ส่องเลยสัตว์เศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้เกษตกรปี 2022
เกษตรกรรม ปศุสัตว์ เป็นวิถีของชาวไทยมาอย่างยาวนาน แม้ในปัจจุบันเทคโนโลยีต่างๆ จะเข้ามามากมาย แต่การทำเกษตรและการเลี้ยงสัตว์นั้นก็ยังคงอยู่ เพราะสามารถสร้างรายได้ให้แก่ครัวเรือนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจทั้งเพื่อการบริโภคภายในประเทศและส่งออกต่างประเทศ เป็นสิ่งที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งและเพิ่มโอกาสในการพัฒนาที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย โดยสัตว์เศรษฐกิจที่ได้รับความนิยมในปี 2022 นี้ประกอบด้วย
1.แพะ สัตว์เศรษฐกิจที่มาแรงในตอนนี้ เนื่องจากลงทุนน้อย ราคาดี และได้ผลผลิตที่ดีเช่นกัน เหมาะที่จะใช้บริโภคภายในครัวเรือน แบบเศรษฐกิจพอเพียงและพึ่งพาตนเอง แพะเป็นสัตว์เลี้ยงง่าย ไม่ต้องเอาใจใส่มาก กินอาหารได้หลากหลายชนิด เช่น หญ้า พืชอาหารสัตว์ และใบไม้ชนิดต่างๆ เกษตรกรเลี้ยงแพะส่วนใหญ่จะปล่อยให้แพะหากินเองตามธรรมชาติ แต่พบว่ามีอัตราการตายสูง เนื่องจากแพะโตช้า อ่อนแอต่อโรคและพยาธิ ปัจจุบันมีการขาย 2 ลักษณะ คือ การคัดตัวผู้ขาย ราคาประมาณ 60 บาทต่อกิโลกรัม (ขายชั่งยกตัว) และตัวเมีย ราคาประมาณ 40 บาทต่อกิโลกรัม (ขายชั่งยกตัว) รวมถึงการขายต่อให้กับเกษตรกรที่สนใจจะเลี้ยงแพะ ก็จะต้องขายแม่พันธุ์รุ่นใหม่ที่สุขภาพดี และแข็งแรงมาก ขายพร้อมลูกในท้อง ราคาประมาณ 3,000 บาท - 4,000 บาทต่อตัว
2. โค มีทั้งโคเนื้อและโคนม สามารถนำไปต่อยอดสร้างรายได้แตกต่างกันออกไป โคนมใช้นม โคเนื้อใช้เนื้อ ในการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ปกติราคาโค จะซื้อขายกันที่ตัวละ 25,000 – 35,000 บาท แต่ในปัจจุบันความต้องการซื้อขายโคมากขึ้น ราคาขยับเป็นตัวละ 40,000 – 50,000 บาท
3.ปูนา ปูน้ำจืดสามารถพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย อาศัยอยู่ตามคันนา และขุดรูอยู่ในทุ่งนา แต่หลังจากที่ชาวนาได้ปรับวิถีการผลิตข้าวที่เน้นใช้ปุ๋ยและสารเคมีมากขึ้น ทำให้ปูนามีจำนวนลดน้อยลงไป แต่ในขณะเดียวกันก็ยังได้รับความนิยมและเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่มาแรงในปีนี้ เพราะเกิดการอนุรักษ์ เลี้ยงไว้เพื่อจำหน่ายและรับประทานขึ้น ปูนาเป็นสัตว์ที่มีรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ มักพบในเมนูท้องถิ่นของชาวอีสานและชาวเหนือ หรือนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ จนเป็นที่ต้องการของตลาด ราคาประมาณ 120 บาทต่อกิโลกรัม
4.จระเข้ สัตว์เศรษฐกิจที่สร้างรายได้คุ้มค่าแก่ผู้เลี้ยง ในช่วงที่ราคาหมูสูง จระเข้คืออีกหนึ่งทางเลือกที่ประชาชนให้ความสนใจและรับประทาน เนื่องจากรสชาติดี ไขมันน้อย ลักษณะคล้ายเนื้อไก่ นอกจากเนื้อจระเข้ที่ถูกนำมารับประทานแล้ว ในส่วนของหนังจระเข้ ถูกนำไปสร้างรายได้ได้อย่างมหาศาล ในตลาดเครื่องหนังและแฟชั่น จระเข้เป็นสัตว์ที่ส่งออกขายไปยังต่างประเทศได้ดี จระเข้ที่เป็นสัตว์เศรษฐกิจในประเทศไทยมีอยู่ 2 ชนิด ได้แก่ จระเข้น้ำจืดหรือจระเข้พันธุ์ไทย และจระเข้น้ำเค็ม ราคาในตลาดตอนนี้ ส่วนเนื้ออยู่ที่ 180 บาทต่อกิโลกรัม บ้องตันอยู่ที่ 240 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งตัวอยู่ที่ 900 - 1,500 บาท
5.กระต่ายเนื้อ เอาใจคนรักอาหารป่าที่แท้ทรู เนื้อนุ่ม อร่อย ทำได้หลากหลายเมนู แม้ในประเทศไทยจะยังไม่นิยมรับประทานมากนัก ด้วยความน่ารักน่าเอ็นดูประชาชนยังคงมองว่าเป็นสัต์เลี้ยง แต่ในต่างแดนนิยมบริโภคเป็นอย่างมาก ข้อดีของกระต่ายคือ เลี้ยงง่าย โตไว นำไปบริโภคก็ได้ หรือขายเป็นสัตว์เลี้ยงได้เช่นกัน สายพันธุ์ที่นิยมในไทยคือ กระต่ายดำเนื้อภูพานถือเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่นิยมเลี้ยงกัน เพราะเลี้ยงง่าย โตไว และสามารถนำเนื้อไปขายเพื่อบริโภค ราคาขึ้นอยู่กับขนาดและอายุของกระต่าย ส่วนเนื้ออยู่ที่ 100 - 300 บาทต่อกิโลกรัม
การเลี้ยงสัตว์เพื่อการค้า ยังเป็นที่ได้รับความสนใจทั้งในและต่างประเทศ ถือเป็นช่องทางที่สำคัญในการหารายได้ของเกษตรกรเพื่อเลี้ยงชีพและดูแลครอบครัว นี่คือหนึ่งอาชีพที่เป็นเสาหลักให้พื้นฐานเศรษฐกิจเมืองไทยต่อไป