หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

หูฟังหมอเกิดขึ้นได้ยังไง และมีหลักการทำงานอย่างไร

เนื้อหาโดย thecalmgirl

        เรามักจะเห็นชุดยูนิฟอร์มแบบเต็มรูปแบบของคุณหมอทั้งในละครและชีวิตจริงกันจนชินตา จะเห็นว่าหูฟังหมอ ถือเป็นอาวุธคู่ใจและติดคอคุณหมอทั้งหลายอยู่ตลอด ตอนเด็ก ๆ ก็พอจะรู้ว่ามันเอาไว้ฟังเสียงหัวใจ ฟังเสียงเครื่องในล่ะมั้ง 55555 แต่มันมีหลักการทำงานยังไง วันนี้มีคำตอบ

        หูฟังหมอ หรือ สเต็ทโตสโคป (Stethoscope) เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่คุณหมอต้องใช้ตลอด เกิดขึ้นในปี 1816 โดยคุณหมอเรเน เลนเนค (Dr.Rene Laennec)  เขาต้องตรวจคนไข้ประจำซึ่งผู้หญิงสวยที่เป็นโรคหัวใจคนนึง ทุกครั้งก็จะต้องเอาหน้าแนบอกหญิงสาวเพื่อฟังเสียงหัวใจ เขารู้สึกอายและกระอักกระอ่วนทุกครั้ง ไม่ค่อยจะกล้า หมอเขินแหละ อายก็อายคนไข้ก็ต้องตรวจ ทำไงล่ะทีนี้ 555555

        ด้วยเหตุนี้คุณหมอก็เลยเอากระดาษมาม้วนเป็นท่อยาว และเอาไปทาบที่อกหญิงสาวแทน และฟังเสียงผ่านท่อกระดาษนั้นแทน ปรากฎว่าเสียงที่ได้ยินชัดเจนกว่ากานเอาหูทาบอกโดยตรงซะอีก หลังจากค้นพบทางสว่าง คุณหมอก็ได้เริ่มประดิษฐ์หูฟังหมอขึ้นมาใช้ โดยครั้งแรกทำจากไม้ และพัฒนามาเรื่อย ๆ ใช้กันจนถึงปัจจุบัน

        โดยหูฟังหมอจะมี 3 องค์ประกอบหลักคือ ตัวหูฟังหรือเอียร์ปลั๊ก ตัวสายรูปตัว Y และแป้นทาบฟังหรือแผ่นรับเสียงหรือแรงสั่นจากอวัยวะภายใน เวลาเราไปโรงพยาบาล ตอนตรวจร่างกาย คุณหมอจะเอาเจ้าตัวนี้มาทาบ ๆ ที่บริเวณหน้าอกของเรา และฟังเสียงหัวใจ เสียงปอด และลำไส้ เพื่อประเมินอาการเบื้องต้น โดยตัวหูฟังมีหลักการทำงานมี 3 ขั้นตอนคือ การรับแรงสั่นจากอวัยวะ การส่งต่อเสียงไปยังท่อนำเสียง และส่งเสียงเข้าสู่หูผู้ฟัง

        ตัวเเป้นทาบฟังจะมีแผ่นรับเสียงหรือแรงสั่นจากอวัยวะภายในของคนไข้ ตัวหูฟังจะมี 2 ด้านซึ่งใช้ต่างวัตถุประสงค์กัน คือด้าน Bell เป็นด้านที่มีขนาดเล็ก จะใช้ฟังเสียงที่มีความถี่ต่ำๆ และด้านไดอะแฟรม จะด้านที่มีขนาดใหญ่กว่าใช้ฟังที่มีความถี่สูง เช่น เสียงการเคลื่อนไหวของลำใส้ เสียงลมหายใจ 

        แรงสั่นจากหัวใจเราจะส่งไปตามท่อนำเสียงรูปตัว Y ซึ่งมีความยืดหยุ่นและทนทาน เพราะทำมาจากยางลาเท็กซ์หรือโพลีไวนิลคลอไรด์ จากนั้นส่งเสียงหรือแรงสั่นไปที่หูฟัง เข้าสู่หูของคุณหมอ ซึ่งการฟังเสียงโดยทาบไดอะแฟรมแนบกับเนื้อโดยตรง เป็นวิธีที่ถูกต้องและแม่นยำ เสียงจะชัดกว่าทาบผ่านเสื้อผ้า

เนื้อหาโดย: thecalmgirl
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
thecalmgirl's profile


โพสท์โดย: thecalmgirl
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
15 VOTES (5/5 จาก 3 คน)
VOTED: ชตระกูล ศรีสวัสดิ์, เป็ดปักกิ่ง, thecalmgirl
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
พ่อของ "น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์" เสียชีวิตแล้วiPhone รุ่นประหยัดมาแล้ว!ของในร้านนี้หยิบได้ฟรีทุกชิ้นชาวบ้านตาดี พบคู่รักซั่มกันในทะเล ที่ภูเก็ต (มัีคลิป)ไปซื้อน้ำแข็งแต่สิ่งที่ได้มาด้วยคือเจ้าตัวนี้หมวกพลร่มเยอรมันสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง!4สำนักดัง ให้เลขชนกันอีกแล้ว งวด 2 พฤษภาคม 25673 แมงป่องที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลกเมื่อสามเณรให้พร คนละบทเดียวกัน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
จีนเปิดรูปสถานีรถไฟเเห่งใหม่ ได้เเรงบันดาลใจจากดอกบ๊วยที่กำลังเบ่งบาน เเต่ชาวเน็ตบอก เหมือนผ้าอนามัยมากกว่า 😆FB เตรียมเพิ่มโหมดใหม่ ให้ข้อความใน IB หายไปได้ตามเวลาที่ตั้งไว้3 แมงป่องที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลกชาวมุสลิมตันหยงมัสปลื้มใจบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ไม่แบ่งแยกศาสนา
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
จีนเปิดรูปสถานีรถไฟเเห่งใหม่ ได้เเรงบันดาลใจจากดอกบ๊วยที่กำลังเบ่งบาน เเต่ชาวเน็ตบอก เหมือนผ้าอนามัยมากกว่า 😆3 แมงป่องที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลกสร้างรายได้ Passive Income มนุษย์เงินเดือนอย่างเราก็ทำได้พาย้อนวันวานมานั่งรถเมล์บุญผ่อง
ตั้งกระทู้ใหม่