"สุวินัย วิธีที่ฉันสอนพลังจิตและพลังปราณให้เธอนั้น ไม่เหมือนใคร หรอกนะ
"สุวินัย วิธีที่ฉันสอนพลังจิตและพลังปราณให้เธอนั้น
ไม่เหมือนใคร หรอกนะ
พลังจิตของเทพเจ้าหรือโพธิสัตว์เจ้านั้น
มาจากการไร้อารมณ์
มาจากกระบวนการไม่มีอารมณ์
ไม่ปรากฏอารมณ์ใดๆ ในจิต
จนกระทั่งจิตนิ่งสงบ ... เป็นพลังจิต
แต่วิธีการที่ฉันทำให้เธอได้พลังจิตนั้น
มาจากการที่ฉันโจมตีจิตใจเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ด้วยกลวิธีต่างๆในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมานี้
ฉันบดขยี้จิตใจของเธอ
ฉันเหยียบย่ำจิตใจของเธอ
ฉันบีบเค้นจิตใจของเธอต่างๆนานา
จนกระทั่งไม่มีมลภาวะใดๆ
ปรากฏในดวงจิตของเธออีกต่อไป
จนกระทั่งจิตของเธอทรงไว้ซึ่งความสะอาด
ฉลาด สว่าง สงบอย่างเป็นไปเอง
และตัวรู้ของเธอมันรู้ชัด รู้กระจ่าง
รู้สว่าง รู้แจ้ง รู้จริงขึ้นมาเอง"
******
เมื่อสิบกว่าปีก่อน ... ผมเคยอธิษฐานจิตต่อเบื้องบนดังต่อไปนี้
ขอองค์พระบิดาผู้เป็นปฐมคุรุของลูกที่ลูกรักเคารพสุดบูชายิ่ง
โปรดมอบจักษุที่ให้ลูกสามารถมองเห็นแต่สิ่งประเสริฐสุดในทุกๆเรื่อง ...ที่ลูกเข้าไปพานพบ
โปรดมอบหฤทัยให้ลูกสามารถให้อภัยต่อเรื่องที่เลวร้ายทั้งหลายทั้งปวง ...ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
โปรดมอบจิตใจที่ทำให้ลูกสามารถลืมเรื่องผิดหวังต่างๆ ...ที่เพิ่งเกิดขึ้นมาได้อย่างหมดจด
และ โปรดมอบดวงวิญญาณที่ไม่เคยสูญเสียศรัทธาในการเป็นอณูของพระเจ้า ...ที่ดำรงอยู่ในตัวลูกด้วยเทอญ
..........
ปัญญาจักษุคือการมองโลกและชีวิตด้วยจิตอันพิสุทธิ์
และแลเห็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดเท่าที่จะแลเห็นได้ในทุกๆเรื่องราวเท่านั้น
เมื่อเราสามารถมองโลกได้แบบนี้แล้ว
เราย่อมเรียนรู้วิธีที่จะรักสังสารวัฎ
และเมื่อใดที่เรารักสังสารวัฎได้ เมื่อนั้นตัวเราจะอยู่ในภพภูมิของพระโพธิสัตว์ทันที
เป็นหนึ่งแขนให้พระโพธิสัตว์ประเสริฐกว่าได้ลาภยศใดๆทั้งปวง
เป็นหนึ่งตาให้พระโพธิสัตว์ประเสริฐกว่าการได้ครอบครองชื่อเสียงทั้งหลาย
สุวินัย ภรณวลัย













