คิดว่าน่าจะพอยืนยันได้แล้วว่า ภาพเครื่องบินขับไล่ที่ตกบริเวณตะวันออกของ #ยูเครน เป็น Su-35 ของ #รัสเซีย ซึ่งน่าจะเป็น Su-35 ลำแรกที่ตกในการปฏิบัติการที่ยูเครน
คิดว่าน่าจะพอยืนยันได้แล้วว่า ภาพเครื่องบินขับไล่ที่ตกบริเวณตะวันออกของ #ยูเครน เป็น Su-35 ของ #รัสเซีย ซึ่งน่าจะเป็น Su-35 ลำแรกที่ตกในการปฏิบัติการที่ยูเครน
Su-35 ลำนี้ติดตั้งกระเปาะมาตรการต่อต้านทางอิเล็กทรอนิกส์ L-265M10P/R ที่ปลายปีก และมีซากจรวดที่เชื่อว่าจะเป็น Kh-31P ซึ่งเป็นจรวดต่อต้านการแพร่คลื่นเรดาร์ ดังนั้นหมายความว่า Su-35 ลำนี้เข้ามาทำภารกิจกดดันระบบป้องกันภัยทางอากาศของข้าศึกหรือ Suppression Enemy Air Defenses (SEAD)
SEAD คือการบินเข้าไปในน่านฟ้าของข้าศึกที่ผ่านเรายังครองอากาศไม่ได้ เพื่อวัตถุประสงค์ในการทำลายระบบป้องกันภัยทางอากาศของข้าศึก โดยมักจะใช้จรวดต่อต้านการแพร่คลื่นเรดาร์ที่จะตรวจจับคลื่นเรดาร์ที่แผ่ออกมาจากจรวดต่อสู้อากาศยานของข้าศึกและเข้าทำลาย ซึ่งการทำลายเรดาร์ก็เพียงพอแล้ว เพราะจะทำให้จรวดต่อสู้อากาศยานไม่สามารถทำงานได้
ภารกิจ SEAD เป็นภารกิจที่อันตราย นักบินต้องมีฝีมือและมียุทธวิธีพิเศษ รวมถึงต้องมีอุปกรณ์และอาวุธพิเศษใช้งานเช่นกัน
Su-35 ถือว่าเป็นเครื่องบินขับไล่ที่ทันสมัยที่สุดของกองทัพรัสเซีย รองจาก Su-57 ที่ยังอยู่ในช่วงแรกของการผลิตเข้าประจำการและยังไม่พร้อมรบเต็มที่ ซึ่งยูเครนมีระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ไม่ทันสมัยนัก การถูกยิงตกครั้งนี้ถือเป็นความผิดพลาดครั้งหนึ่ง ซึ่งโชคดีว่านักบินสามารถกระโดดร่มออกมาได้ทันและรอดชีวิต แต่ถูกจับกุมโดยกองทัพยูเครน













