กทม.สั่ง 50 เขตเร่งบรรเทาผลกระทบจากพายุฤดูร้อนให้กลับสู่สภาพปกติโดยเร็ว หลังเกิด ฝนตกหนัก และมีลมกระโชกแรงในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ

นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2565 ได้เกิดพายุฤดูร้อน ฝนตกหนัก และมีลมกระโชกแรงในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานครส่งผลให้ต้นไม้ที่อยู่ในความดูแลของกรุงเทพมหานครหรือหน่วยงานต่างๆ ทั้งของภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน หัก โค่น หรือมีกิ่งหักเสียหาย กีดขวางการสัญจร บางส่วนล้มทับอาคารบ้านเรือนประชาชน

ดังนั้น จึงได้มีคำสั่งเร่งด่วนแจ้งให้ผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขต เร่งสำรวจตรวจสอบความเสียหายและให้การช่วยเหลือประชาชนและหน่วยงานที่ได้รับผลกระทบต่าง ๆ เพื่อกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว หากสำนักงานเขตที่ได้รับผลกระทบไม่สามารถดำเนินการได้เอง ให้ประสานขอรับการสนับสนุนจากสำนักสิ่งแวดล้อมหรือสำนักงานเขตใกล้เคียงและร่วมกันดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จโดยเร็วเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้อย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศเตือนเรื่อง พายุฤดูร้อน ซึ่งจะมีผลกระทบ ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน - 2 พฤษภาคม 2565 โดย กรุงเทพมหานครได้เตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย ตลอดจนยานพาหนะ เครื่องมือเครื่องใช้ และอุปกรณ์ในการกู้ภัย เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยจากพายุฤดูร้อนได้ทันที

รวมทั้งให้สำนักงานเขตทุกแห่งสำรวจตรวจสอบต้นไม้ใหญ่ในพื้นที่เพื่อดำเนินการตัดแต่งกิ่งไม้ที่สุ่มเสี่ยงต่อการหัก ฉีกขาด การลดทอนความสูง และการค้ำยันต้นไม้ให้มั่นคงแข็งแรง เพื่อป้องกันการโค่นล้มเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในช่วงที่มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง พร้อมมอบหมายสำนักการโยธาและสำนักงานเขต ประสานความร่วมมือในการตรวจและแนะนำให้เจ้าของอาคารตรวจสอบความปลอดภัยของอาคารและสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกจากอิทธิพลพายุฤดูร้อน เช่น ป้ายขนาดใหญ่ ป้ายโฆษณาที่อาจล้มหรือหักโค่นได้ หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง พร้อมทั้งมอบหมายสำนักสิ่งแวดล้อมดูแลต้นไม้ใหญ่ตามถนนสายต่าง ๆ ที่สาธารณะและสถานที่สำคัญ

ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนร่วมตรวจสอบสภาพต้นไม้ กิ่งไม้ หากพบต้นไม้อยู่ในสภาพเสี่ยงที่จะหัก โค่นล้ม หรือพบเห็นต้นไม้โค่นล้ม หรือเสี่ยงที่จะโค่นล้ม หรือประสบเหตุพายุฤดูร้อนหรือเหตุวาตภัย สามารถแจ้งหรือขอความช่วยเหลือได้ที่ สำนักงานเขตพื้นที่ สายด่วนโทร. 199 หรือโทร. 1555