ต้มไข่ด้วยไมโครเวฟได้มั้ย?
ไข่ต้มน่าเป็นเมนูโปรดของหลายคน เป็นอาหารที่ทานง่าย อิ่มท้อง และทำง่ายด้วย ที่บอกว่าทำง่ายนี่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะต้มไข่ได้สวยนะคะ บางคนต้มแล้วบอกเปลือกไม่ได้ก็มี แบบว่าเปลือกไข่มันไม่ร่อน เวลาปอกเปลือกมันติดเนื้อไข่ขาวออกมาด้วย ซึ่งการต้มไข่ก็อย่างที่เรารู้ ๆ กันแหละค่ะ คือเอาไข่ใส่ในน้ำและใส่เกลือนิดนึง รอน้ำเดือดและจับเวลาว่าจะอยากไข่แดงระดับไหน แต่เคยเห็นบางคนไม่อยากรอนาน ก็เปลี่ยนมาต้มไข่กับไมโครเวฟก็มี แล้วมันทำได้จริง ๆ เหรอ อันตรายมั้ย วันนี้มาหาคำตอบพร้อมกันค่ะ
ไข่ที่ต้มสุก ตัวโปรตีนในไข่แดง จะจับตัวกันเป็นก้อนและมีถุงน้ำเล็กๆ กระจายอยู่ทั่วเมทริกซ์ของโปรตีน ยิ่งเป็นไข่ที่ต้มสุกหรืออุ่นให้ร้อนอีกครั้งด้วยไมโครเวฟ โมเลกุลน้ำในถุงน้ำเล็ก ๆ จะสั่นจนเกิดเป็นความร้อนและความดันสูงมาก ความร้อนและความดันที่อยู่ใต้เปลือกไข่เหล่านี้มันยังไม่สามารถระบายออกได้ เมื่อถุงน้ำที่มีความร้อนสูงเหล่านี้ถูกรบกวนจากอุปกรณ์ที่เจาะเข้าไปหรือเมื่อมีใครพยายามที่จะกัดไข่แดง ถุงน้ำเดือดทั้งหมดภายในไข่แดงก็พร้อมที่จะระเบิดทันที ซึ่งอันตรายมากๆ ค่ะ
ถ้าเราไม่ทานตอนออกจากเตาใหม่ ๆ รอให้เย็นก่อน มันก็ไม่อันตรายหรอกค่ะ แต่ถ้าทานตอนร้อน ๆ (ปกติไข่ต้มก็ทานตอนร้อน ๆ เนอะ) อันตรายมากค่ะ ซึ่งกรณีนี้เคยมีคดีฟ้องร้องกันมาแล้ว ซึ่งเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา โดยลูกค้าเข้าร้านอาหารและสั่งไข่ต้มที่ถูกอุ่นด้วยไม่โครเวฟมาทาน ปรากฎว่าพอทานเข้าไปก็ลวกปากทันที และบาดแผลในปากก็รุนแรงมากจนส่งผลต่อการได้ยินเสียงด้วย
จากคดีฟ้องร้องนี้ ทำให้ทีมวิจัยของบริษัท Charles M. Salter Associates ในซานฟรานซิสโก ได้ตรวจสอบว่าไข่ที่ระเบิดในปาก ส่งผลต่อการได้ยินจริงหรือไม่ จากการตรวจสอบ ทีมนักวิจัยได้ทำการวัดระดับเสียงในขณะที่กำลังเจาะไข่ต้มด้วยเครื่องมือวัดอุณหภูมิ ด้วยอุปกรณ์บันทึกเสียงที่มีความแม่นยำสูง พบว่าที่ระยะห่าง 1 ฟุต (30 เซนติเมตร) ระดับเสียงสูงสุดที่เกิดจากระเบิดของไข่ครอบคลุมตั้งแต่ 86 - 133 เดซิเบล อย่างไรก็ดีเสียงที่เกิดขึ้นจากการระเบิดของไข่ต้มจะเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ ซึ่งบนพื้นฐานทางสถิติ ความเป็นไปได้ที่ไข่จะระเบิดและทำลายการได้ยินจึงค่อนข้างต่ำคล้ายกับการเล่นรูเล็ตไข่ (egg roulette)
ตัวแปรควบคุมในการทดลองนี้คืออุณหภูมิ นักวิจัยใช้อ่างควบคุมอุณหภูมิ (Water bath) แทนการใช้เตาอบไมโครเวฟกำลังไฟ 800 วัตต์ และทำการเปรียบเทียบอุณหภูมิของน้ำภายในอ่างกับไข่แดงที่ระเบิดและไม่ได้ระเบิดแล้ว พบว่า มีความแตกต่างกันอย่างมาก โดยไข่แดงมีอุณหภูมิสูงกว่า 100 องศาเซลเซียส ซึ่งมันร้อนพอที่จะทำให้น้ำเดือดได้ และนี่อาจเป็นคำอธิบายที่เป็นไปได้สำหรับการระเบิดของไข่ต้ม
คดีฟ้องร้องดังกล่าวสิ้นสุดลงแล้วตามการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่ใช้เป็นหลักฐานในกระบวนการทางกฎหมาย แต่เนื่องด้วยการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการอุ่นอาหารจำพวกไข่ ยังมีอยู่อย่างจำกัด อาจจะไม่มากำพอ ก็เลยทำให้หลายคนลองทดสอบกันเองภายในห้องครัว อาจะเพื่อความอยากรู้อยากลอง ความสนุกสนาน ซึ่งวิธีการดังกล่าวไม่ใช่วิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้อง ไม่มีการควบคุมตัวแปร และอันตรายมาก ๆ ค่ะ
กรณีการทำสุกมันฝรั่งด้วยเตาไมโครเวฟ ก็สามารถอธิบายการระเบิดของไข่ได้ดีเช่นกัน ถ้านำมันฝรั่งเข้าเตาอบไมโครเวฟ โดยที่ไม่ได้ใช้ส้อมจิ้มให้เปลือกเป็นรูก่อน เมื่อเอาเข้าเตาไมโครเวฟ แรงดันไอน้ำสามารถก่อตัวขึ้นภายใต้เปลือกของมันฝรั่ง เป็นผลให้มันฝรั่งระเบิดเช่นกัน
https://www.scimath.org/article-chemistry/item/7820-2018-01-10-08-30-48












