จับตา! ประชุมพรรคเศรษฐกิจไทย "ลูกชายชูวิทย์" โผล่ร่วมงาน
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์ข้อความ “ลูกเอ๋ย พ่อจะสอนการเมืองให้ เมื่อ #พรรคเศรษฐกิจไทย ประชุมจัดทัพ 24 มีนาคม 2565 จับตา ‘ลูกชายชูวิทย์’ โผล่สังเกตการณ์!...
แม้แต่นายเติมตระกูล ลูกชาย ยังขออนุญาตไปสังเกตการณ์ #พรรคการเมือง
ผมได้แต่บอก #สุภาษิตประจำใจชูวิทย์ หลังผ่านร้อนผ่านหนาวการเมืองมากว่า 10 ปี เคยสมัครผู้ว่าฯกทม. 2 ครั้ง แล้วเป็นรองหัวหน้า #พรรคชาติไทย เดินตามท่านบรรหาร มังกรการเมือง
ออกมาตั้งพรรคเองอยู่หลายพรรค เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองจนได้คะแนนเสียงเป็นล้านจากประชาชนทั่วประเทศ
บทสรุปการเมืองไทยในคำจำกัดความ 10 ประการของผม ไว้สอนลูกสอนหลาน หรือคนที่อยากเข้าการเมืองทุกเวที. อย่างแรกคือ …
เมื่อยังไม่ได้เป็น ส.ส. ต้องพยายามทุกวิถีทาง ทั้งฉกฉวย ทั้งแย่งชิงจากเจ้าของพื้นที่
.
เมื่อได้เป็น ส.ส. แล้ว ต้องผูกขาดไม่ให้คนอื่นได้เป็น หากตัวเองไม่ได้เป็น ก็ต้องให้ลูกให้เมียได้เป็นแทน เขตนี้ของใคร หรือจังหวัดนี้ของตระกูลไหน ต้องตัดตอนไม่ให้คนอื่น ตระกูลอื่นได้แจ้งเกิด
เพื่อนจะดีกว่าเราได้ไง? เมื่อลงสนามต้องไม่มีมิตร
เป็นนักการเมือง ต้องแทงได้ทั้งต่อหน้า และเสียบลับหลัง
เมื่อก่อนเป็นนายพล เดินไปไหนมีแต่คนยกมือไหว้ แต่พอลงสมัคร ส.ส. กลับยกมือไหว้ได้แม้แต่สามล้อ บางทียังเผลอยกมือไหว้หุ่นหน้าร้านเสื้อผ้าเวลาไปหาเสียงที่ตลาดก็มี
อันนี้แน่นอน หากมือไม่ยาว จะสาวเอาผลประโยชน์เข้าตัวเอง พวกพ้องน้องพี่ได้ไง?
#ได้ฝากเมีย เสียยกให้เพื่อน
หากได้ต้องเอาเข้าบ้าน เรื่องเสียยกให้คนอื่น เหมือนออกจากพรรค หันหลังไม่ทันไร ด่าไล่สาปส่งเสียแล้ว
นักการเมืองทุกคนต้องรู้จักผัดวันเวลา ว่ายังไม่ถึงเวลา “ไม่รู้ ไม่รู้ เดี๋ยวถึงเวลารู้เอง”
จุดธูปคนละดอก ไปสาบานกันที่ท้องสนามหลวง หากพูดไม่จริงขอให้ฟ้าผ่าตายสิ
เมื่อวงจรการเมืองถึงจุดจบ ประชาชนสิ้นศรัทธา ก็จะมีคนใหม่มาแทน แล้ววงจรก็จะวนกลับไปเริ่มต้นใหม่ เป็นแบบนี้เสมอมา
บางคนรอเข้าสภา 30 ปี ยังไม่ได้เข้า
บางคนเข้าสภาครั้งแรก ทำตัวไม่ถูก เหมือนสามล้อถูกหวย เกิดเก่งขึ้นมา รู้ทุกเรื่อง ใหญ่ทุกที่ จนไม่ได้เป็น ส.ส. ก็ค่อยๆ หายสาบสูญไป
บางคนเสวยอำนาจได้เป็นรัฐบาลแล้วติดใจ ไม่ยอมไปไหน เพราะหลงไหลในความสุขของการมีอำนาจ ทำตัวเหมือนไก่ขันยามเช้า หลงตัวว่า หากไม่มีเสียงขัน แล้วพระอาทิตย์จะไม่ขึ้น
หากไม่มีตัวเองอยู่ บ้านเมืองจะไปไม่ได้ อ้างสารพัดอ้าง
บ้านเมืองไม่ใช่เป็นของเราคนเดียวหรือพรรคเราเท่านั้น หากเห็นว่าอะไรไม่ดี คัดค้าน หากเห็นว่าอะไรดีต่อบ้านเมืองก็สนับสนุนกันเถอะพ่อเจ้าประคุณ ไม่ใช่ถูกอยู่คนเดียว หรือค้านตะบี้ตะบันกันทุกเรื่อง
#อย่าไปหลงตัวเองเหมือนไก่ ท้ายสุดผู้คนจะสิ้นศรัทธา
ไม่ต้องดูอื่นไกล ไม่ต้องให้เอ่ยชื่อ... มันบาปกรรมตายชัก”
อ้างอิงจาก: ThaiTribune