พรรคชาติไทยพัฒนา ลุยลงพื้นที่แก้ไขปัญหาช้างป่ากับคน นำทีมโดยกัญจณา ศิลปอาชา ที่ปรึกษาคณะทำงานยุทธศาสตร์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
หลายครั้งหลายคราวที่เราได้เห็นข่าวเกี่ยวกับช้างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นช้างป่าทำร้ายนักท่องเที่ยวตามเขตอุทยาน, ทำลายบ้านเรือน ชุมชน พื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้าน จนได้รับความเสียหายนั้น เมื่อ 30 พ.ค.65 นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา ที่ปรึกษาคณะทำงานยุทธศาสตร์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม,หัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, คณะทำงาน พร้อมด้วยนายณรงค์ จีนอ่ำ รอง ผวจ.เลย ลงพื้นที่ บ้านพองหนีบ ต.ศรีฐาน อ.ภูกระดึง จ.เลย เพื่อดูบริเวณที่ช้างป่าออกมาหากินนอกป่าและพื้นที่ในชุมชน พร้อมร่วมประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาการอยู่ร่วมกันระหว่างชุมชนกับช้างป่า
เนื่องจากพบช้างป่าเป็นจำนวนมาก ได้แตกออกมาสร้างโขลงใหม่ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จ.เลย จึงทำให้อาณาเขตเพิ่มขึ้น ช้างเหล่านั้นได้ออกมากินพืชไร่ทางการเกษตรของชาวบ้าน พร้อมทั้งทำลายข้าวของ ทั้งกระต๊อบ ขนำ จนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งพื้นที่รอบบริเวณ ที่ติดกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง เช่น บ้านวังมล ต.ภูหอ, บ้านนาซำแซง ต.เขาหลวง อ.ภูหลวง จ.เลย , บ้านขอนแก่น บ้านน้ำทบ บ้านนาหลวง บ้านยางเดี่ยว, บ้านโนนสวรรค์ ต.เขาหลวง และ ต.ทรายขาว อ.วังสะพุง และบ้านพองหนีบ ต.ศรีฐาน อำเภอภูกระดึง ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ปัจจุบันพื้นที่นี้มีช้างกว่า 100 ตัว ออกมาหากินนอกพื้นที่ ทั้งเขตอุทยานแห่งชาติภูกระดึง, เขตรักษาพันธุสัตว์ป่าภูค้อภูกระแต และจากอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์
การประชุมครั้งนี้ ในที่ประชุมได้ยื่นข้อเสนอการอยู่ร่วมชุมชน คนกับช้างป่า เพื่อลดการสูญเสียชีวิต ทรัพย์สิน และพืชผลทางการเกษตร ดังนี้
-ปรับระบบไฟส่องสว่างในและรอบหมู่บ้าน ให้มีแสงสว่างเพียงพอที่ช้างจะไม่เข้าไปในหมู่บ้าน
-จัดทำระบบหอกระจายเสียง เพื่อแจ้งข่าวเฝ้าระวังช้างป่าให้กับชุมชน
-ส่งเสริมการเปลี่ยนวิถีการปลูกพืชชนิดที่ไม่เป็นอาหารของช้างป่า เพื่อไม่ให้ดึงดูดฝูงช้างป่าออกมากินนอกพื้นที่ป่าไม้
ด้านนางสาวกัญจนาฯ กล่าวว่า “จากการรับฟังปัญหาข้อเรียกร้องของประชาชน ตนเห็นว่าสามารถแก้ปัญหานี้ได้ ดังนี้
1.จัดทำแผนงานเฝ้าระวังและการอยู่ร่วมระหว่างชุมชนกับช้างป่า ทั้งในระดับชุมชน เครือข่ายชุมชน พร้อมตั้งคณะกรรมการอนุรักษ์ช้างป่าจังหวัดเลย โดยเชื่อมโยงพื้นที่ในระบบนิเวศร่วมกันของจังหวัดเลยกับจังหวัดเพชรบูรณ์
2.การสร้างรั้วไฟฟ้า และทำรั้วรังผึ้งเพื่อคุ้มครองพื้นที่เกษตร
3.มาตรการการผลักดันช้างแบบใช้เสียงดัง
4.การเพิ่มระบบไฟฟ้าในหมู่บ้าน รวมทั้งมีหอกระจายข่าวหรือหอเตือนภัย
ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ทราบมาว่าทางภาครัฐจะพิจารณาอนุมัติงบประมาณลงมาให้ทั้งประเทศ แก่เครือข่ายเฝ้าระวังช้างป่า 246 เครือข่าย ๆ ละ 50,000 บาท ส่วนค่าชดเชยต่างๆ นั้นขอประชุมกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดก่อน”