ประจำเดือนไม่มาบ่อยๆ อันตรายหรือไม่??
โดยปกติรอบประจำเดือนของผู้หญิงจะอยู่ที่ 21-35 วัน การนับคือนับจากวันแรกของการมีประจำเดือนครั้งที่แล้วมาถึงวันแรกของการมีประจำเดือนครั้งถัดมา ระยะห่างไม่ควรจะสั้นกว่า 21 วัน และไม่ควรห่างเกิน 35 วัน หากสั้นกว่าหรือห่างเกินนี้ ถือว่าเป็นรอบประจำเดือนที่ผิดปกติ
สาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนเลื่อน ประจำเดือนไม่มา
-การตั้งครรภ์
-ความเครียด ความวิตกกังวลจะส่งผลกระทบต่อฮอร์โมน ฮอร์โมนก็ส่งผลกระทบต่อประจำเดือน
-การออกกำลังกายหนักเกินไป
-การรับประทานยาบางตัว
-น้ำหนักตัวผิดปกติ น้ำหนักขึ้น-ลงอย่างรวดเร็ว
-กำลังเข้าสู่วัยทอง
-คุณแม่เพิ่งคลอดบุตร กำลังให้นมบุตร
-เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังต่างๆ
ประจำเดือนขาดแบบไหนต้องไปพบแพทย์
-ประจำเดือนขาดหายไปติดต่อกันนาน 3 เดือน โดยไม่ทราบสาเหตุ ไม่ได้มีความเจ็บป่วยใดๆ ไม่ได้ใช้ยา ไม่ได้คุมกำเนิด ไม่ได้มีการตั้งครรภ์ ไม่ควรนิ่งนอนใจ โดยเฉพาะอาการขาดประจำเดือนร่วมกับอาการปวดศีรษะ มองเห็นเปลี่ยนไป มองไม่ชัด ตาพล่า มีไข้ ผมร่วง อาเจียน มีอาการเปลี่ยนแปลงของสรีระ เช่น หน้าอกเปลี่ยนแปลงไป มีการสร้างน้ำนมขึ้นทั้งที่ไม่ได้อยู่ในระยะให้นมบุตร
กรณีที่น้องๆ ที่อายุ 13-15 ปี เข้าสู่วัยเจริญพันธ์ุแล้ว ยังไม่มีประจำเดือนมา ยังไม่มีพัฒนาการทางด้านร่างกายที่แสดงให้เห็นถึงการเข้าสู่วัยรุ่น เช่น หน้าอกไม่ขยาย ไม่มีขนขึ้นที่อวัยวะเพศ แนะนำว่าควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย
ประจำเดือนขาดส่งผลต่อสุขภาพ (ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ขาดหายไปบ่อยๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ)
1.เยื่อบุโพรงมดลูกจะหนาขึ้น เพราะประจำเดือนเกิดจากการที่เยื่อบุโพรงมดลูกที่หนาตัวขึ้นทุกๆ รอบเดือนเพื่อรองรับการฝังตัวของตัวอ่อนที่มีการปฏิสนธิ แต่ถ้าไม่มีการตั้งครรภ์ ไม่มีการปฏิสนธิของตัวอ่อน โพรงมดลูกที่หนาตัวขึ้นนั้นตามธรรมชาติก็จะหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือนในทุกๆ เดือน
แต่ถ้าเวลาผ่านไปแต่ละเดือนๆ ไม่มีประจำเดือนออกมา นั่นก็แสดงว่าโพรงมดลูกนั้นจะหนาตัวขึ้นเรื่อยๆ แล้ววันดีคืนดีอาจจะส่งผลให้มีเลือดออกจากช่องคลอดผิดปกติ และหากว่าปล่อยทิ้งไว้โพรงมดลูกที่หนาตัวขึ้นนี้อาจจะกลายไปเป็นมะเร็งมดลูกได้
2.เป็นสัญญาณอาจทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก เพราะประจำเดือนเป็นสัญญาณหนึ่งของการตกไข่ หากว่ามีการตกไข่ปกติ ประจำเดือนก็จะมาเป็นปกติ ดังนั้นหากประจำเดือนไม่มาก็จะเป็นสัญญาณนึงว่าไข่ของคุณอาจจะตกไม่ปกติก็จะทำให้มีลูกยาก
3.อาจมีอาการเจ็บป่วยแฝงอยู่ เช่น โรคถุงน้ำรังไข่หลายใบ โรคที่เกี่ยวกับต่อมใต้สมอง โรคที่เกี่ยวกับฮอร์โมนไทรอยด์มักจะส่งผลกระทบต่อประจำเดือนด้วย
4.อาจทำให้มีภาวะกระดูกพรุน มวลกระดูกลดลง เพราะการขาดประจำเดือนจะทำให้ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายของผู้หญิงต่ำลง ซึ่งฮอร์โมนนี้สำคัญที่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมเพื่อนำไปสร้างเป็นมวลกระดูก เมื่อระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำลงก็ทำให้ร่างกายขาดแคลเซียม มวลกระดูกลดลงทำให้เกิดภาวะกระดูกพรุน กระดูกบาง
ประจำเดือนขาดรักษาอย่างไร
1.กินยาฮอร์โมนเสริม ยาที่หมอมักใช้ก็จะเป็นยาตัวเดียวกับที่ใช้เลื่อนประจำเดือน เมื่อกินแล้วก็ทำให้ประจำเดือนมา โดยอาจให้กินยาเป็นประจำในช่วงเดียวกันของทุกๆ เดือน กินอยู่ประมาณ 6 เดือน เพื่อให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ ให้เยื่อบุโพรงมดลูกหลุดลอกออกมา แล้วหลังจากนั้นให้รอดูว่าประจำเดือนจะมาเองได้หรือไม่โดยที่ไม่ต้องกินยา
2.อาจรักษาด้วยยาเม็ดคุมกำเนิด ในกรณีประจำเดือนเลื่อนประจำเดือนขาด อันเนื่องมาจากภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ คุณหมอก็อาจจะรักษาด้วยการให้กินยาคุมหรือกินยาที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ถ้าสาเหตุไม่ได้เกิดจากภาวะผิดปกติหรือความเจ็บป่วยใดๆ อาจจะเกิดเนื่องจากอ้วนเกินไป ผอมเกินไป ฮอร์โมนไม่สมดุลการรักษาทั้งสองวิธีคือการกินยาเลื่อนประจำเดือนหรือกินยาเม็ดคุมกำเนิดไม่แนะนำให้ซื้อยากินเอง
ถ้าหากว่าประจำเดือนขาดหายไปติดต่อกันนานเกิน 3 เดือน โดยที่ไม่ทราบสาเหตุ ไม่ได้อยู๋ในช่วงของการคุมกำเนิด ไม่ได้ตั้งครรภ์แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อให้ตรวจร่างกายอย่างละเอียดและทำการรักษาต่อไป
ขอขอบคุณ พยาบาลแม่จ๋า
เพื่อความเข้าใจที่ละเอียดและมากขึ้นดูเพิ่มเติมได้ค่ะ
ภาพโดย burin kul จาก Pixabay