"ไทยศรีวิไลย์" ชู "เต้ มงคลกิตติ์" เป็นนายกฯ ชม 3 ตุลาการศาล รธน.เสียงข้างน้อย วินิจฉัยปม 8 ปีนายกฯ
นายวิวัฒน์ เจริญพาณิชย์ศิริ รองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ บอกถึงจุดยืนทางการเมืองของพรรคไทยศรีวิไลย์ หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเป็นนายกรัฐมนตรีต่อ ว่าพรรคไทยศรีวิไลย์เคารพในคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยมติ 6 ต่อ 3 เสียงให้การนับวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 เริ่มนับตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.2560 พรรคขอชื่นชมและศรัทธาในคำวินิจฉัยส่วนตน 3 เสียงของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย คือนายทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ์ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ และนายนภดล เทพพิทักษ์ ที่เด็ดเดี่ยวกล้าหาญ ประกอบด้วยคำวินิจฉัยเพื่อรักษาไว้ซึ่งระบอบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข และประชาชน ในการเลือกตั้งในปี 2566 พรรคพร้อมเป็นตัวเลือกหนึ่งในสนามเลือกตั้งให้กับประชาชนชาวไทย 66 ล้านคน พร้อมทำหน้าที่ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล แต่ก็ขึ้นอยู่กับประชาชน หากในการเลือกตั้งปี 2566 พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงรวบรวมเสียงในส.ส.เกินกว่า 250 เสียง และ ส.ว.อีก 250 เสียงเป็นนายกรัฐมนตรี ต่อได้ไปถึงวันที่ 6 เม.ย. 2568 พรรคไทยศรีวิไลย์แม้ได้เสียง ส.ส.ในสภาจากประชาชนจะ 1 เสียง 5 เสียง หรือ 10 เสียง หรือมากกว่านั้น ก็ขอทำหน้าที่ฝ่ายค้านต่อในสภาฯ อย่างเต็มกำลังความสามารถต่อไป โดยไม่หวั่นเกรงและไม่สนใจร่วมรัฐบาลกับพล.อ.ประยุทธ์ โดยในการเลือกตั้งปี 2566 พรรคไทยศรีวิไลย์จะส่งผู้สมัคร ส.ส.เขต ให้ได้ 400 เขตเลือกตั้ง 77 จังหวัด และผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ 100 รายชื่อ พร้อมนโยบายที่มาพร้อมกับประสบการณ์ของพรรคครอบคลุมการแก้ปัญหาประชาชนในทุกมิติ
พรรคไทยศรีวิไลย์ยืนยันจะเสนอชื่อ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ด้วยวัย 41 ปี เป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี ของพรรคเพียง 1 ชื่อเท่านั้น ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. พ.ศ.2561 เดิม การเลือกตั้ง ปี 2566 เป็นการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีตามกฏหมายเท่านั้น เพราะทราบดีว่าพรรคไทยศรีวิไลย์ จะเป็นพรรคการเมืองที่จะขยับจากพรรคขนาดเล็กเป็นขนาดกลางเท่านั้น แต่หากการเลือกตั้งปี 2566 พรรคไทยศรีวิไลย์ทำได้สำเร็จพอประมาณที่คาดไว้ แต่ในการเลือกตั้งปี 2570 พรรคไทยศรีวิไลย์ จะเป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่ ซึ่งหัวหน้าพรรค ตอนนั้นด้วยวัย 46 ปี น่าจะพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี ที่พร้อมด้วยวัย พร้อมด้วยความรู้ พร้อมด้วยร่างกาย วุฒิภาวะ พร้อมด้วยประสบการณ์ ที่พี่น้องประชาชนคนไทยจะฝากความหวังไว้ได้แน่นอน