รู้หรือไม่ กรมอุทยานมีสายด่วนแจ้งเหตุบุกรุกธรรมชาติและสัตว์ป่า
ประเทศไทยเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณธัญญาหาร มากด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ ทั้งทางบกและทางน้ำ รวมถึงสัตว์ต่างๆด้วยเช่นกัน แม้จะเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์แค่ไหน แต่ก็ยังพบเห็นอยู่บ่อยครั้งกับกลุ่มที่กระทำความผิด ทำลายและก่อให้เกิดความเสียหายจนส่งผลกระทบไปในวงกว้าง เช่น การลักลอบตัดไม้, การเผาป่า, การล่าสัตว์ป่าหรือสิ่งมีชีวิตเพื่อการค้า, จับสัตว์อนุรักษ์ทางทะเล เป็นต้น
ด้านกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้มีนโยบายให้ประชาชนได้มีส่วนร่วม ในการแจ้งข้อมูลข่าวสารหรือเบาะแสการกระทำความผิดด้านกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้ สัตว์ป่า ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จึงจัดตั้ง "ศูนย์สายด่วนพิทักษ์ป่า โทรศัพท์ 1362" ในปี พ.ศ.2546 ซึ่งเป็นการบูรณาการร่วมกันของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) กรมป่าไม้ (ปม.) และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) โดยมี รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งขาติฯ ที่กำกับดูแลสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ และรับผิดชอบในการรับแจ้งเบาะแสการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ สัตว์ป่า และทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง การรับแจ้งเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ เพื่อจะได้ดำเนินการแก้ไขและให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถติดตาม เร่งรัด การดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาให้เกิดผลเป็นรูปธรรมตามที่ได้รับการแจ้งเบาะแส นอกจากนี้ศูนย์ฯ ยังให้บริการข้อมูลข่าวสาร อันเป็นความรู้และมีประโยชน์ต่อประชาชนอีกด้วย
นอกจากนี้ ศูนย์ฯ ยังประกอบด้วยส่วนปฏิบัติการสายด่วนพิทักษ์ป่า เพื่อให้บริการจัดการเรื่องราว และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยความรวดเร็ว ทันต่อสถานการณ์ ตามนโยบายของท่านรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งทางศูนย์ฯ จะมีเจ้าหน้าที่ประจำ คอยรับการแจ้งเหตุจากประชาชนตลอด 24 ชม. โดยตั้งอยู่ที่สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
หากผู้ใดที่พบเห็นการกระทำความผิดทางกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้ สัตว์ป่า ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หรือแม้แต่พบสัตว์ป่าพลัดหลงที่ได้รับบาดเจ็บ พบเห็นช้างเร่ร่อน สามารถโทร 1362 ได้ทันที จะมีเจ้าหน้าที่รับสายและให้ความรู้ ความช่วยเหลือที่ถูกต้องอีกด้วย ดังนั้นเสียงของทุกคนจึงเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้งานด้านทรัพยากธรรมชาติของประเทศไทย เติบโตไปได้อย่างสมบูรณ์ต่อไป
อ้างอิงจาก: กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช