เกิดอะไรขึ้น จีนถอนทุนจากสีหนุวิลล์ เมืองท่าสำคัญของกัมพูชา!
‘สีหนุวิลล์’ เต็มไปด้วยตึกที่หยุดก่อสร้างนับพันแห่ง ทุนจีนทิ้งไปแล้วไม่กลับ หวั่นวิกฤตฟองสบู่ภาคอสังหาฯ
.
‘สีหนุวิลล์’ เมืองท่าตากอากาศของประเทศกัมพูชา ที่ตั้งใจปลุกปั้นให้เป็นเมืองจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อสู้กับเมืองท่าท่องเที่ยวทางทะเลในภูมิภาคอาเซียน อย่างพัทยา ดานัง และภูเก็ต
.
โดยในช่วงสิบปีที่ผ่านมาสีหนุวิลล์เติบโตอย่างรวดเร็วจากการเข้ามาลงทุนของเอกชนจีน ที่เรียกได้ว่าทั้งเมืองนี้สร้างมาเพื่อคนจีนก็คงจะไม่ผิด เพราะอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ โรงแรม รีสอร์ท คอนโดมิเนียม รวมทั้งคาสิโน ล้วนแต่เป็นการลงทุนจากชาวจีนแทบทั้งสิ้น
.
‘จาง เจียเหว่ย’ นายกสมาคมธุรกิจจีนในเมืองสีหนุวิลล์ ได้พูดคุยกับทาง Nikkei ว่า การเติบโตอย่างรวดเร็วของเมือง ส่งผลกระทบทำให้ราคาที่ดินพุ่งสูงอย่างมาก สะท้อนถึงต้นทุนค่าเช่าอาคารที่แพงขึ้น ซึ่งกำลังส่งสัญญาณฟองสบู่ภาคอสังหาอย่างชัดเจนของเมืองนี้
.
ในเดือนสิงหาคมจะครบ 3 ปี ที่การเติบโตของเมืองสะดุดลงหลังจากเกิดโรคระบาดใหญ่ การก่อสร้างมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในสีหนุวิลล์ การพัฒนาอย่างรวดเร็วและไม่มีการตรวจสอบได้เปลี่ยนสิ่งที่เคยเป็นจุดหมายปลายทางริมทะเลยอดนิยมของนักเดินทางแบ็คแพ็ค ให้กลายเป็นคาสิโนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คอนโด โรงแรม และห้างสรรพสินค้า
.
แรงบันดาลใจของสีหนุวิลล์ต้องการวางยุทธศาสตร์ของเมืองให้เป็น "มาเก๊าแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" การเติบโตของอุตสาหกรรมการพนันออนไลน์ซึ่งเริ่มตั้งขึ้นในเมืองประมาณปี 2017 และดึงดูดคนงานหลายแสนคนให้มาทำงานที่เมืองแห่งนี้
.
แต่แล้วธุรกิจที่กำลังเติบโตกลับหยุดชะงัก เมื่อเดือนสิงหาคม 2019 รัฐบาลกัมพูชาที่ได้รับแรงกดดันจากรัฐบาลปักกิ่งให้ควบคุมอาชญากรรมและเงินที่ผิดกฎหมายที่หมุนเวียนอย่างมหาศาลในสีหนุวิลล์ มีคำสั่งห้ามเล่นการพนันออนไลน์ ผู้คนในอุตสาหกรรมนี้ตกงานเป็นจำนวนมหาศาล
.
อีกทั้งโรคระบาดได้ซ้ำเติมทำให้ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างรวดเร็ว เนื่องจากชื่อเสียงของเมืองแย่ลงไปอีก โดยเกิดการลักลอบเปิดบริษัทการพนันออนไลน์ซึ่งผู้ที่เข้ามาคุมกิจการเต็มไปด้วยแก๊งอาชญากรที่ดำเนินการหลอกลวงเหยื่อบนเว็บทั่วโลกด้วยแรงงานที่ถูกบังคับจากการลักลอบเข้ามาในประเทศ
.
และในช่วงที่เกิดการระบาดใหญ่ กลุ่มทุนจีนได้ทิ้งเศษซากต่างๆ เอาไว้แล้วหอบเงินกลับประเทศจีน ส่งผลทำให้เมืองนี้เต็มไปด้วยอาคารที่ยังสร้างไม่เสร็จถึง 1,155 หลัง ตามตัวเลขอย่างเป็นทางการ การก่อสร้างส่วนใหญ่ได้หยุดลง ทิ้งปัญหาความเสื่อมโทรมของโครงสร้างพื้นฐานในเมืองเอาไว้มากมาย ทั้งถนน ทางเท้า และระบบระบายน้ำ ที่สุดท้ายแล้วรัฐบาลกัมพูชา ต้องมาตาล้างตามเช็ดสร้างขึ้นหลังจากการพัฒนาของเมืองอย่างรวดเร็วเกินไปได้ทำลายโครงสร้างพื้นฐานของเมืองไปมาก
.
ในความพยายามที่จะหาทางเดินต่อไปข้างหน้า นักพัฒนาชาวจีนหลายคนได้พบกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกัมพูชาในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม เพื่อเรียกร้องให้ทางการลดภาษีและสร้างดัชนีมูลค่าที่ดินเพื่อช่วยในการเจรจาสัญญาเช่า
.
พวกเขายังต้องการให้รัฐบาลช่วยแก้ไขข้อพิพาทกับเจ้าของที่ดินดั้งเดิมโดยชักชวนให้กลายเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในโครงการ
.
นักพัฒนาชื่อ Qiu ซึ่งเดินทางมาถึงสีหนุวิลล์จากประเทศจีนในปี 2017 เป็นหนึ่งในนักธุรกิจที่มีปัญหาข้อพิพาททางกฎหมายกับเจ้าของที่ดินชาวกัมพูชา
.
โรงแรมสูงระฟ้ามูลค่า 3 ล้านดอลลาร์ของเขาบนถนนอินดิเพนเดนซ์อเวนิวสร้างเสร็จประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2020 หลังจากการก่อสร้างนานถึง 18 เดือน แต่ยังไม่สามารถเปิดกิจการได้ และมีปัญหาพัวพันกับค่าเช่าและข้อพิพาททางกฎหมายกับเจ้าของที่ดินที่ต้องการจะควบคุมโครงการทั้งหมด ทั้งที่เขาคือหนึ่งคนที่สร้างธุรกิจในจีนได้เติบโต แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าเขาอาจคิดผิดที่มาลงทุนในสีหนุวิลล์
.
Ivan Franceschini นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย ซึ่งศึกษาการลงทุนของจีนในเมืองสีหนุวิลล์กล่าวว่า ในประเทศที่การทุจริตในระดับท้องถิ่นและการเก็งกำไรที่ดินโดยชนชั้นสูงที่เชื่อมโยงกันนั้นมีอยู่มากมาย ข้อเสนอของนักพัฒนาไม่น่าดึงดูดใจนัก
.
แต่หลังจากที่นักลงทุนต่างชาติพากันทิ้งเมืองไป ตอนนี้เริ่มเห็นปัญหา ทำให้เจ้าของที่ดินเริ่มรู้ตัวว่า สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ได้ง้อ และทิ้งไว้ซึ่งตึกรามบ้านช่อง อาคารมากมายที่สร้างไม่เสร็จ และหวังเพียงว่านักลงทุนรายใหม่จะกลับมาเพื่อฟื้นฟูเมืองแห่งนี้ ซึ่งเขามองว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้
.
รัฐบาลได้มอบหมายให้สถาบันการวางผังเมืองและการออกแบบของเซินเจิ้นดำเนินการตามแผนแม่บทที่ "ทะเยอทะยาน" เพื่อเปลี่ยนเมืองให้กลายเป็น "ศูนย์กลางการค้า บริการ และโลจิสติกส์"
.
แต่ในทางปฏิบัติระดับท้องถิ่น กลับมีผลเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับวิธีการจัดการกับโครงการที่หยุดชะงักหลายร้อยโครงการ ส่วนหน่วยงานระดับจังหวัดต่างก็ล้มเหลวในการดำเนินงานตามแผน
.
นักพัฒนาบางคนได้ลดขนาดเป้าหมายการทำกำไรลง โดยนักพัฒนาชาวจีนที่เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้า 5 ชั้นและอาคารอพาร์ตเมนต์ 30 ชั้น ที่ตอนนี้มีผู้เข้าอยู่อาศัยและใช่งานเพียง 30% เท่านั้น โดยมีร้านเสริมสวยและร้านอาหารบางแห่ง ซึ่งทั้งหมดจ่ายค่าเช่าโดยมีส่วนลด 35%
.
แต่สัญญาณการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของประเทศจีน เริ่มส่อเค้าลางที่ไม่ดีต่ออุตสาหกรรมก่อสร้างของกัมพูชา ซึ่งมีส่วนทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของประเทศเติบโตมากกว่า 1 ใน 3
.
จากข้อมูลทางเศรษฐกิจล่าสุดของธนาคารโลกในเดือนมิถุนายน การอนุมัติการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในภาคอสังหาริมทรัพย์ของกัมพูชาลดลงจาก 1,700 ล้านดอลลาร์ หรือ 60,778 ล้านบาท ในปี 2019 เหลือ 142 ล้านดอลลาร์ หรือ 5,076 ล้านบาท ในปี 2020
.
แม้ตอนนี้การระบาดของโรคระบาดจะคลี่คลายลง แต่อุตสาหกรรมการก่อสร้างยังคง "ซบเซา"
.
ในช่วงสามเดือนแรกของปี 2022 จำนวนใบอนุญาตก่อสร้างที่ได้รับอนุมัติลดลง 66% และพื้นที่อนุญาตก่อสร้างที่ได้รับอนุมัติ 67.9% ในขณะที่ปริมาณการนำเข้าเหล็กและซีเมนต์ลดลง 37.5%
.
ธนาคารโลกเตือนว่า การชะลอตัวอาจส่งผลกระทบในวงกว้างต่อเศรษฐกิจ การเติบโตของสินเชื่อในระดับสูงและการกระจุกตัวของสินเชื่อในประเทศในภาคการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ ยังคงเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อเสถียรภาพทางการเงินของกัมพูชา