เทศกาลวัน"ทานาบาตะ"
วันทานาบาตะเป็นเทศกาลที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น เทศกาลนี้จะจัดขึ้นทุกๆวันที่ 7 เดือน 7 ของทุกปี
เทศกาลทานาบาตะหรือเทศกาลขอพรจากดวงดาวนั้นเป็นเทศกาลที่มีต้นกำเนิดมาจากเทศกาล 7 นางฟ้าของประเทศจีน
ในทุกๆวันที่ 7 เดือน 7หรือวันที่ 7 กรกฎาคมของทุกปีชาวญี่ปุ่นจะมีกิจกรรมที่ทำคือการเขียนคำขอพรลงบนกระดาษสีหรือทันซะคุ(tanzaku)แล้วแขวนไว้ที่ต้นไผ่
ซึ่งกระดาษสีแต่ละสีนั้นจะใช้คำอธิษฐานที่แตกต่างกัน
1 สีเขียวหมายถึงความก้าวหน้าในหน้าที่การงานและการเรียน
2 สีเหลืองคือโชคลาภเงินทอง
3 สีแดงหมายถึงความสำเร็จ
4 สีชมพูหมายถึงความรัก
5 สีฟ้าหมายถึงความสุข
หากเราจะเขียนลงบนกระดาษว่าขอให้เรามีความสุขก็ให้ใช้สีฟ้าหากอยากให้ถูกลอตเตอรี่หรืออยากได้เงินโบนัสเยอะๆให้เขียนลงบนกระดาษสีเหลือง หากชอบใครรักใครอยากให้เขารักตอบก็ให้เขียนคำอธิษฐานลงบนกระดาษสีชมพูขอให้เรียนจบหรือขอให้การงานผ่านไปด้วยดีให้ใช้สีเขียว หากประกอบการธุรกิจอยากขอให้ธุรกิจที่ทำอยู่สำเร็จให้ใช้กระดาษสีแดง
เเราไม่แน่ใจว่าคำอธิษฐานที่เขียนลงไปนั้นจะต้องใช้ภาษาญี่ปุ่นอย่างเดียวหรือไม่
วิธีการเขียน(สำหรับภาษาญี่ปุ่น)คนญี่ปุ่นมักเขียนจากขวาไปซ้ายและบนลงล่าง
ประวัติความเป็นมาของวันทานาบาตะ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ดินแดนของสวรรค์มีเทพเจ้าองค์หนึ่งชื่อว่าเทพเจ้าเทนไตซึ่งเป็นราชาแห่งสรวงสวรรค์ท่านมีลูกสาวอยู่ 1 คนมีนามว่าโอริฮิเมะหรือเจ้าหญิงทอผ้า นางมีฝีมือการทอผ้าที่ประณีตและสวยงามเป็นอย่างมาก
แต่ถึงแม้เจ้าหญิงทอผ้าจับเพียบพร้อมทั้งหน้าตาและความสามารถแต่เธอก็ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเพราะไม่มีเวลาไปพบผู้ใดจึงไร้คู่ครองโดยสิ้นเชิง
เทพเจ้าเทนไตเกิดเป็นห่วงและเห็นใจลูกสาว จึงได้จัดหาคู่ครองให้ลูกสาวของตนและได้ยินมาว่าอีกฟากฝั่งของแม่น้ำทางช้างเผือกมีชายหนุ่มรูปงามกล้าหาญและขยันขันแข็ง ซึ่งมีนามว่าฮิโกโบชิ หรือชายหนุ่มเลี้ยงวัว
หลังจากเจ้าหญิงทอผ้าได้พบกับชายหนุ่มเลี้ยงวัวก็ได้ตกหลุมรักกัน จึงได้ตกลงแต่งงานกัน
แต่ด้วยความที่เป็นคู่รักข้าวใหม่ปลามันนั้นก็มีแต่ความรักลุ่มหลงซึ่งกันและกันจนไม่สนใจหน้าที่การงานที่ตนเองควรจะต้องทำ
เจ้าหญิงทอผ้าก็ละทิ้งงานทอผ้าส่วนชายเลี้ยงวัวก็ปล่อยปละละเลยปล่อยให้วัววิ่งเพ่นพ่านไปทั่วสวรรค์
และเมื่อเทพเจ้าเทนไตซึ่งเป็นราชาแห่งสวรรค์รู้เข้าจึงโกรธมากเลยจับทั้งคู่แยกจากกันให้อยู่คนละฟากของแม่น้ำสวรรค์
เจ้าหญิงทอผ้าเสียใจเป็นอย่างมากที่ได้พลัดพรากจากสามีของตนซึ่งได้ไปวิงวอนขอเทพเจ้าเทนไตผู้เป็นพ่อว่าขอให้ตนได้ไปพบกับชายหนุ่มเลี้ยงวัวอีกครั้ง
แน่นอนว่าผู้เป็นพ่อจะปฏิเสธลูกสาวได้ซะที่ไหนกัน เทพเจ้าเทนไตจึงได้อนุญาตให้ผู้หญิงทอผ้ากับชายหนุ่มเลี้ยงวัวพบกันได้อีกครั้งแต่มีเข้ามาอยู่ 2 อย่างคือ1ต้องทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดและ 2 ให้พบกันได้เพียงปีละ 1 ครั้งก็คือวันที่ 7 เดือน 7นั่นเอง
เมื่อถึงวันที่ 7 เดือน 7 นั้นซึ่งทอผ้าดีใจเป็นอย่างมากจึงได้ไปรอที่ทางช้างเผือกชายหนุ่มเลี้ยงวัวเองก็เช่นกันแต่ทั้งคู่ก็ต้องพบกับความเจ็บปวด แล้วเจ้าหญิงทอผ้าก็ได้ร้องไห้อย่างหนักมากเพราะทางช้างเผือกที่ขวางกั้นไร้ซึ่งสะพานทอดไปอีกฝั่งให้ข้ามเดินไป
แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่เพราะฝูงนกกางเขนที่ได้บินผ่านมาเห็นเหตุการณ์พอดีจึงนึกสงสารและเห็นใจจึงได้กางปีกและต่อตัวกันเป็นสะพานเพื่อให้เจ้าหญิงทอผ้าและใช่เลี้ยงวัวได้ข้ามมาเจอกัน
"ใน 1 ปีมีแค่ 1 วันการที่ได้เจอหน้าคนรักมันสำคัญกว่าวันไหนๆ"
แต่ก็ใช่ว่าการพบกันของเจ้าหญิงทอผ้ากับชายหนุ่มเลี้ยงวัวจะราบรื่นแบบนี้ทุกๆปีเพราะหากปีไหนๆเกิดฝนตกกลุ่มนกกางเขนก็ไม่สามารถกางปีกเพื่อให้ทั้งสองคนข้ามมาเจอกันได้
นั่นหมายความว่าเจ้าหญิงทอผ้ากับชายหนุ่มเลี้ยงวัวจะต้องรออีก 1 ปีเพื่อที่จะได้พบกันอีกครั้ง
ซึ่งในวันทานาบาตะคนญี่ปุ่นมักจะขอให้วันนั้นเป็นวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสและอากาศดีเพื่อให้ดวงดาวทั้งสองได้โคจรมาพบกันอย่างสมหวังจากที่ได้รอคอยมานานนับปี