"จุรินทร์" ย้ำ อุดมการณ์เป็นรากแก้วให้ "ประชาธิปัตย์" เติบโต อย่างยั่งยืน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้กล่าวกับคณะอาจารย์ และนิสิต ภาควิชารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่มาเยี่ยมชมและให้ความสนใจในกิจกรรมทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ โดยระบุว่า
พรรคประชาธิปัตย์ อายุมา 76 ปี ไม่ใช่พรรคโบราณ แต่เป็นสถาบันการเมืองที่ยั่งยืน เพราะได้พิสูจน์แล้วว่า แนวทางที่เราเดินเท่านั้นที่ทำให้พรรคการเมืองพรรคนี้ยั่งยืนต่อเนื่องได้ และกำลังจะเดินหน้าล้ำไปในอนาคตต่อไป ตราบชั่วฟ้าดินสลาย บางพรรคการเมืองตั้งขึ้นมา เพื่อตัวบุคคล หนุนให้ไปมีอำนาจทางการเมือง พอหมดภารกิจก็ยุบพรรค แต่ประชาธิปัตย์ไม่ใช่ เราตั้งมาเพื่อเป็นที่รวมของคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน รวมตัวกันขับเคลื่อนอุดมการณ์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับส่วนรวม และบ้านเมือง นี่คือสิ่งที่ทำให้ประชาธิปัตย์แตกต่างกับหลายพรรค
“สโลแกน ยุคอุดมการณ์ ทันสมัย เพราะอุดมการณ์จะเป็นจุดสร้างความแตกต่างระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับหลายพรรคการเมือง ที่ผมกล้าพูดว่าหลายพรรค เป็นพรรคเฉพาะกิจ คอยดูเถอะ สมัย 2 สมัย จะหายไปจากสารบบการเมือง เพราะเขาตั้งมาหนุนคน พอคนๆ นั้นอยู่ไม่ได้ก็เลิก อุดมการณ์คือรากแก้วที่ทำให้ประชาธิปัตย์เดินหน้ามาได้จนวันนี้”
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า อุดมการณ์สำคัญของประชาธิปัตย์ ข้อ 1 คือระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพราะเราเห็นว่าระบบนี้จะทำให้ประเทศยั่งยืนได้แม้ในยามวิกฤติ อย่างน้อยจะมีสถาบันคอยเป็นกลไกกลางที่เป็นที่พึ่งของประเทศได้ และได้พิสูจน์มาแล้วหลายยุคหลายสมัย อุดมการณ์อันที่ 2 ก็คือความซื่อสัตย์ สุจริต ซึ่งเป็นสิ่งที่หล่อหลอมให้เราอยู่มาได้จนวันนี้
“ถ้าโกงเมื่อไหร่ เดี๋ยวก็ถูกปฏิวัติ ไปดูสิ คณะปฏิวัติที่ยึดอำนาจจะมีเหตุผลข้อนึงทุกครั้ง ว่าเป็นเพราะมีการทุจริต คอร์รัปชั่น ก็อ้างเหตุยึดอำนาจเข้าทาง เพราะฉะนั้นเราจะไม่สร้างเงื่อนไขให้เกิดการยึดอำนาจ ความซื่อสัตย์สุจริต จึงเป็นอุดมการณ์ข้อ 2” นายจุรินทร์ กล่าว
พร้อมกับระบุว่า อุดมการณ์ข้อ 3 ที่สำคัญคือ การตัดสินใจเรื่องใดๆ นั้นเป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวมและเพื่ออนาคตของประเทศเป็นหลัก ซึ่ง กัญชา จะเป็นอีกตัวหนึ่งที่พิสูจน์จุดยืนประชาธิปัตย์
“ประชาธิปัตย์ สนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ แต่ไม่เอากัญชาเสรี เพราะมันไม่คุ้มกับความสูญเสีย และไม่คุ้มกับภาระที่จะเกิดขึ้นกับส่วนรวม กับเยาวชน กับประเทศในวันข้างหน้า นี่คือสิ่งที่พิสูจน์ว่าเราตัดสินใจบนพื้นฐานในอุดมการณ์ของเรา” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
และยังเพิ่มเติมอีกว่า ลำพังแต่เพียงอุดมการณ์อย่างเดียวนั้นไม่พอ เพราะโลกเปลี่ยนทุกวัน ดังนั้นนอกจากอุดมการณ์ที่เป็นรากแก้วของความเป็นเราแล้ว ก็ต้องทันสมัยด้วย และประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองพรรคเดียวที่มีทีมเศรษฐกิจทันสมัย ซึ่งจะนำไปสู่ความเป็น Bio Economy ซึ่งเรามีต้นทุนวัตถุดิบในประเทศ อันจะทำให้ผลกำไรเต็มร้อยอยู่ภายในประเทศ นอกจากนี้เรื่องการศึกษาทันสมัย ก็คงมีแต่ประชาธิปัตย์ ซึ่งตนได้ตั้ง ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เป็นหัวหน้าทีม และต่อไปจะต้องไม่เป็นการศึกษาแบบเดิม ๆ ประเทศต้องสร้างคนเก่ง คนดี คิดดี ทำดี และต้องสร้างคนคิดเป็น ทำเป็น แต่ความทันสมัยคือการใช้เทคโนโลยี การใช้ระบบดิจิทัล ในการค้นคว้าหาแหล่งความรู้มาเพื่อสนับสนุนให้เกิดการศึกษาตลอดชีวิต ซึ่งโลกและประชาธิปัตย์กำลังเดินไปทางนี้ที่จะเป็นการเติบโตแบบยั่งยืน