หมดยุค...การขายแบบฮาร์ดเซลล์ของสถานเสริมความงาม
การขายแบบฮาร์ดเซลล์ เป็นการขายที่พบบ่อยในธุรกิจที่มีคู่แข่งจำนวนมาก จนแบรนด์ของตัวเองยากที่จะเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ คลินิกเสริมความงาม หรือ สถานลดน้ำหนัก ที่เราเห็นได้บ่อยๆ ตามห้างสรรพสินค้านั่นเอง
แต่เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมหลายแบรนด์ หลายธุรกิจยังคงเลือกที่จะฮาร์ดเซลล์กันอยู่?
ด้วยความที่คลินิกเหล่านี้ตั้งอยู่โซนใกล้ๆ กัน การจะทำให้ตัวเองโดดเด่นหรือสะดุดตานั้น ก็มีเพียงแค่วิธีเดียวนั่นคือการเข้าหาลูกค้าด้วยตัวเอง เราจึงเห็นว่าธุรกิจเหล่านี้ มักจะออกมาจัดบูธเรียกลูกค้าอยู่เป็นประจำ ตามทางขึ้นลงบันไดเลื่อนในห้างสรรพสินค้า หรือจุดที่ลูกค้ามักจะเดินผ่านไปผ่านมาบ่อยๆ และเดินเลี่ยงไปทางอื่นได้ยาก เพื่อที่พนักงานจะได้เข้าถึงตัวง่ายๆ
การขายแบบมัดมือชกที่คลินิกเสริมความงามนั้น ปัจจุบันถือเป็นการขายที่ไม่มีประสิทธิภาพแล้ว โดยเฉพาะในยุคนี้ที่การตลาดแข่งขันกันด้วยความคิดสร้างสรรค์ เล่นกับกระแสสังคม สร้างเอกลักษณ์ให้เป็นที่พูดถึง จัดโปรโมชั่นที่แฟร์และคุ้มค่าแก่ลูกค้า ฉะนั้น ธุรกิจต่างๆ อาจจะต้องไปทำการบ้านมาใหม่ว่าการตลาดแบบไหนที่จะสร้างยอดขายในระยะยาวให้กับตัวเอง เพราะว่าเป็นการขายหรือการตลาดแบบนี้ มันซื้อใจลูกค้าไม่ได้หรอก
แต่ที่หลายธุรกิจยังคงเลือกที่จะฮาร์ดเซลล์กันอยู่ นั่นเป็นเพราะยังมีคนอีกจำนวนมากที่ตกหลุมพลางกลยุทธ์เหล่านี้ง่ายๆ โดยเฉพาะคนที่มีนิสัยใจอ่อน ขี้สงสาร หรือปฏิเสธคนไม่เป็น ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมด ก็คือกลุ่มเป้าหมายหลักของการขายประเภทนี้นี่แหละ
จริงๆ แล้วการขายแบบฮาร์ดเซลล์ถูกพูดถึงในแง่ลบมาอย่างยาวนาน ว่าเป็นการขายที่เข้าข่ายคุกคามลูกค้าที่มาเดินห้าง แต่เมื่อเข้าสู่ยุคโซเชียลมีเดียก็ทำให้เห็นชัดมากขึ้นว่า เพื่อนร่วมประสบการณ์เดียวกันมีเยอะกว่าที่คิด เพราะมีคนออกมาบ่น มาแชร์ และออกมาเตือนอบยู่บ่อยครั้ง ซึ่งบางครั้งก็ขยับไปสู่การฟ้องร้องกันเลยก็มี
ยิ่งในช่วงโควิด ยิ่งทำให้การขายแบบฮาร์ดเซลล์แทบจะถึงกาลอวสาน เพราะลูกค้าไม่ยอมพูดคุยด้วย ไม่ยอมให้แตะเนื้อต้องตัว จากการรักษาระยะห่าง ใส่หน้ากาก และไม่ยอมใช้ชีวิตแบบให้คนแปลกหน้าเข้าหาตัวได้ง่ายๆอีกต่อไป