น่ากลัวเหมือนอย่างที่ใครๆ ว่ากัน การแสดงของดาราดูดีมีสเน่ห์ เว้นบทตลกหลายฉากที่ใช้มุกทะลึ่งจนไม่เหมาะกับความเป็นหนังเด็ก คำว่าแสบอีหลี ไม่ได้หมายความว่าเป็นหนังอีสาน เพียงแต่เป็นการขยายความคำว่าแสบที่ใช้แทนแซบหมายถึงเด็กๆ ในโรงเรียนนี้ อันเป็นโรงเรียนในจังหวัดปทุมธานี (แต่เรื่องอาจสมมติให้อยู่ในนครนายก) เด็กๆ น่ารักทุกคน แต่มีหลายบทสำหรับเด็กที่อาจทำให้รู้สึกไม่น่ารัก ฉากตลกมีบางฉากที่ตลกจริง ส่วนใหญ่ดูแล้วไม่ตลกสำหรับคนดูหลายคน ฉากแอ็คชั่นไม่ตื่นตาอลังการเพราะเรื่องนี้ไม่ได้โฆษณาว่าลงทุนห้าสิบล้านแต่อย่างใด
หนังเข้าฉาย 3 พฤศจิกายนแบบปูพรมทั่วประเทศ วันต่อมาโดนลดโรงลดรอบหายไป 80% แถวบ้านคนโพสท์นี้มีฉายสามสาขา 8 รอบ โดนลดเหลือโรงเดียวรอบเดียวจากทั้งสามสาขา และหายไปในวันที่ 3 ทั่วประเทศอยู่ได้ประมาณ 4 วันและทำเงินไปประมาณ 4 หมื่นบาท ทุบสถิติหนังไทยรายได้ต่ำสุดในรอบปี หลังจากที่เดอะสเน็คเคยครองตำแหน่งนี้เช่นกัน ต่างกันตรงที่เดอะสเน็คเช่าโรงฉายเป็นรอบๆ แต่เรื่องนี้เข้าระบบเอ็มพาสด้วย









