ไม่กินไม่ได้แล้ว! แกนสับปะรดมีประโยชน์มาก
สับปะรดมีถิ่นกำเนิดในพื้นที่เขตร้อนบริเวณ ประเทศบราซิลถูกใช้เป็นพืชสมุนไพรกันอย่างแพร่หลาย ในสับปะรดจะมีเอนไซม์ชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า โบรมิเรน มีสรรพคุณในการย่อยสลายโปรตีน จึงนิยมนำไปหมักกับเนื้อสัตว์ต่างๆ เพื่อให้เนื้อนุ่มน่ากิน ตำราแพทย์แผนโบราณ แนะนำให้กินสับปะรดหลังกินอาหาร เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของกระเพาะ ลดอัตราเสี่ยงที่จะเป็นโรคกระเพาะ และไม่ทำให้แน่นท้องหลังกินอาหาร
แต่เมื่อพูดถึงการทานสับปะรดนั้น หลายคนก็คงจะมองข้ามการทานแกนสับปะรดไป เพราะด้วยความแข็ง และรสชาติที่ฝาด ไม่ได้หวานมากเหมือนเนื้อสับปะรด แต่เจ้าแกนสับปะรดนี่แหละค่ะ เป็นดั่งศูนย์รวมของประโยชน์เลย
แกนสับปะรด(ไส้กลางสับปะรด) คือแหล่งสะสมสารอาหารของสับปะรดเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะเอนไซม์บรอมีเลน (BROMELAIN) แท้จริงแล้วมีอยู่ในทุกส่วนของสับปะรด แต่จะพบในส่วนแกน มากที่สุด ซึ่งสารนี้มีประโยชน์มากมาย คือ มีฤทธิ์ช่วยย่อยอาหาร ช่วยสมานแผลและลดการอักเสบ ของกระเพาะอาหารและลำไส้
เพราะเอนไซม์บรอมีเลนมีฤทธิ์เป็นยาฆ่าเชื้ออ่อน ๆ คอยทำลายแบคทีเรีย ที่ไม่มีประโยชน์ ช่วยทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ มีกากใยมากจึงช่วยแก้ท้องผูกได้
อีกทั้งยังมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ แก้ขัดเบา แก้นิ่ว ป้องกันการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด อัมพฤกษ์อัมพาต เพราะเอนไซม์บรอมีเลน จะไปช่วยลดการ เกาะกันเป็นลิ่มเลือดของเกล็ดเลือด เพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย ต่อต้านโรคมะเร็ง
ดังนั้นจึงเหมาะมากหากใครที่มีอาการท้องผูก ต้องนั่งขับถ่ายนานๆ ลองเปลี่ยนมาทานแกนสับปะรดเพิ่มเติมในมื้ออาหาร ก็จะขับถ่ายง่ายขึ้นได้ค่ะ












