หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ การเงิน Pic Post
 
Page หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype
 
อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่
 
เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ
 
คำนวณ การเงิน ราคา BitCoin/Crypto
 
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
 
Login เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
 
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ประวัติตำนาน ลิปสติก แทบไม่น่าเชื่อว่า เมื่อ 5000 ปีที่แล้ว ผู้หญิง รู้จักการทาปากกันแล้ว

💋ประวัติตำนาน ลิปสติก แทบไม่น่าเชื่อว่า เมื่อ 5000 ปีที่แล้ว ผู้หญิง รู้จักการทาปากกันแล้ว

จากหลักฐานการค้นพบกล่องเครื่องสำอางค์  ซึ่งข้างในนั้นเป็นลิปสติกโฮมเมด ที่เกิดจากการนำอัญมณีมาบดจนเป็นผงละเอียด แทบไม่น่าเชื่อว่า เมื่อ 5000 ปีที่แล้ว ผู้หญิงในที่ราบลุ่มเมโสโปเตเมียรู้จักการทาปาก  กันแล้ว

💋ลิปสติก (อังกฤษ: lipstick) หรือคนไทยสยามมักเรียกว่า รูท[ต้องการอ้างอิง] (ฝรั่งเศส: Rouge à lèvres) เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ประกอบด้วยรงควัตถุ น้ำมัน ขี้ผึ้ง และสารให้ความชุ่มชื้น ใช้สำหรับทาสี ลวดลาย และเกราะป้องกันไว้บนริมฝีปาก มีลิปสติกหลากหลายสีและหลากหลายรูปแบบ เช่นเดียวกับเครื่องสำอางทั่วไป ลิปสติกมักนิยมใช้ในผู้หญิง แต่ผู้ชายก็ใช้ได้ การใช้ลิปสติกมีประวัติย้อนไปถึงยุคกลาง

🕙หลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์ของอียิปส์ พบว่า บนกระดาษปาปิรุสมีรูปผู้หญิงส่องกระจก และกำลังแต่งแต้มริมฝีปาก

👉🏾ในสมัยก่อนผู้หญิงมองโกเลียเอาขี้ผึ้งและไขมันสัตว์มาทาปากเพื่อป้องกันการแตกแห้ง ในสมัยโบราณผู้หญิงนำผลเบอร์รี่สีแดง มาแต่งแต้มเรียวปากของพวกเธอให้สวยงาม

👉🏿ในยุคกลาง 1500’s การทาปากสีแดงเป็นเรื่องของสังคมชั้นสูง ผู้หญิงธรรมดาสามัญที่ทาปากสีแดงจะถูกมองว่าเป็นผู้หญิงไม่ดีหรือเป็นโสเภณีที่ทาปากแดงเพื่อยั่วยวนผู้ชาย การทาปากสีแดงเป็นเรื่องของสังคมชั้นสูงเท่านั้นที่ทำกัน จะเห็นได้รูป พระนางเจ้าอลิซาเบ็ธที่ 1 ที่มีผิวสีขาวซีดแต่ทาปากสีแดง เมื่อหมดสมัยของพระนาง ลิปสติกก็โดนแบนจากคริสตจักร ลิปสติกสีแดงก็กลายเป็นสัญญลักษณ์ของหญิงชั้นต่ำ

👉🏿ในปี ค.ศ. 1770 ลิปสติกเคยเป็นเรื่องราวของแม่มดหมอผี ลิปสติกเปรียบเสมือนยาเสน่ห์  รัฐสภาอังกฤษเคยผ่านกฎหมายให้ผู้ชายยกเลิกการแต่งงานได้ ถ้าเขาเชื่อว่าตัวเองถูกผู้หญิงล่อลวงให้แต่งงาน ด้วยการทาลิปสติก

👉🏿ช่วงปลายๆของยุค 1800’s ซึ่งตอนนั้นภาพยนตร์ยังคงเป็นสีขาวดำ Sears Roebuck เสนอให้นักแสดงทาปากและแก้มให้เข้มขึ้นด้วยปีกแมลงเต่าทองสีแดงบดละเอียด เพื่อที่จะทำให้สีปากตามธรรมชาตินั้นดูโดดเด่นขึ้นบนแผ่นฟิล์มสีขาวดำ

👉🏿ในปี ค.ศ. 1884 บริษัทเครื่องสำอางค์ที่ชื่อ Guerlain ก็ทำลิปสติกแบบก้อน บรรจุในห่อกระดาษผ้าไหมที่มาพร้อมกับพู่กันสำหรับทาปากออกมา และเป็นครั้งแรกที่มันมีชื่อเรียกว่า “ลิปสติก” จนกระทั่งทศวรรษ ที่ 1915 Maurice levy ได้ทำที่บรรจุลิปสติกแบบโลหะแท่งแรกขึ้นมา ทำให้มีความสะดวกสบายขึ้นในการทาริมฝีปาก ในปีเดียวกันบริษัทชื่อดัง Chanel, Guerlain, Estee Lauder และ Elizabeth Arden ก็เริ่มผลิตลิปสติกออกสู่ตลาด

👉🏿ในปี 1920 ที่สหรัฐอเมริกาเกือบมีการออกกฎหมายให้ลิปสติก เป็นสิ่งต้องห้ามเนื่องจากกลัวว่าจะมีการวางยาพิษในลิปสติกขณะกำลังจุมพิตกัน และระหว่างปี ค.ศ. 1929-1933 เกิดปรากฏการณ์ “Lipstick Effect” ในสงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในสหรัฐอเมริกา มีสินค้าอยู่ตัวเดียวที่ยอดขายเพิ่มขึ้น ซึ่งนั่นก็คือ ลิปสติก

👉🏿ในยุค 1940’s ความนิยมลิปสติกเริ่มแพร่กระจายออก เอลิซาเบธเทย์เลอร์ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่คลั่งไคล้ลิสติกสีแดง และหลายๆคนยังคงจำคำคมของเธอพูดไว้เกียวกับลิปสติคว่า “Pour yourself a drink, put on some lipstick, and pull yourself together.”กลุ่มลูกค้าเป้าหมายในการขายลิปสติกของบริษัทเครื่องสำอางค์ชื่อดังอย่าง  Maybelline  และ Revlon คือเด็กผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป

👉🏿ในยุค 1950’s ผลจากกระแสนิยมจากฮอลลีวู้ด ลิปสติกสีแดงเป็นตัวแทนแห่งความเซ็กซี่ มาริลีน มอนโรว์,  ริต้า เฮย์เวิร์ด และเอวา การ์ดเนอร์ ซุปเปอร์สตาร์แถวหน้าล้วนแต่ทาปากสีแดงเข้ม นับตั้งแต่นั้นมา 98% ของผู้หญิงในสหรัฐอเมริกาเริ่มหันมาทาลิปสติกกันดดดด

👉🏾ปี 1960 และ 1970 เริ่มมีการผลิตลิปสิกสีอื่นๆออกมา สีแดงจึงเป็นแค่อีกหนึ่งตัวเลือกหนึ่งเท่านั้น  และในปี 1980 และ 1990 ลิปสติกสีแดงกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง

เมื่อบริษัทผลิตเครื่องสำอางค์ยักษ์ใหญ่อย่าง Mac เปิดตัวลิปสติกตัวแรกออกมาแน่นอนมันเป็นสีแดง โดยมีร็อคเกอร์สาวมาดอนน่าทาลิปสติกตัวนี้ขึ้นเวิลด์ทัวร์ คอนเสิร์ต ในปี 1987 และลิปสติกสีแดงของแมคตัวนี้ก็ได้รับความนิยมจนขึ้นแท่นเป็นลิปสติกที่ขายดีแบบสุดๆ และยังคงได้รับความนิยมแม้เวลาจะผ่านไปนาน 20 กว่าปี

ขอบคุณเนื้อหา และสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่: https://th.m.wikipedia.org/wiki/...ลิปสติก
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 


โพสท์โดย: Man
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
จังหวัดที่มีผังเมืองสวยที่สุดของไทยอวสานซอยจุ๊..ดูแล้วจะไม่กินอีกเลย!?3อาชีพที่ธนาคารปล่อยสินเชื่อได้ง่ายที่สุดประเทศที่เล็กที่สุดในโลก มีประชากรเพียง 4 คน2 จังหวัดของไทย ที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน 2 ประเทศจังหวัดที่มีจำนวนร้านเซเว่นอีเลฟเว่น มากที่สุดในประเทศไทยเตือนภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มารูปแบบใหม่ประกาศขายบ้านไม้โบราณ! อายุกว่า 100 ปี ราคาเบาๆ 75 ล้าน พร้อมของแถม ยิ่งตะลึงNASA ค้นพบสัตว์ประหลาดในห้วงอวกาศ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"การบินไทย" แจงปมดราม่าได้ที่นั่งไม่ตรงปก..อ้างกำลังปรับโครงสร้างธุรกิจออกเดตแรก! ค่าอาหาร 1,300 ผู้ชายออก 300 ควรไปต่อหรือพอแค่นี้?Fail มีฮา จากทั่วโลก Vol. 696 (10/12/2023)โรงเรียนไทยที่มีอายุเก่าแก่มากที่สุด ที่ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดภาคเหนือ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด รวมสาระบทความแบ่งปั่นกัน
แมงมุมหว่านแห แมงมุมที่มีรูปร่างแปลกๆมีขาที่ยาว ดวงตาใหญ่โต หากิน มีพฤติกรรมสาวใยเส้นหนาบางเบาเหนียวเหมือนกับร่างแหจับเหยื่อกินแมงมุมประหลาด แมงมุมลูกตุ้มไม่สร้างใยแต่จะสร้างฟีโรโมนที่มีกลิ่นคล้ายผีเสื้อกลางคืนหลอกล่อจับผีเสื้อกินบริการแปลกๆเมื่อบาร์ญี่ปุ่นเสนอบริการตบหน้าให้ลูกค้า จนเป็นกระแสบนโลกออนไลน์แมลงน้ำ Ahuautle ไข่แมลงน้ำชนิดนี้กินได้ที่ถูกเรียกว่าเป็น ‘คาเวียร์เม็กซิกัน’
ตั้งกระทู้ใหม่