วัดโบราณลึกลับในมณฑลซานซี มีพระดินปั้นกระดูก 15 องค์เรียกว่า "มัมมี่ตะวันออก"

วัดโบราณลึกลับในเจี้ยซิวเมี่ยนซาน มณฑลซานซีมีพระดินปั้นกระดูก 15 องค์เรียกว่า "มัมมี่ตะวันออก"

พระดินปั้นกระดูก ของราชวงศ์ซ่งเหนือที่วัดเจิ้งกั๋ว หรือ “#เจิ้งกั๋วซื่อ” (#正果寺) ในภูเขาเจี้ยซิวเมี่ยนซาน (介休绵山) สร้างขึ้นในปีพ. ศ. 997 เมื่อกว่า 1,000 ปีก่อน ตั้งอยู่ใน หมู่บ้านฮัวจื่อ (槐志村) มณฑลชานซี (#山西省)

วัดเจิ้งกั๋วได้รับการขนานนามว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกโดยผู้เชี่ยวชาญ ในพระวิหารมีรูปดินปั้นกระดูก กระดูกแท้ของพระและปรมาจารย์ลัทธิเต๋า ที่มีชื่อเสียง หลังจากผ่านไปกว่าพันปีพระดินปั้นกระดูก เหล่านี้ยังคงรักษารูปแบบดั้งเดิมเหมือนก่อนพวกท่านจะล่วงลับไป ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อ และกระดูกคงที่ไม่กระจัดกระจาย ที่เรียกว่า “กระดูกจริง” (ชาวบ้านเรียกว่า โร่วเซินโฝ (肉身佛) คือ "พระเนื้อ") เพราะว่าเป็นการปั้นดินบนร่างกายของพระและปรมาจารย์ลัทธิเต๋าหลังจากท่านมรณภาพไปแล้ว หลายคนจะสงสัยว่าพระดินปั้นกระดูกเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไร ปรากฎว่าก่อนที่พระและปรมาจารย์ลัทธิเต๋าเหล่านี้จะจากไปพวกท่านจะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะนั่งสะหมาดและในตอนแรกพวกท่านจะกินเฉพาะผลไม้ป่า สมุนไพรจีน และดื่มน้ำเล็กน้อยเพื่อรักษาร่างกาย หลังจากที่ไม่ได้กินหรือดื่มอย่างช้าๆสารอาหารและน้ำในร่างกายของมนุษย์จะค่อยๆหมดลงจนหมดไปในที่สุด ฟังดูเหมือนเป็นกระบวนการที่เจ็บปวดมาก แต่สำหรับท่านที่ได้รับการฝึกฝนอย่างพระและปรมาจารย์ลัทธิเต๋าแล้วมันมีความสุขมาก

ตามคำบอกเล่าของพระในวัดผู้ที่ค้นพบพระดินปั้นกระดูก ของพระและปรมาจารย์ลัทธิเต๋าที่เก่าแก่ที่สุดในเจี้ยซิวเมี่ยนซาน คือ หลี่จินซัว (李金锁) ชาวบ้านในหมู่บ้านเจิ้นจวง เมืองเหมียนซาน วันหนึ่งในช่วงเปลี่ยนฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงในปี 1996 เขาติดตามสมาชิกของกลุ่มผู้นำการพัฒนาเหมียนซาน ไปที่วัดเจิ้งกั๋วเพื่อทำความสะอาด ในขณะที่เขาค่อยๆปัดฝุ่นหนาบนหัวของรูปปั้นด้วยมือทั้งสองข้าง ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกความหลวมของโคลนที่รูปปั้นโคลนเริ่มคลายออก และมีเศษโคลนหลุดออกมาทั้งชิ้น พื้นผิวของโคลนจึงหลุดออกเผยให้เห็นกระดูกมนุษย์ ทำให้เขาตกใจมาก จนทำให้เกิดการตรวจสอบหาพระดินปั้นกระดูกในลักษณะนี้ในวัดที่อยู่ใกล้กับวัดเจิ้งกั๋วอย่างต่อเนื่อง และเริ่มตรวจสอบรูปปั้นใน
วัดเจิ้งกั๋วนี้ด้วย และจนในที่สุดผลการตรวจสอบ รูปปั้นก็ได้รับการยืนยันทีละองค์

พระดินปั้นกระดูกเหล่านี้ของวัดเจิ้งกั๋วมีอายุทางประวัติศาสตร์และยุคสมัยที่แตกต่างกัน เช่นบ้างรูปอยู่ในยุคสมัยราชวงศ์ถัง ราชวงศ์ซ่งและราชวงศ์หยวน และรูปปั้นของพวกท่านก็แตกต่างกันมากเช่นกัน มีรูปร่างสูงและเตี้ยมีรูปร่างอ้วนและผอมและใบหน้าของพวกเขาผ่อนคลาย

ผ่านพระดินปั้นกระดูกเหล่านี้ ดูเหมือนเราจะได้เห็นพระและปรมาจารย์ลัทธิเต๋าผู้บำเพ็ญเพียรเหล่านี้หยุดนิ่งอยู่ห่าง ๆ จากทุกสิ่งในโลก คือการทำจิตให้ว่างละทิ้งอารมณ์ 7 อารมณ์และความปรารถนา 6 ประการและบำเพ็ญทุกรกิริยาทำสมาธิมานานหลายทศวรรษ พันปีจริงๆไม่เจ็บ

ทุกครั้งทางวัดจะซ่อมแซมพระดินปั้นกระดูก แต่ไม่ว่าจะซ่อมอย่างไรทางวัดจะมีอยู่หลักการเดียวคือต้องไม่ทำร้ายตัวตนที่แท้จริงของพระดินปั้นกระดูกเหล่านี้ และไม่ว่าหลายพันปีจะมีการเปลี่ยนหรือซ่อมวิหารที่ถูกทำลายจากกาลเวลา และโคลนที่ห่อหุ้มองค์จริงได้ถูกถอดเพื่อซ่อมแซม แต่ร่างจริงของพวกท่านยังคงเติบโตและเป็นอมตะอยู่ตลอดเวลา

ถึงแม้จะรู้ว่าพระดินปั้นกระดูกนั้นเป็นองค์จริง แต่คนที่มาก็ไม่ต้องกลัว เพราะเขารู้ว่าร่างที่แท้จริงคือปรมาจารย์และพวกเขามีแต่ความเคารพเท่านั้น