บูชาแม่ย่านาง ผีประจำรักษาเรือและพาหนะต่าง ๆ กับการนับถือเพศหญิงเป็นใหญ่
แม่ย่านาง(ลาว: ພະແມ່ແມ່ຍ່ານາງ , ແມ່ຍ່ານາງ , อังกฤษ: Goddess guardian of boat , เขมร: ព្រះម៉ែជំនាងទូក ) เป็นผีที่ประจำรักษาเรือและพาหนะต่าง ๆ ในคติศาสนาผีและวิญญาณนิยมของประเทศไทย ประเทศกัมพูชา ประเทศลาว มีลักษณะแต่งชุดไทย หรือชุดพื้นเมืองของเขมรและลาว คติการนับถือแม่ย่านางมาจากการนับถือเพศหญิงเป็นใหญ่ เช่นคติการนับถือพระแม่โพสพและนางกวัก บ้างว่ามาจากม่าจ้อโป๋ในศาสนาชาวบ้านจีน
ในสมัยก่อนใช้ไม้ซุงขนาดใหญ่มากมาใช้ประโยชน์แปรรูปเป็นเรือและพาหนะต่าง ๆ โดยมากนิยมเฉพาะไม้ตะเคียนที่มีเนื้อเหนียวและผุยาก และในต้นไม้พิเศษนี้ตามศาสนาผีและวิญญาณนิยมมีรุกขเทวดาสถิตอยู่ เมื่อนำมาขุดเป็นเรือก็ต้องเชิญนางตะเคียนนั้นมาคุ้มครองเรือและเจ้าของเรือ โดยสถิตอยู่ที่หัวเรือห้ามไม่ให้ผู้ใดเหยียบ และมีเครื่องบูชาเป็นพวงมาลัยหรือผ้าแดงผูกหัวเรือและมีพิธีเซ่นไหว้ตามคติศาสนาผี
ต่อมามีผู้เชื่อว่าแม่ย่านางเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยคุ้มครองยานพาหนะอื่นด้วย เช่น รถยนต์ เครื่องบิน เป็นต้น โดยสมมติว่าคอนโซลรถยนต์เป็นที่สถิตของแม่ย่านางรถ วิธีบูชามักนำผ้าสามสีและพวงมาลัยมาผูกและแขวนไว้
แม้แม่ย่านางจะมีพื้นฐานมาจากศาสนาผีซึ่งเป็นศาสนาพื้นเมืองดั้งเดิมของไทย แต่ก็ได้รับการเคารพนับถือยิ่งโดยเฉพาะในหมู่ชาวประมง ชาวประมงไทย และส่วนใหญ่แต่โบราณเชื่อว่า เรือประมงทุกลำมีแม่ย่านางเรือประทับอยู่ และเมื่อชาวประมงจะออกเรือเพื่อจับปลาทุกครั้งจะต้องเซ่นไหว้แม่ย่านาง เพื่อให้มีสวัสดิมงคลต่อการประกอบอาชีพ และเพื่อให้แม่ย่านางเรือปกป้องคุ้มครองมิให้เกิดอันตราย (การนับน้ำจะเริ่มนับตั้งแต่ แรม ๓ ค่ำ-ขึ้น ๑๑ ค่ำ เรียกว่า ๑ น้ำ)
ที่สมุทรสาคร อุปกรณ์ที่ใช้ประกอบพิธีไหว้แม่ย่านางเรือ ได้แก่ ขนมจันอับ เป็ด ปลาหมึกแห้ง เนื้อหมูสามชั้น ข้าว ผลไม้ ๓ อย่าง ผ้าสามสี กระดาษเงิน กระดาษทอง ธูป ๑ กำ ดอกไม้ ๑ กำ น้ำ ๑ ขัน กิ่งทับทิม ๑ กำ
ในการประกอบพิธีเจ้าของเรือจะนำขนมอันจับ เป็ด ปลาหมึกแห้ง เนื้อหมูสามชั้น ข้าว ผลไม้ ผ้าสามสี กระดาษเงิน กระดาษทอง ดอกไม้ น้ำ กิ่งทับทิม ใส่ในถาด นำถาดไปวางที่โขนเรือ แล้วจุดธูป เพื่อกล่าวคำอัญเชิญแม่ย่านางเรือมารับเครื่องเซ่นไหว้ รวมไปถึงขอพรให้คุ้มครองปกปักรักษาจากอันตรายและให้ประสบความเป็นสวัสดิมงคงในการประกอบอาชีพ จากนั้นจึงนำผ้าสามสี ดอกไม้ ธูป ไปผูกที่โขนเรือ เผากระดาษเงิน กระดาษทอง จุดประทัด ประพรมน้ำจากขันด้วยกิ่งทับทิมจนทั่วลำเรือ ต่อจากนั้นจึงเริ่มออกเรือ
ชาวประมงเชื่อว่าโขนเรือเป็นที่ประทับของแม่ย่านางเรือ ดังนั้น โขนเรือจึงนับว่าเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของเรือ และเป็นเสาเอกของเรือ จึงให้ความเคารพกราบไหว้และห้ามมิให้ผู้ใดเตะ เหยียบ นั่ง ยืน ข้าม หรือกระทำการใด ๆ อันเป็นที่ลบหลู่ต่อโขนเรือ ด้วยความเชื่อที่ว่าหากมีผู้ลบหลู่โขนเรือแล้วจะนำความเดือดร้อนและความอับโชคมาสู่เจ้าของเรือและลูกเรือ