ไทย ลงนาม สวิตเซอร์แลนด์ จับมือร่วมกันด้านคาร์บอนเครดิต ก่อนใครในโลก
ประเทศไทยวันนี้มีเรื่องให้น่าภาคภูมิใจอีกแล้ว เราและประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ลงนามความร่วมมือเป็นคู่แรกของโลก ในการแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิตและเงินทุน เพื่อต่อสู้ภาวะโลกร้อน ตามข้อตกลง Paris Agreement
ขอย้อนความไปเมื่อครั้งการประชุม Cop21 ปี ค.ศ.2015 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่ี 195 ประเทศจากทั่วทุกมุมโลกเข้าร่วมการประชุม เกิดเป็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย เรียกว่า “ข้อตกลงปารีส (Paris Agreement)” โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้
1.การรักษาอุณหภูมิของโลกไม่ให้สูงขึ้นเกินกว่า 2 เซลเซียส (เทียบกับระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม) และตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1.5 องศาเซลเซียส
2.ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จากกิจกรรมของมนุษย์ ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ต้นไม้ ดิน และมหาสมุทร จะสามารถดูดซับได้ โดยจะเริ่มในปี ค.ศ.2050 - 2100
3 ทบทวนการมีส่วนร่วมของแต่ละประเทศในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทุกๆ 5 ปี
4.ให้โอกาสประเทศที่พัฒนาแล้วหรือประเทศที่ร่ำรวย สามารถช่วยเหลือประเทศที่ยังไม่พัฒนาได้ ผ่านเงินสนับสนุนด้านภูมิอากาศ เพื่อปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ และหันไปใช้พลังงานทดแทน
เมื่อ 24 มิ.ย.65 ที่ผ่านมา นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และผู้บริหาร เข้าพบคุณ Simonetta Sommaruga รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม คมนาคม พลังงาน และการสื่อสารของสมาพันธรัฐสวิส เพื่อลงนามในข้อตกลง Implementing Agreement On Climate Protection ภายใต้ข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) ข้อที่ 6.2 ซึ่งถือเป็น 2 ประเทศแรกของโลก ที่มีการยกระดับความร่วมมือระหว่างประเทศร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม
สาระสำคัญในครั้งนี้คือ ข้อตกลงการซื้อขายแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิตของประเทศไทยให้แก่สมาพันธรัฐสวิส เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินลงทุน การสนับสนุนด้านองค์ความรู้ และเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อมจากสมาพันธรัฐสวิส และนำมาใช้ขับเคลื่อน ลงทุน และพัฒนาประเทศไทย ให้เปลี่ยนผ่านโครงสร้างไปสู่ความเป็นเศรษฐกิจสีเขียว เพื่อบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของภาวะโลกร้อน
ในการเจอกันครั้งนี้ ประเทศไทยและสมาพันธรัฐสวิส ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมภายในประเทศ เจรจาเรื่องข้อตกลงการดำเนินงานภายใต้ความตกลงปารีสระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสมาพันธรัฐสวิส เพื่อช่วยเหลือกันในการแก้ไขปัญหาเรื่อง Climate Change หรือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผ่านระบบ Video Conference มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งนำมาสู่การยกระดับความร่วมมือในวันนี้นั่นเอง