ยุโรป ระทม ถูกลอยแพให้ย้อนยุค เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน
ยุโรป ระทม ถูกลอยแพให้ย้อนยุค เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน
ประเทศที่ผลิต และส่งออกก๊าซมากที่สุดในโลก 3 ลำดับแรกจากมากไปหาน้อย คือ รัสเซีย กาตาร์ สหรัฐ ในยุโรปนั้น จำเป็นต้องใช้ก๊าซรวมกันมหาศาลมากถึงกว่า 300,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี โดยพึ่งพาก๊าซจากรัสเซียราว 50% หรือราว 150,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ผ่านระบบท่อลำเลียงที่ซับซ้อน 5 ท่อ สะดวกประหยัด ราคามิตรภาพต่ำมากๆ แต่เมื่อยุโรป ถูกสหรัฐหลอกให้แบนรัสเซีย รัสเซียก็แบนสวนกลับบ้าง
โดยการปิด 1 ท่อส่งก๊าซ Yamal ส่งผลให้ปริมาณก๊าซหายวับไปในพริบตา สต็อกก๊าซแต่ละประเทศเริ่มหมดลง สหรัฐ ได้ทีขี่แพะไล่บีบสหภาพยุโรปให้ลงนามใน"สัญญาทาส" ซื้อก๊าซจากสหรัฐในราคาแพงกว่ารัสเซียถึง 3 - 5 เท่า เป็นขั้นบรรไดยาวนานถึง 8 ปี 2022 - 2030 แต่ปีนี้สหรัฐสัญญาว่าจะส่งมาทางเรือให้ได้แค่ 15,000 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น หรือทดแทนก๊าซรัสเซียได้แค่ 10% ซึ่งถือว่าน้อยมากๆ
ในปีต่อๆ ไปจะเพิ่มขึ้นทีละน้อยจนถึงปี 2030 จะได้ 50 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี หรือทดแทน 1 ใน 3 ที่รัสเซียขายให้ ยังขาดอีก 2 ใน 3 ดังนั้นยุโรป ก็หวังพึ่งพาก๊าซจากกาตาร์อีก 15 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี แต่แล้วทางการกาตาร์ ก็ออกมาบอกว่า "ไม่ผลิตเพิ่มให้ยุโรป" โดยให้เหตุผลว่า "การชดเชยก๊าซธรรมชาติรัสเซีย ในตลาดยุโรปนั้นคือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้" ด้านสหรัฐ ที่ได้สัญญาก๊าซจากยุโรปไปแล้ว ก็ลอยแพไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น ตัวใครตัวมัน
โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในยูเครนทุกแห่ง ก็โดนกองทัพรัสเซียยึดไปหมดแล้ว ตัดการจ่ายไฟฟ้าเข้ายุโรป ตอนนี้ EU จึงขาดแคลนพลังงานในการผลิตไฟฟ้าอย่างหนัก ต้องจำใจย้อนยุคโบราณ กลับไปใช้ "ถ่านหิน" มาเดินเครื่องโรงไฟฟ้าแทนก๊าซ โดยใช้ถ่านหินเพิ่มขึ้น 51% จากเดิม ก่อมลพิษ ก่อโรคเพิ่มขึ้น และยังสวนทางกับเป้าหมายลดโลกร้อนอีกด้วย แม้แต่เยอรมนี ก็ยังไม่รอดต้องสั่งปัดฝุ่นเดินเครื่องโรงไฟฟ้าถ่านหินแทนก๊าซ แต่ก็โชคร้ายซ้ำอีก เมื่อรัสเซีย ก็คือผู้ผลิตถ่านหินรายใหญ่สุดถึง 1 ใน 3 ที่ยุโรปต้องใช้ และรัสเซียก็แบนถ่านหินยุโรป ทำให้ต้องวิ่งไปหาถ่านหินจากทวีปอื่นแสนไกล คือ โคลอมเบีย แอฟริกาใต้ ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และสหรัฐ มาใช้แทน ขนส่งทางเรือมาไกลจึงแพงกว่ารัสเซียหลายเท่าอยู่ดี