อ. เจษฯแจง!! น้ำดื่มบรรจุขวด อ้างว่าน้ำมีคุณภาพดีเนื่องจากมีการเปิดเพลงคลาสสิกให้น้ำฟัง
อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ โพสต์เรื่องราวสุดอึ้ง น้ำดื่ม
ขำๆ วันนี้ครับ มีการแชร์ภาพ "น้ำดื่มบรรจุขวด" ที่อ้างว่าน้ำมีคุณภาพดีเนื่องจากมีการเปิดเพลงคลาสสิกให้น้ำฟัง !? .... ซึ่งฟังดูก็รู้ว่า "ไร้สาระ" แค่หาเรื่องกล่าวอ้างเกินจริง มาขายของกัน
ปัญหาคือ ดันมีหลายคนเข้ามาคอมเมนต์ว่า มันเป็นเรื่องจริงนะ มีการทดลองยืนยันจากนักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นด้วยว่าเสียงที่ดีๆ จะช่วยปรับปรุงผลึกของน้ำได้ ฯลฯ
(รายงานข่าว) อึ้งน้ำดื่มดัง เปิดเพลงคลาสสิกให้ฟัง ช่วยน้ำมีคุณภาพดี ก่อนเจอตบด้วยข้อมูลจาก อ.เจษฎ์
อึ้งน้ำดื่มยี่ห้อดัง เผยสรรพคุณการทำน้ำให้มีคุณภาพ เปิดเพลงคลาสสิกให้ฟังช่วยได้ คนร้องห๊ะเลย งานนี้มีคนมาบอกว่า มันช่วยได้จริง ก่อนเจอตบด้วยข้อมูลจาก อ.เจษฎา
วันที่ 17 กรกฎาคม 2565 เฟซบุ๊ก ผู้บริโภค มีการเปิดเผยสรรพคุณเครื่องดื่มยี่ห้อหนึ่งที่ติดอยู่บนสลาก แต่อ่านชวนแล้วเอ๊ะจริง ๆ และทำให้เรื่องนี้กลายเป็นไวรัลดังแชร์กว่า 1,800 ครั้ง ทั้งที่โพสต์ไม่ถึง 1 วัน โดยสรรพคุณต่าง ๆ มีดังนี้
- ผลิตจากแหล่งน้ำธรรมชาติใต้ดิน
- ผ่านวิธีการกรองระบบรีเวิร์สออสโมซิส
- เพิ่มความมั่นใจด้วยระบบโอโซน
- ผ่านเทคโนโลยีการแอคทิเวทจัดเรียงโมเลกุลน้ำให้เป็นระเบียบ
แต่ที่พีคที่สุดคือข้อสุดท้าย "เพิ่มประสิทธิภาพของเทคโนโลยีด้วยการบรรเลงเพลงคลาสสิกให้ฟัง"
เจอสรรพคุณข้อนี้เข้าไปอ่านแล้วเอ๊ะจริง ๆ การเปิดเพลงคลาสสิกช่วยให้คุณภาพน้ำดีขึ้นยังไง ถ้าหากของที่ผลิตเป็นสิ่งมีชีวิตมันอาจจะเกี่ยวกัน แต่นี่ไม่เกี่ยวแน่นอน
อ.เจษฯ เลย
(รีโพสต์ โพสต์เก่า) "ความคิดของคน มีผลต่อน้ำ" เป็นเรื่อง pseudo science ครับ
วันก่อน รายการทีวีชื่อดังรายการหนึ่ง มีแขกรับเชิญที่มาพูดเกี่ยวกับเรื่องของ "ผลของความคิดของคน ที่มีต่อผลึกของน้ำ" เช่น ถ้าพูดดีๆ กับน้ำ น้ำจะมีผลึกที่สวยงามกว่าการพูดร้ายๆ กับน้ำ ... ซึ่งถ้ามองในมุมของความเชื่อส่วนบุคคล ก็คงไม่เป็นอะไร แต่ถ้ามองด้วยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เรื่องนี้ก็นับว่าเป็นแค่ pseudo science วิทยาศาสตร์ปลอม ที่ไม่ได้น่าเชื่อถือเป็นจริงเป็นจัง แต่อย่างไรครับ
ส่วนใหญ่ คนที่มีความเชื่อเรื่องทำนองนี้ จะเริ่มจากการอ้างอิงถึงการทดลองของชาวญี่ปุ่น ที่ชื่อ ดร.มาซารุ เอโมโตะ (Dr. Masaru Emoto) ซึ่งอ้างว่า เอาน้ำใส่ขวดที่เขียนคำไว้ต่างกัน เช่น ความรัก Love กับ ความเกลียด Hate แล้วเอาผลึกน้ำแข็งในแต่ละขวดไปส่องกล้องจุลทรรศน์ พบว่า ผลึกสวยงามต่างกัน สีต่างกัน ??
แต่ประการแรก ดร.เอโมโตะ คนนี้ ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์อะไร เขาจบปริญญาตรี รัฐศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แล้วอ้างว่าได้ปริญญาเอกด้านแพทย์ทางเลือก (Doctor of Alternative Medicine) ของมหาวิทยาลัยเปิดนานาชาติ (Open International University) จากประเทศอินเดีย ซึ่งไม่ได้เป็นทางน่าเชื่อ
ในส่วนของการทดลองผลึกน้ำของเขานั้น ได้ถูกคนในวงการวิทยาศาสตร์วิพากษ์วิจารณ์กันเยอะว่า เป็นการทดลองที่ไม่น่าเชื่อถือ ไม่ได้มีการควบคุมปัจจัยต่างๆ ่ที่เพียงพอ แถมเขาไม่ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการทดลองอย่างชัดเจนอีกด้วย
แม้กระทั่งผู้ร่วมวิจัยอีกคน คือ William A. Tiller ซึ่งอยู่ในวิดีโอสารคดีของเอโมโตะ (What The Bleep Do We Know?) ยังบอกเองว่า การทดลองของพวกเขานั้นไม่ได้มีหลักฐานยืนยันผลการทดลองมากพอ เพราะพวกเขาไม่ได้ควบคุมปัจจัยต่างๆ ที่จะทำให้น้ำเกิดสภาวะ supercooling (การเย็นตัวยิ่งยวด)
ช่องโหว่สำคัญของการทดลองของเอโมโตะ คือการตีความผลการทดลองเองตามใจชอบ เช่น การบอกว่าผลึกนั้นสวยหรือไม่สวย นั้นขึ้นกับการตีความผลของเขาเอง และงานทดลองทำนองนี้ก็ไม่ได้ถูกตีพิมพ์ในวารสารวิชาการที่ไหนอีกด้วย
ต่อมา มีนักวิจัยด้านปรจิตวิทยา (parapsychology หรือ การศึกษาปรากฎการณ์ทางจิต ที่อธิบายไม่ได้) ชื่อ Dr. Dean Radin ในรัฐ
แคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ร่วมกับเอโมโตะ ทำการทดลองเกี่ยวกับผลึกน้ำแข็งในปี ค.ศ. 2005 และตีพิมพ์ในวารสารวิจัยด้วยพลังบำบัดชื่อว่า Explore ในปี 2006 (ดูบทคัดย่อ.....)
พวกเขาได้เอาน้ำดื่มบรรจุขวดจำนวนหนึ่ง ตั้งไว้ที่แคลิฟอร์เนีย (พร้อมบางขวดที่แยกออกมาเป็นชุดควบคุม) แล้วให้กลุ่มของเอโมโตะที่ประเทศญี่ปุ่น ส่งกระแสจิตให้รูปถ่ายของขวดน้ำเหล่านั้น แล้วส่งขวดน้ำจากประเทศอเมริกากลับไปทำให้เป็นผลึกที่ญี่ปุ่น ก่อนที่จะให้อาสาสมัคร 100 คนเข้ามาดูภาพผลึกน้ำแข็ง 40 ภาพทางเว็บไซต์ เพื่อให้คะแนนว่าผลึกไหนสวยกว่ากัน ... ซึ่งพวกเขาสรุปว่า ผลึกจากน้ำที่ถูกคนญี่ปุ่นเพ่งกระแสจิตใส่นั้น สวยงามกว่าน้ำในชุดควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ ?!
แม้ว่าข่าวนี้จะฟังดูน่าตื่นเต้น แต่เมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลการทดลองออกมาจริงๆ แล้ว ก็มีข้อน่าสงสัย น่ากังขา อยู่เป็นจำนวนมาก เช่น การทดลองแบบนี้ ทำให้มีการเลือกรูปลักษณะของผลึกน้ำแข็ง เพื่อชี้นำในการตัดสินใจให้คะแนนได้ และในส่วนของอาสาสมัครที่มาช่วยตัดสินคะแนนนั้น ก็ไม่ได้มีข้อมูลชัดเจนว่าใช้หลักการอะไรในการตัดสิน นอกจากความรู้สึกส่วนตัว
นอกจากนี้ คุณเจมส์ แรนดี้ (James Randi) นักมายากลที่หันมาจับผิดพวก pseudo science และไสยศาสตร์ ได้เคยท้าเอโมโตะให้มาทดลองให้ดู พร้อมเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเป็นเรื่องจริงและทำภายใต้การควบคุมปัจจัยทางวิทยาศาสตร์ .... ซึ่งเอโมโตะไม่ได้รับคำท้า !!
อ้างอิงจาก: https://www.facebook.com/OhISeebyAjarnJess/posts/pfbid02wJ487DtkyA6mNYH8p5z33shgQ9Sg7SArSe1P9bxUHmUJq8Ffy4G5WuQ5BfaH5wiWl
https://en.wikipedia.org/wiki/Masaru_Emoto?fbclid=IwAR2ER8Yiiy4DrF0JKQDIamRS1x0F5NSPY7tfNY5HZPF5KAi4z51HswmgSoQ
https://www.facebook.com/wecanchoose/photos/a.1424013654574638/2891321967843792/